บิตคอยน์มีข้อได้เปรียบบางประการเมื่อเทียบกับทองคำ 1. คุณค่าของทุกสิ่งถูกตีมูลค่าจากยุคสมัย - Bitcoin Advantage: บิตคอยน์มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้เร็วในยุคดิจิทัล เพราะสามารถโอนและเก็บรักษาได้ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งไม่ต้องพึ่งพาคลังสินค้าหรือการขนส่งที่เป็นอุปสรรคเหมือนทองคำ นอกจากนี้ Bitcoin ยังมีการจำกัดจำนวน (21 ล้านเหรียญ) ซึ่งทำให้ไม่สามารถสร้างเพิ่มได้เหมือนทองคำที่สามารถขุดเพิ่มได้ 2. ทองคำได้รับการยอมรับมากกว่า - Bitcoin Advantage: บิตคอยน์แม้จะยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเหมือนทองคำ แต่ก็มีการเติบโตในด้านการยอมรับจากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยบางประเทศเริ่มยอมรับ Bitcoin เป็นเงินสกุลท้องถิ่น (เช่น เอลซัลวาดอร์) และการใช้บิตคอยน์ในการซื้อสินค้าหรือการลงทุนในหลากหลายแพลตฟอร์มก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 3. ทองคำมีการใช้งานในอุตสาหกรรม - Bitcoin Advantage: แม้ว่าทองคำจะมีการใช้งานในอุตสาหกรรม แต่บิตคอยน์ก็มีข้อได้เปรียบในเรื่องของการใช้เป็นระบบการเงินดิจิทัลที่ช่วยลดค่าธรรมเนียมและระยะเวลาในการโอนเงินข้ามประเทศ บิตคอยน์สามารถใช้งานได้ทันทีและไม่ต้องผ่านธนาคารหรือบุคคลที่สาม 4. บิตคอยน์ยังไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง - Bitcoin Advantage: บิตคอยน์มีข้อได้เปรียบในการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและปลอดภัยจากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) ซึ่งไม่ต้องพึ่งพาองค์กรกลางหรือธนาคารในการตรวจสอบ ทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายและถูกกว่าทองคำที่ต้องพึ่งพาการขนส่งหรือการจัดการทางกายภาพ ### บิตคอยน์: - ความสะดวกสบายในการโอนเงินและเก็บรักษา - จำนวนจำกัดและสามารถติดตามได้อย่างโปร่งใสผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน - การเติบโตของการยอมรับในระดับสากล - ไม่ต้องพึ่งพาคลังสินค้าและขนส่ง

Net settlement ของ บิตคอยน์ (Bitcoin) vs ทองคำ # 1. การทำธุรกรรมที่รวดเร็ว - Bitcoin Advantage: การทำธุรกรรมด้วยบิตคอยน์สามารถดำเนินการได้ในเวลาไม่กี่นาที (โดยเฉพาะในเครือข่าย Bitcoin Lightning Network ที่ช่วยทำให้ธุรกรรมเร็วยิ่งขึ้น) ซึ่งทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอหลายวันหรือพึ่งพาตัวกลางเช่นธนาคารต่างชาติที่เกี่ยวข้อง - ทองคำ: การทำธุรกรรมทองคำจำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการขนส่งและการตรวจสอบทางกายภาพ ซึ่งใช้เวลาและมีค่าใช้จ่ายสูง เช่นเดียวกับการซื้อขายทองคำในตลาดที่อาจต้องรอการตรวจสอบสินค้าหรือการขนส่งระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย # 2. การโอนเงินข้ามประเทศที่คุ้มค่า - Bitcoin Advantage: Bitcoin ช่วยลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมข้ามประเทศได้มาก เนื่องจากไม่ต้องผ่านตัวกลางหรือธนาคารที่มีค่าธรรมเนียมการโอนที่สูง การทำธุรกรรมด้วย Bitcoin สามารถทำได้โดยตรงระหว่างผู้ใช้และใช้ค่าธรรมเนียมที่ต่ำ - ทองคำ: การส่งทองคำข้ามประเทศไม่เพียงแต่ต้องใช้เวลา แต่ยังต้องมีค่าธรรมเนียมสูงทั้งในด้านการขนส่งและการประกัน ทำให้ต้นทุนในการทำธุรกรรมทองคำสูงกว่า # 3. ไม่มีการจำกัดทางกายภาพ - Bitcoin Advantage: เนื่องจากบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีตัวตนทางกายภาพ ทำให้สามารถเก็บและโอนย้ายได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องพึ่งพาการขนส่งหรือการจัดการทางกายภาพ - ทองคำ: ทองคำต้องใช้พื้นที่ในการเก็บรักษาและอาจมีความเสี่ยงจากการขนส่ง เช่น การถูกโจรกรรมหรือความเสียหายจากการจัดการ # 4. โปร่งใสและปลอดภัย - Bitcoin Advantage: การทำธุรกรรมทั้งหมดในเครือข่ายบิตคอยน์จะถูกบันทึกลงในบล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบที่โปร่งใสและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงย้อนหลังได้ การตรวจสอบและการทำธุรกรรมเป็นไปได้ด้วยความปลอดภัยสูง - ทองคำ: ทองคำไม่สามารถตรวจสอบหรือยืนยันการทำธุรกรรมได้ในทันทีเหมือนบิตคอยน์ การทำธุรกรรมทองคำจำเป็นต้องพึ่งพาผู้กลาง เช่น ธนาคาร หรือผู้ค้า ซึ่งอาจมีความเสี่ยงในการฉ้อโกงหรือข้อผิดพลาด # 5. ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง - Bitcoin Advantage: ในระบบบิตคอยน์ ไม่มีการพึ่งพาตัวกลาง เช่น ธนาคารหรือหน่วยงานการเงิน ซึ่งช่วยลดความล่าช้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการจากบุคคลที่สาม - ทองคำ: การซื้อขายทองคำมักต้องผ่านตัวกลางที่มีขั้นตอนหลายขั้นตอน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความแท้ของทองคำและการจัดการด้านการขนส่ง ทำให้การทำธุรกรรมซับซ้อนและมีต้นทุนสูง ## การ net settlement ของบิตคอยน์ได้เปรียบทองคำในด้าน ความเร็ว และ ต้นทุนต่ำ ในการทำธุรกรรมข้ามประเทศ และการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางหรือกระบวนการทางกายภาพที่มีค่าใช้จ่ายสูง การเก็บรักษาและการทำธุรกรรมของบิตคอยน์จึงสะดวกและปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับทองคำ

ซื้อไปเถอะครับ ราคาตอนนี้ยังแค่ตีนดอย เหมือนย้อนเวลาไปซื้อที่ดินสีลมเมื่อ20ปีก่อน😂

เรารู้จักหรือหันมาสนใจ btc ณ ราคาไหน ก็เหมาะกับเราราคานั้น ถือว่าเราเพิ่งเกิดก็แล้วกัน เราย้อนไปซื้อในราคาก่อนเราเกิดไม่ได้น้อ

4 ปีที่แล้ว 69000 คือยอดครับ มาดูวันนี้สิ... 1.ออมเท่ากับเงินที่เสียได้ครับ จะ 1 %, 0.5 % ก็ได้ 2.วินัยเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเราตั้งเป้าจะซื้อทุกเดือนก็คือซื้อทุกเดือนครับ ถ้า Dca เราต้องใส่หมอกความคิดแบบ Dca แต่ถ้าจะเทรด นั่นเป็นอีก mindset นึง

ซื้อทางเว็บไซต์ rightshift ได้เลยครับ rightshift.to/shop-2/

ทุกครั้งที่ดอลล่าถูกพิมพ์ขึ้น เป็นการส่งออกเงินเฟ้อไปทั่วโลก ทุกครั้งที่รัฐบาลไทยกูหนี้เพื่อมาใช้จ่ายงบประจำปีคือการสร้างเงินเฟ้อให้กับระบบเงินบาท ทุกครั้งที่ธนาคารพานิชย์ในไทยให้การกู้ยืมคือการทำสัญญาทาสให้กับประชาชน