ขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงครับ

ศาสนาพุทธเป็นคำสอนที่พิสูจน์ได้ เชิญมาพิสูจน์กันเถิด อย่าดูหมิ่นดูแคลนศาสนาอื่นๆ กันเลย เมื่อคุณยังไม่รู้จริง จะทำให้ปัญญามืดบอด ในทางสวรรค์นิพพานท่านสอนไว้ อย่าเชื่อๆ จงพิสูจน์ พุทธแค่ศีล 5 ก็ได้สวรรค์แล้ว แต่มันมีสูงสุดที่ไม่มีใครสอนได้นอกจากพุทธ ไม่ว่าใครที่บรรลุแล้วและสอนเราได้ นำเราข้ามแม่น้ำได้ จงพิสูจน์กับท่านเถิด คำสอนพุทธะยังคงอยู่กับผู้ที่ถึงที่สุด ท่านชี้ทางได้

ครับผม

สตีเฟ่น ฮอร์กิ้ง นักวิทยาศาสตร์ แควนตั้มฟิสิกซ์ ชื่อดังของโลก (เพิ่งเสียชีวิตไม่กี่ปี) เกิดในตระกูลคาทอลิค ผู้ไม่เคยเชื่อ/นับถือพระเจ้าทั้งชีวิต รวมทั้ง อัลเบิร์ต ไอซไตน์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลก เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพ E=MC/2 ผู้ไม่เคยเชื่อ/นับถือพระเจ้าตลอดชีวิต …มีศาสนิกผู้นับถือศาสนา เทวนิยม/พระเจ้า บางคนพูดว่า ศาสนาคริสต์, อิสลาม มีผู้คนนับถือจำนวนมาก (จริง)… ถ้าศาสนาพุทธ ดีจริง ทำไม มีคนนับถือน้อยกว่า…ตอบง่าย ๆ ตามความเป็นจริง/ของจริง แบบไม่ต้องคิด มนุษย์บนโลกนี้มีจำนวนประชากร 8,000 กว่าล้านคน… …คนจนมากกว่า คนรวย (ระดับมหาเศรษฐีมีประมาณ 900 กว่าคน..ระดับเศรษฐีมีประมาณ 3,000 กว่าคน =เศรษฐี มหาเศรษฐี คือ คนส่วนน้ิอยของโลก) …คนโง่ มากกว่า คนฉลาด (=คนฉลาด/ปัญญาล้ำเลิศ คือ คนส่วนน้อยของโลก เช่น เดียวกับพวกเศรษฐีนั่นแหล) …คนโง่ กับคนฉลาด ใครจะเลือกนับถือ ศาสนาอะไร ? ระหว่าง …ศาสนา เทวนิยม/พระเจ้า เข้าถึงด้วยการเชื่อ/ความเชื่อ ห้ามสงสัย ห้ามถาม ประเดี๋ยว พระเจ้าลงโทษ !! ศาสนิกจะทำชั่วมากน้อยแค่ไหน ประเทศชาติบ้านเมือง สังคมมนุษย์ จะเดือดร้อน ลุกเป็นไฟ ก็ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวพระเจ้าล้างบาป ยกโทษให้ แถมได้ไปอยู่สวรรค์กับพระเจ้า !! (อ้อนวอน ร้องขอ รอพระเจ้าบันดาล) …ส่วนศาสนา อะเทวนิยม/พุทธ ปฎิเสธเรื่องการมีพระเจ้า ผู้คอยปัดเป่า ร้องขอ รอดลบันดาล …มนุษย์นี่แหละคือสุดยอด แต่ต้องเป็นมนุษย์ที่ ฝึก ศึกษา เรียน/อบรม เพื่อให้เกิดปัญญา แล้วนำมาพัฒนาตนเอง/ครอบครัว/ประเทศชาติ ต้องพึ่งตนเอง ยืนบนลำแข้งตนเองให้ได้ ไม่ต้องร้องขอ รอแจกหรือให้ใคร พระเจ้าที่ไหน บันดาลให้ ถ้าร้องขอได้ รอดลบันดาลจากใครก็ไม่รู้ได้สำเร็จ โลกนี้ไม่มีคนจน เป็นมหาเศรษฐีกันทั้งหมด…ศาสนาพุทธ เป็นคำตรัสสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นบรมครูของ มนุษย์และเทวดา เพราะพระองค์ทรงเป็น… สัพพัญญู…รู้แจ้งโลก มัคคัญญู…รู้แจ้งมรรค/รู้มรรคก่อน มัคควิทู…เป็นผู้ฉลาดในมรรค…ส่วนสาวก เป็นเพียง มัคคานุคา..ผู้เดินตาม/ปฏิบัติตามให้ รู้แจ้ง เห็นจริง ดับทุกข์/พ้นทุกข์จริง และบรรลุเป็นพระอริยะ (พุทธศาสนา ต้องรู้/เข้าถึงด้วย การปฏิบัติใช้ สติปัญญา พิจารณาโดยแยบคาย (โยนิโสมนสิการ)…ภิกขุต้องปฏิบัติตาม ไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ..คฤหัสถ์/ฆราวาส ให้ถือปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา)

ขอบคุณมากครับ

นั่นไง คุณจะเชื่อพระเจ้า ก็ต่อเมื่อคุณได้อะไรจากพระองค์ก่อน คุณลองไปสมัครงานดู แล้วบอกเขาว่าผมขอเงินเดือนก่อน แล้วผมจะทำงานให้ ไม่มีหรอกผมรับรอง

ขอบพระคุณมากๆๆ ครับ ช่วยแชร์ให้ได้ประโยชน์กันมากๆ ด้วยครับ

ตนคริสต์บอกเองครับ อีกทั้งชาวยิวโดยเฉพาะพระยิว ออกมาประกาศหลายครั้ง หลายวาระว่าไม่ยอมรับครับ

จักรวาลอื่นๆ แกแล็คซี่อื่นๆ ดาวดวงอื่นๆ แล้วท่านคิดว่าใครสร้างหละ? สำหรับคนที่มีปัญญาถึงแล้วเขาข้ามความเชื่อแบบนี้ไปหมดแล้ว.."อยู่กับปัจจุบันขณะก็พอ"

❤ความจริงคือวงแตก😂

555 เดี๋ยวคลิปหน้าจะมาพูดเครื่องคริสต์ล้วนๆ ครับ

ชาดกคือนิทานท่านต้องใช้ปัญญาในการฟังว่าชาดกนั้นต้องการสอนอะไรเป็นสำคัญ ชาวพุทธไม่ได้นับถือศาสนาพุทธเพราะศาสดาเกิดมาแล้วเดินได้ 7 ก้าว เรานับถือเพราะใช้ปัญญาพิจารณาในหลักธรรมของพระองค์แล้วเห็นว่าจริง พระพุทธเจ้าไม่มีอยู่แล้วในโลกนี้ และพระธรรมคือศาสดาในขณะนี้ และพระธรรมกับชาดกมันคนละอย่างกัน แม้ท่านโจมตีชาดก พระธรรมก็ตั้งอยู่เหมือนเดิม แม้ท่านโจมตีพระพุทธเจ้า พระธรรมก็ตั้งอยู่เหมือนเดิม ท่านโจมตีพระธรรมไม่ได้เพราะพระธรรมเป็นหลักความจริงทั้งนั้น ศาสนาจึงแบ่งเป็น 3 ส่วน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธเจ้าเกิดมาเดินได้ 7 ก้าวไม่ใช่พระธรรม พระพุทธเจ้าเทศนาโปรดเทวดาไม่ใช่พระธรรม ปาฏิหาริย์ต่างๆที่เล่าต่อกันมาไม่ใช่พระธรรม จึงอธิบายให้คุณฟัง

ผมพูดเรื่องความจริง ไม่ได้คุยเรื่องปาฏิหาริย์ครับ

@@Anuparb12 เรื่องที่มาจากปากคนเดียวกัน คุณเลือกเชื่อด้วยเหรอ ความจริงจากปากมนุษย์ สุดท้ายมันก็จำกัดอยู่แค่สติปัญญาของมนุษย์ ไม่สามารถช่วยให้หลุดพ้นได้แท้จริง พระคัมภีร์บันทึกว่า เหล็กในของความบาปคือความตาย ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ พระพุทธเจ้าสุดท้ายก็ป่วยตาย แต่พระเยซูตายเพื่อไถ่บาปแล้วฟื้นขึ้นใหม่ภายใน3วัน แล้วไม่ตายอีกทรงเสด็จสู่สวรรค์ต่อหน้าสาวกและผู้ติดตาม 500คน

@@Jone500 หลักข้อเชื่อของคริสเตียนง่ายๆ เราเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง เชื่อว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า เพราะฉะนั้นพระเจ้าจะทำอะไรก็ทำได้ตามใจพระองค์อยู่แล้ว การ เป็นคริสเตียนคือการกลับมามีความสัมพันธุ์กับพระเจ้าเหมือนคนในครอบครัว พ่อ-ลูก พ่อรักลูกช่วยลูก ลูกขอให้พ่อช่วยก็ไม่แปลกและสุดท้ายลูกได้ไปอยู่กับพ่อและร่วมเป็นเจ้าของทรัพย์สินของพ่อ(แผ่นดินสวรรค์) แต่ความเชื่อที่พวกคุณศรัทธาคือพระธรรมที่คนๆหนึ่งคิดขึ้นมา แล้วเขาก็ตายไปซึ่งเขาเองก็ไม่ได้หนีพ้นกฎธรรมชาติการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย

@@PruchyaPonmun ท่านยังเข้าใขผิด พระธรรมไม่มีใครคิดขึ้นมา พระธรรมเป็นความจริงอยู่แล้ว เราแค่ไปรู้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ในหลักความจริงที่มีอยู่แล้วในโลก ท่านเพียงแค่บอกต่อ พระธรรมนั้นเป็นสัจจะความจริง ความจริงนี้มันมีอยู่แล้ว ความจริงจึงไม่มีเหตุต้องเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะมันมีของมันอยู่แล้ว เช่นในอากาศมีก๊าซออกซิเจน ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ช่าง แต่ท่านจะรู้เมือสูดลมหายใจ เราจึงเพียงแค่รู้เมื่อปฎิบัติตามที่พระองค์แนะนำ ไม่ต้องเชื่อหรือไม่เชื่อเพราะความจริงไม่สนใจว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะมันก็ตั้งอยู่เป็นความจริงเสมอ

อีกไม่นานค่ะ เขาจะรวบรวมให้มีศาสนาโลก เพียงศาสนาเดียวเท่านั้น แล้วจะบังคับให้คนกราบไหว้บูชาค่ะ นี่ไม่ใช่ศาสนาใดๆที่มีในโลกนะคะ ถ้าเป็นคริสต์แล้วศึกษาเรื่องนี้ จะเข้าใจและอีกไม่นานสิ่งนี่จะเกิดขึ้น หนักกว่า คริสต์ พุทธ อิสลาม ทะเลาะกันอีกจ้า ข้อมูลนี้อยู่ใน พระธรรมวิวรณ์ในไบเบิ้ลนะคะ

บาง คน รู้ไม่จริงออกมาพูด คนรู้จริงไม่พูด รู้แล้วไม่เชื่อ ไม่สำนึกบาปกลับใจ ผลสุดท้ายคือนรก คนบาปไม่ต่างกัน คอยดูกันหลังจากตายเท่านั้น มนุษย์มีที่ไป สองที่ ไม่นรกก็สวรรค์ พระเยซูเจ้าตรัสว่า"เราเป็นทางนั้นเป็นความจริงและเป็นชีวิต"คนตามพระเยซูไม่ตายมีชีวิตนิรันดร์ ไม่เชื่อ ไม่กลับใจ ก็นรกนิรันดร์ แยกกันอยู่ไปม่าหาสู่กันไม่ได้ ตายนิรันดร ไม่มีนาฬิกา ตลอดไปไม่มีจบ

หลักการรักเพื่อนบ้าน เหมือนรักตนเองได้อย่างไร คำตอบ ต่อเมื่อรู้ความรักของพระเยซูก่อนแล้วเราจะรักเพื่อนบัานได้ แล้วเรารู้ความรักของพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร ยอมตายที่บนไม้กางเขน เหตุผลคือ พระเยซูไม่เคยทำบาป แต่เคยมีบาป บาปที่พระเยซคริสต์มีนั้นคือบาปของมนุษย์ทุกคน

@@goddemz4514 ประเด็นบาปกำเนิดผมจะตอบสั้นๆครับ ฝั่งคริสต์กับยูดายเขาอ่าน Genesis แล้วตีความคนละแบบ คริสต์เขาเชื่อว่าทุกคนบาปตั้งแต่เกิด ยูดายจะตีความว่ามนุษย์เลือกได้ทั้งดีและชั่ว ผมอ่านพันธสัญญาใหม่ เคยไปเข้าคลาสเรียนกับโบสถ์คริสต์ด้วย จะตอบให้ครับว่าทำไมศาสนายูดายยังไม่เชื่อในพระเยซู (มีกลุ่มที่เชื่อในพระเยซูนะ แค่พวกเขาไม่ใช่กระแสหลัก) 1. คำทำนายที่มิชชันนารี (ไม่ใช่บาทหลวงนะ มิชชันนารีคือผู้เผยแพร่) มักจะยกมา เช่น อ้างจากที่โมเสสพูดว่าจะมีผู้เผยแพร่ขึ้นมาแทนโมเสส แล้วอ่านตีความโยงไปหาพระเยซูเลย ทั้งที่ท่อนต่อมาคัมภีร์ก็บอกว่าโมเสสพูดถึงโจชัว แล้วก็​อีก 300 จุดครับที่มิชชันนารีฝั่งคริสต์ชอบมั่วตีความให้เป็นเรื่องของพระเยซู 2. ถ้าคุณฟังแชมป์ในคลิปใหม่ จะเริ่มได้ยินแนวคิดที่ว่าพวก "ฟาริสี" เคร่งเกินไปและฆ่าพระเยซู นั่นแหละครับ เขากำลังด่าศาสนายูดายอยู่ว่าแนวคิดของศาสนาอื่นทำให้พระเยซูตาย (โทษยิวเรื่องพระเยซูตายนะ แต่ก็ขอบคุณพระเยซูที่ตายเพื่อบาปของเขา) 3. เรื่องพระเยซูเกิดจากสาวบริสุทธิ ทำให้ทางยูดายไม่กล้ายอมรับเรื่องว่าเป็นเรื่องจริงครับ เพราะในยุคที่คริสต์แพร่ใหม่ๆ อิสราเอลเป็นเมืองขึ้นโรมัน คนยูดายยุคนั้นเขาก็ได้ยินว่าตำนานกรีก-โรมันมีลูกเทพเกิดจากสาวบริสุทธิ เขาก็เข้าใจว่าคริสต์เป็นนิกายใหม่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมอื่น 4. แนวคิดที่ว่าไม่เชื่อในพระเยซูแล้วตกนรก มาจากกลุ่มของพอล ซึ่งไม่ได้เป็นลูกศิษย์พระเยซูโดยตรง แต่อ้างว่าไปเจอพระเยซูในทะเลทรายหลังจากที่พระเยซูถูกประหารไปแล้ว แล้วน้องชายพระเยซูเองก็ทำโบสถ์ต่อด้วย แต่ดันสอนศาสนายูดาย ไม่ได้สอนแบบพอลที่ให้เน้นความเชื่อ (ยิ่งทำให้ยิวปฏิเสธ เพราะ 30% ของคัมภีร์คริสต์ เขียนโดยพอลและลูกศิษย์) 5. แนวคิดเรื่องซาตาน คริสต์มองซาตานเป็นศัตรูกับพระเจ้า เป็นเทวดาตกสวรรค์ ซึ่งมาจากการเขียนเพิ่มของพอล และนิยายของมิลตั้นชื่อ Paradise Lost ไม่ได้มีในคัมภีร์เดิม แนวคิดแบบแชมป์ที่ว่าคนไม่เชื่อมีซาตานในตัว ก็มาจากจุดนี้ 6. พันธสัญญาใหม่ มีความน่าสงสัยมาก เพราะหลายๆ concept ในนั้นเหมือนจะเป็นโฆษณาชวนเชื่อของรัฐ ให้ประชาชนในเมืองขึ้นกระด้างกระเดื่องน้อยลง (ยุคก่อนพระเยซูจะมาสอน เพิ่งมีกบฎพยายามจะล้มอำนาจโรมันในอิสราเอลไปรอบหนึ่ง) ความเป็นไปได้นี้ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่ปฏิเสธไว้ก่อน 7. ในประวัติศาสตร์ยิว หลังพระเยซูไปแล้ว มีคนโผล่มาอ้างตนเป็นเมสไซอาห์เต็มไปหมด ทางศาสนายูดายเขาก็เข็ดหลาบ ยิ่งกลัวศาสนาคริสต์มากกว่าเดิม เพราะเหมือนศาสนาคริสต์เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดลัทธิใหม่ๆขึ้นมาได้เรื่อยๆ แค่มีคนอ้างว่า "ได้ยินพระเจ้าพูด" ก็ออกมาตั้งลัทธิใหม่ได้แล้ว เขาเลยปิด หยุดเปิดรับจากคริสต์มากขึ้นไปอีก 8. ในยูดาย มีบัญญัติให้เคารพในความเชื่อ, ศาสนาและประมุขรัฐของดินแดนที่ผู้เชื่อย้ายไปอยู่ ดังนั้น ยูดายจึงไม่ยอมรับคริสต์ เพราะแนวคิดเผยแพร่ศาสนาของคริสต์ขัดกับบัญญัตินั้น ซึ่งบรรดาอาจารย์ทั้งหลายก็จะมองว่า พระเจ้าไม่น่าจะเปลี่ยนใจ (บัญญัติเป็นนิรันดร์) 9. จุดสำคัญที่ทำให้คนส่วนใหญ่ในฝั่งยูดายไม่ยอมรับพระเยซู คือเขาไม่ได้เกิดในศาสนาคริสต์ครับ เด็กหลายๆคนไม่รู้จักพระเยซูด้วยซ้ำ แต่จะถูกเพื่อนที่โรงเรียนที่เป็นคริสต์ก่นด่าว่าฆ่าพระเยซู หรือโดนเพื่อนปาหินใส่บ้าน จะมีคำพูดที่เขาแซวกันเล่นๆว่า "ไม่มีความเกลียดชังใด ร้อนแรงกว่าความรักของคริสเตียน" เพราะคนของเขาโดนมาเยอะ 10. ยูดายยอมรับพระเยซูในฐานะพระอาจารย์ที่ฉลาด หัวก้าวหน้า เป็นนักต่อสู้ทางการเมืองที่ลุกมาต่อต้านคอรัปชัน แต่ยอมรับไปแบบนั้นก็ถูกชาวคริสต์บางส่วนเกลียดอยู่ดีที่ปฏิเสธพระเยซูในฐานะพระเจ้า ทั้งสองศาสนานี้เขาเลยเลี่ยงๆที่จะคุยกัน เพราะยิ่งคุยยิ่งปวดหัว ด้วยความที่ชาวคริสต์ได้รับการเรียนพระคัมภีร์แบบแยกส่วน หรือตีความให้ถ้อยคำในคัมภีร์เกี่ยวกับพระเยซูไปเสียหมด ทำให้คุยกันไม่ได้ ด้วยความที่ยูดายอ่านตามเนื้อเรื่อง และบริบท 11. จุดสุดท้าย คือคนยิวส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็เหมือนคนสมัยใหม่ ไม่ได้นับถือศาสนาแล้ว พิธีรีตองอะไรที่เคยมีเขาก็ทำๆกันไปเหมือนคนจีนเจนฯใหม่ไหว้เชงเม้งแหละครับ ดังนั้น พอเจอคริสต์มากดดันให้เชื่อในพระเยซูเขาก็ยิ่งหนีดิ

บาปของคริสต์เป็นโรคติดต่อพ่อบาปลูกต้องถูกลงโทษ พระเจ้าอาฆาตแรง