Рет қаралды 95,613
๐ บัวบกโขด บัวบกโคก บัวบกหัว บัวบกป่า
๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): ชื่อเดิม “Stephania erecta” (เดิมป็นที่รู้จักในเชิงพาณิชย์ในชื่อจนถึงต้นปี ค.ศ. 1920) สำหรับชื่อชนิดพันธุ์เดิม “erecta” หมายถึง กิ่งก้านชี้ที่โผล่ออกมาจากหัวหรือโขด (caudex) ชื่อใหม่ คือ “Stephania pierrei” โดยชื่อชนิดพันธุ์ “pierrei” ตั้งให้เป็นเกียรติแก่นักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Jean Baptiste Louis Pierre ผู้ทำการจัดลำดับพืชพันธ์นี้เสียใหม่ ชื่อสกุล “Stephania” มาจากรากศัพท์ภาษากรีก หมายถึง “มงกุฎ พวงมาลัย หรือเกียรติยศ”
๐ ชื่อสามัญ (Common Name):
๐ ชนิด (Type): ไม้โขด (Caudiciform หรือ Caudex Plant) ที่มีส่วนของ ลำต้นกิ่งก้านงอกออกจากส่วนโขด
๐ วงศ์ (Family): Menispermaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : ประเทศไทย สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 0-100 เซนติเมตร (บางเอกสารบอกว่าสูงได้ถึง 8 เมตร แต่ไม่มีภาพประกอบ)
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: กิ่งใบยาวได้ถึง 100 เซนติเมตร ขนาดของหัวหรือโขดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ถึง 30 เซนติเมตร (จากการบันทึกไว้จริงที่ยาวได้ถึง 1.1 เมตร ต้องใช้ระยะเวลาในการปลูกถึง 20 ปี)
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามข้อกิ่ง กลีบดอกสีเหลือง
๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดเต็มวันเลยหรือแดดบางส่วนของวัน
๐ ความต้องการน้ำ (Water): น้อย
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): น้อย คอยตัดแต่งใบที่เหลือง และเสียหายออกเพื่อรักษาความสวยงามของทรงพุ่ม
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ไม้กระถางประดับในร่ม
๐ ใบไม้ (Leaf): ใบรูปโล่ (Peltate) โดยมีแผ่นใบรูปกลมคล้ายโล่ มีก้านใบติดตรงกลางด้านล่างของท้องใบ
๐ การเพาะปลูก (Culture)
การปลูกบัวบกโขด นิยมปลูกเป็นไม้กระถางควรเลือกกระถางปลูกให้มีพื้นที่ห่างจากขอบประมาณ 1 ถึง 2 นิ้ว โดยความสูงของกระถางเพียงพอต่อการรองรับน้ำหนักและทำให้ทรงพุ่มไม่คลอนแคลน หรือพลิกล้มได้โดยง่าย การเตรียมดินปลูก ควรใช้ดินผสมปลูกสำหรับกระบองเพชร หรือดินที่มีคุณสมบัติ มีความอุดมสมบูรณ์ของดินจากอินทรีย์วัตถุ มีโครงสร้างของดินที่ระบายน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี ควรรองก้นกระถางด้วยหินหรือกรวด บริเวณด้านล่างก่อนเติมดินปลูกลงไปเนื่องจากบัวบกโขดไม่ชอบดินที่ชื้นแฉะมากเกินไป หากเป็นการเพาะปลูกครั้งแรกจากหัวหรือโขดที่ยังไม่มีใบงอกขึ้นมา ควรนำไปแช่ในน้ำอุ่นเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการงอกของใบ โดยแช่ทิ้งไว้หนึ่งคืน จากนั้นให้นำขึ้นมา ให้ฝังหัวลงไปในดินประมาณสองในสามของหัว จะช่วยให้ได้รับความชุ่มชื้นมากขึ้น และงอกง่ายขึ้น นอกจากนี้อาจใช้ถุงพลาสติกครอบแล้วมัดปากเพื่อช่วยในการรักษาความชื้นให้เกิดการงอกง่ายขึ้น หรืออาจจะใช้ฮอร์โมนพืชกลุ่มออกซิน (AUXIN) ช่วยเร่งการเจริญเติบโตช่วยในการยืดตัวของยอด โดยผสมน้ำตามอัตราส่วนแล้วฉีดพ่น
สำหรับการนำมาประดับตกแต่งควรวางหัวหรือโขดโผล่พ้นดินอย่างน้อยสองในสามของหัว ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สวยงาม และทำให้รากได้รับน้ำและธาตุอาหารอย่างเพียงพอ สำหรับการรดน้ำ ให้น้ำเพียงเล็กน้อย หนึ่งถึงสองครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิโดยรอบพื้นที่การปลูกเลี้ยงด้วย ถ้าอากาศแห้งและร้อนมาก อาจเพิ่มการรดน้ำเป็นวันเว้นวันต่อสัปดาห์ก็ได้ สำหรับพื้นที่วางห่างเป็นพืชในระยะอ่อนที่เพิ่งงอกจากหัวหรือโขด ให้หลีกเลี่ยงการวางในพื้นที่ได้รับแดดโดยตรง โดยวางไว้ในพืชที่ได้รับแสงแดดทางอ้อมก็เพียงพอแล้ว โดยอาจจะวางห่างจากหน้าต่างเล็กน้อย เรื่อบัวบกโขดเติบโตบีหลายใบแล้วอาจจะวางใดพื้นที่ใกล้หน้าต่างได้รับแสงแดดโดยตรงได้เลย อย่างไรก็ตามแสงแดดที่มีความเข้มและยาวนานอาจส่งผลต่อใบทำให้เกิดการแตกข้อสั้นลง และมีขนาดหัวหรือโขดที่หดตัวลง เป็นสัญญาณของพืชที่มีการสัมผัสกับแสงแดดมากเกินไป ควรย้ายพื้นที่วางที่ได้รับแสงแดดน้อยลง ทั้งนี้แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลการควบคุมความยาวของก้านหรือข้อใบ โดยบัวบกโขดที่เจริญเติบโตในพื้นที่ที่มีแสงน้อยจะมีก้านใบที่ยืดยาวหรือข้อใบที่ห่างมากขึ้นกว่าบัวบกโขดที่ได้รับแสงแดดมาก ในขณะที่มีแต่เพียงลำต้นที่เพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ไม่มีใบหรือมีแต่ใบเล็ก ๆ นั่นหมายความว่าบัวบกโขดต้องการแสงมากกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน
การขยายพันธุ์สามารถทำการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด และการนำหัวโขดมาปลูกต่อ
๐ ปัญหา (Problems)
ระมัดระวังการรดน้ำมากเกินไปเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับบัวบกโขด สัญญาณทั่วไปของการรดน้ำมากเกินไป จะมีอาการใบเหลือง ชะงักการเจริญเติบโต ใบร่วง และหัวหรือโขดที่อ่อนยวบลง นอกจากนี้หากไม่มีใบใหม่หรือการแตกยอดใหม่เลยเป็นระยะเวลานานเป็นสัญญาณแสดงถึงสาเหตุจากการมีแสงแดดน้อยเกินไป หรือตั้งในที่มืดเกินไป ทั้งนี้ให้พิจารณาอาการประกอบกับการมี ช่วงก้านใบยืดยาว แผ่นใบอ่อน ประกอบการสังเกตอาการด้วย ในทางกลับกัน การได้รับแสงแดดมากเกินไป แสดงอาการใบไหม้มีสีน้ำตาลหรือใบกรอบ ขอบใบแห้งใบขดหรือชะงักการเจริญเติบโต นอกจากนี้อาการใบเหลืองที่มีรัศมีสีน้ำตาลออกจากเส้นกลางใบ อาจเป็นอาการที่แสดงถึงการได้รับน้ำมากเกินไปหรือการได้รับแสงแดดมากเกินไปก็ได้ แต่มักจะแสดงถึงสัญญาณการเข้าสู่ระยะการพักตัวของพืช ทั้งนี้ให้สังเกตุการยุบตัวลงของหัวโขดประกอบกันด้วย
๐ คติความเชื่อแต่โบราณนานมาเรียกขานคนที่ปลูกอะไรก็งาม ปลูกอะไรก็ขึ้นว่าเป็นคน “มือเย็น” ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า “Green Thumb” หรือพวกหัวแม่โป้งเขียว ก็คือคนมือเย็นน้่นเอง
๐ Muuyehn Stuido หรือ มือเย็นสตูดิโอ เป็นช่องที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้คนทั้งมือเย็น มือไม่เย็น มืออุ่น มือร้อน มือไหนๆ ก็ปลูกต้นไม้ได้งอกงามดี ขอแค่ทำความรู้จักและรักที่จะปลูก
ถึงปลูกแล้วตาย ปลูกแล้วโตช้าก็อย่าได้แคร์ ขอให้ปลูกกันต่อไปนะจ๊ะ