บทสวด

Рет қаралды 1,295

Күн бұрын

พระคาถาธารณปริตร
ตั้งนะโม ๓ จบ
๑. พุทธานัง ชีวิตัสสะ นะ สักกา เกนะจิ
อันตะราโย กาตุง ตถา เม โหตุ
อะตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปะฏิหะตังญานัง
อนาคะตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปะฏิหะตะญานัง
ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต อัปปะฏิหะตะญานัง
อิเมหิ ตีหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ
พุทธัสสะ ภะคะวะโต
๒. สัพพัง กายะกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง
ญาณานุปะริวัตตัง
สัพพัง วจีกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง
ญาณานุปะริวัตตัง
สัพพัง มโนกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง
ญาณานุปะริวัตตัง
อิเมหิ ฉะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ
พุทธัสสะ ภะคะวะโต
๓. นัตถิ ฉันทัสสะ หานิ นัตถิ ธัมมะเทสนายะ หานิ
นัตถิ วิริยัสสะ หานิ นัตถิ วิปัสสะนายะ หานิ
นัตถิ สมาธิธัสสะ หานิ นัตถิ วิมุตติยา หานิ
อิเมหิ ทะวาทะสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ
พุทธัสสะ ภาคะวะโต
๔. นัตถิ ทะวา นัตถิ ระวา
นัตถิ อัปผุตัง นัตถิ เวคายิตัตตัง
นัตถิ อัพยาวะฏะมะโน
นัตถิ อัปปะฏิสังขารุเปกขา
อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ
พุทธัสสะ ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง
๕. นัตถิ ตะถาคะตัสสะ กายะทุจะริตตัง
นัตถิ ตะถาคะตัสสะ วจีทุจะริตตัง
นัตถิ ตะถาคะตัสสะ มะโนทุจะริตตัง
นัตถิ อะตีตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต
ปะฏิหะตังญาณัง
นัตถิ อะนาคะตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต
ปะฏิหะตังญาณัง
นัตถิ ปัจจุปันนัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต
ปะฏิหะตังญาณัง
นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณาปุพพัง คะมัง
ญานัง นานุปริวัตตัง
นัตถิ สัพพัง วะจีกัมมัง ญาณาปุพพัง คะมัง
ญานัง นานุปริวัตตัง
นัตถิ สัพพัง มะโนกัมมัง ญาณาปุพพัง คะมัง
ญานัง นานุปริวัตตัง
๖. อิมัง ธาระณัง อะมิตัง อะสะมัง สัพพะสัตตานัง
ตาณัง เลณัง สังสาระภะยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง
อิมังอานันทะ ธาระณะปะริตตัง ธาเรหิ วาเจหิ
ปะริปุจฉาหิ ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กะเมยยะ อุทะเก
นะ ลัคเคยยะ อัคคิ นะ ทะเหยยะ
นานา ภะยะวิโก นะ เอกาหาระโก
นะ ทะวิหาระโก นะ ติหาระโก
นะ จะตุหาระโก นะ อุมมัตตะกัง
นะ มุฬะหะกัง มะนุสเสหิ อะมะนุสเสหิ
นะ หิงสะกา
๗. ตัง ธาระณัง ปะริตตัง ยถา กะตะมัง
ขาโล มหาชาโล ชาลิตเต มหาชาลิตเต
ปุคเค มหาปุคเค สัมปัตเต มหาสัมปัตเต
ภูตัง คัมหิ ตะมังคะลัง
๘. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง
สัตตะ สัตตะติ สัมมาสัมพุทธะโกฏีหิ ภาสิตัง
วัตเต อะวัตเต คันธะเว อะคันธะเว
โนเม อะโนเม เสเว อะเสเว
กาเย อะกาเย ธาระเณ อะธาระเณ
อิลลิ มิลลิ ติลลิ อะติลลิ
โยรุกเข มหาโยรุกเข
ภูตัง คัมหิ ตะมังคะลัง
๙. อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง นะวะ
นะวุฒิยา สัมมาสัมพุทธะโกฏีหิ ภาสิตัง
ทิฏฐิลา ฑัณทิลา มันติลา โรคิลา
ขะระลา ทุพภิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา.
คำแปล
๑. อันชีวิตแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย อันใครๆ ไม่อาจกระทำอันตรายได้ฉันใด ขอชีวิตความเป็นอยู่แห่งข้าพเจ้าจงเป็นเหมือนอย่างเช่นนั้น
อัปปฏิหตญานัง อันว่าญาณที่ไม่มีเครื่องกระทบ พุทธัสสะ ของพระพุทธเจ้า ภะคะวะโต ผู้มีบุญ โหติ ย่อมมี อตีตัง เส ในอดีต อนาคะตัง เส ในอนาคต ปัจจุบันนัง เส ในปัจจุบัน
๒. อันว่ากายกรรมทั้งปวงของพระพุทธเจ้า ผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้ มีญาณเป็นประธาน เป็นไปตามญาณ
อันวจีกรรมทั้งปวงของพระพุทธเจ้าผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้ มีญาณเป็นประธาน เป็นไปตามญาณ
อันมโนกรรมทั้งปวงของพระพุทธเจ้าผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรมทั้งหลายสามเหล่านี้ มีญาณเป็นประธาน เป็นไปตามญาณ
๓. อันว่าความเสื่อมถอยน้อยลง ของประโยชน์ที่ประสงค์ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า ผู้มีบุญผู้ประกอบแล้วด้วยคุณธรรม ๖ ประการเหล่านี้
อันความเสื่อมถอยน้อยลง แห่งการแสดงธรรม ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
อันความเสื่อมถอยน้อยลงของ ความเพียร ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
อันความเสื่อมถอยน้อยลงของ วิปัสสนาญาณ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
อันความเสื่อมถอยน้อยลง แห่งกามาวจรและรูปาวจรวิมุตติ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
๔. อันว่า การพูดเล่น ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า ผู้มีบุญผู้ประกอบด้วย
คุณธรรมทั้งหลาย ๑๒ ประการเหล่านี้
อันว่า การพูดพลั้งเผลอ โดยขาดสติ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
อันว่า ความไม่แพร่หลายในเญยยธรรมห้า ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
อันว่า การกระทำใดๆอย่างผลุนผลัน โดยไม่มีการพิจารณาเสียก่อน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
อันว่า ความมีใจวุ่นวายด้วยกิเลส ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
อันว่า การกระทำที่ไม่มีอุเบกขาในเตภูมิสังขารย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้า
๕. อันว่าความนอบน้อมขอจงมีแก่พระพุทธเจ้า ผู้มีบุญประกอบแล้วด้วยคุณธรรม ๑๘ ประการเหล่านี้ทั้ง ๗ พระองค์
อันว่า กายทุจริต ย่อมไม่มีแก่พระตถาคต
อันว่า วจีทุจริต ย่อมไม่มีแก่พระตถาคต
อันว่า มโนทุจริต ย่อมไม่มีแก่พระตถาคต
อันว่าญาณอันมีเครื่องกระทบของพระพุทธเจ้าผู้มีบุญย่อมไม่มีในอดีต
อันว่าญาณอันมีเครื่องกระทบของพระพุทธเจ้าผู้มีบุญ ย่อมไม่มีในปัจจุบัน
อันว่าญาณอันมีเครื่องกระทบของพระพุทธเจ้าผู้มีบุญย่อมไม่มีในอนาคต
อันว่ากายกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธานไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
อันว่าวจีกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
อันว่ามโนกรรมทั้งปวง ไม่มีญาณเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามญาณ ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
อันว่าธารณปริตรนี้ ไม่มีเครื่องเทียบ ไม่มีเครื่องเสมอ เหมือนเป็นที่ต่อต้าน เป็นที่หลบซ่อนของสัตว์ผู้กลัวภัยในสังสารวัฎฎทั้งหลาย
อัคคัง ประเสริฐ มหาเตชัง มีเดชมาก
๖. ดูกรอานนท์ ท่านจงท่องจดจำสอบถาม ซึ่งธารณปริตรนี้อันว่า กายของ ผู้ท่องบทสวดมนต์ธารณปริตรนี้ ไม่พึงตายด้วยพิษงู พิษนาค ไม่พึงตายในน้ำอันว่าไฟไม่พึงไหม้ เป็นผู้พ้นภัยต่างๆใครคิดทำร้ายวันเดียว ก็ไม่สำเร็จ คิดร้าย ทำลายในสองวัน สามวัน สี่วัน…ก็ไม่สำเร็จ ไม่พึงเป็นโรคหลงลืม ไม่พึงเป็นบ้าใบ้ อันมนุษย์ทั้งหลายและอมนุษย์ทั้งหลายไม่สามารถเบียดเบียนได้
(ต่อในคอมเม้นท์ค่ะ)
สาธุ สาธุ สาธุ
อยากเป็นสะพานบุญให้ทุกคนในทุกวันค่ะ
ฝากกดไลค์ ติดตามกันด้วยน้า
Instagram : / nattiliiiii
Page : / nattiliiiii