Рет қаралды 156,479
๐ จันผา จากเป็นต้นไม้ถิ่นในประเทศไทยจึงมีชื่อพื้นถิ่นจำนวนมาก อาทิ จันผา (เหนือ), จันแดง (กลางและสุราษฎร์ธานี), ลักกะจัน หรือ ลักจั่น (กลาง)
ชื่อจันแดงได้มาจากสัณฐานสำคัญคือเมื่ออายุมากขึ้นแก่นไม้จะมีสีแดงเข้มเรื่อยเรื่อยจนสุดท้ายตายลงในที่สุด
๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Dracaena cochinchinensis ชื่อพ้อง Dracaena loureiroi
ชื่อสกุลมาจากคำภาษากรีก “Drainaha” หมายถึง “มังกรเพศเมีย”
ชื่อชนิดพันธุ์ “cochinchinensis” หมายถึง “ภูมิภาคอินโดจีนฝรั่งเศส จรดที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขง หรือ Mekong Delta”
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Thai Dragon Tree, Green Dragon Tree, Dragon’s Blood
สำหรับชื่อเลือดมังกร ได้มาจากการนำเอา “ยางไม้” เมื่อแห้งจะแข็งตัวใสคล้ายเรซิน จากต้นจันผาไปใช้ในยาตำรับจีนหลายตำรับ สำหรับยาตำรับไทยก็มีส่วนผสมของจันผาในตำรับยาหลายตำรับด้วยเช่นกัน
๐ ชนิด (Type): ไม้ยืนต้นขนาดเล็กไม่ผลัดใบ (Small evergreen tree) สามารถปลูกเป็นไม้พุ่มได้
๐ วงศ์ (Family): Asparagaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : ตอนใต้ของมณฑลยูนนานและตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลกวางสีในประเทศจีนไปยังประเทศไทย และสปป.ลาว
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 5-15 เมตร ทั้งนี้ต้นขนาดใหญ่อาจมีจำนวนเรือนยอดมากนับร้อยเรือนยอด
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 3-5 เมตร
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time):
ออกดอกแบบช่อเชิงลด (Spike) มีดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมากนับพันดอกต่อหนึ่งช่อ ดอกเล็กสีขาวนวล หรือขาวครีม หรือเขียวอมเหลือง โดยดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกสมบูรณ์เพศสามารถติดเมล็ดได้ ให้ผลกลม ขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร เมื่อสุกมีสีส้มแดง หรือแดงเข้ม ออกดอกในช่วงฤดูฝน ซึ่งผลจะสุขในช่วงก่อนหมดฝนหรือต้นฤดูหนาว
๐ ความต้องการแสง (Sun):
แสงแดดเต็มวัน ถึงแสงบางส่วนของวันควรมีปริมาณของแสงแดดอย่างน้อย 4 ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน การปลูกในพื้นที่ร่มรำไรสามารถทำได้ แต่ควรจะต้องมีปริมาณของแสงจ้าฟุ้งกระจายพอสมควร อย่างไรก็ตามหากวางในพื้นที่ร่มรำไรมาก จะทำให้เกินการเจริญเติบโตช้าใบอ่อนย้วยลง และมีใบบางมาก ต้นไม้ที่อยู่ในพื้นที่นี้ไม่ควรนำออกไปวางไว้ในพื้นที่ได้รับแดดจัด ในทันที ควรปรับสภาพให้มีความคุ้นเคยกับแสงเสียก่อนโดยค่อยขยับให้รับแดดอ่อน ใช้ระยะเวลาประมาณ 7 ถึง 10 วัน จากนั้นจึงขยับไปรับปริมาณแดดเพิ่มมากขึ้น แต่คงยังไม่เป็นแดดจัดในช่วงเข้าใกล้เที่ยงวันจนถึงบ่าย วางในพื้นที่นี้ประมาณ 7 ถึง 10 วัน จึงค่อยขยับไปในพื้นที่ได้รับแสงแดดเต็มวันจะลดความเสียหาย มีอาการใบไหม้จากการที่ไม้ในร่มได้รับแสงแดดจัดในทันที
๐ ความต้องการน้ำ (Water):
น้อย ถึงปานกลาง หลักสำคัญคือ วัสดุปลูกจะต้องมีคุณสมบัติในการระบายน้ำดี
๐ การดูแลรักษา (Maintenance):
ต่ำ มีแนวโน้มที่จะทิ้งใบล่าง ให้ใช้มือในการปิดบริเวณโคนใบที่ติดกับลำต้น ไม่ควรใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดใบบางส่วนที่เหลือออก เนื่องจากจะเกิดอาการแห้งลุกลามเข้าไปในส่วนใบด้านใน และทำให้ทรงต้นไม่สวยงาม ควรปลิดใบที่เกิดปัญหานั้นทิ้งทั้งหมด
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use):
นิยมตกแต่งในสวนแห้ง หรือสวนกรวด (Xeriscape) ตลอดจนใช้เป็นไม้เด่นหรือไม้เน้นในการตกแต่งสวนเนื่องจากมีรูปทรงที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้แล้วยังนิยมปลูกเป็นไม้กระถางโดยมีการตัดแต่งควบคุมทรงพุ่มให้แตกกิ่งตามรูปแบบที่ต้องการ
๐ ใบไม้ (Leaf): ใบยาวเรียวขอบขนานปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเป็นมัน ใบเรียงสลับเวียนหนาแน่นกระจุกที่ปลายกิ่งก้าน ใบแต่ละใบมีความยาว 30-100 ซม. และกว้าง 2-5 ซม. ฐานใบสีเขียวอมแดง มีลำต้นที่เนื้อไม้และแข็งแรง รูปทรงสวยงามชูช่อใบออกกระจุกบริเวณหลายกิ่งทำให้มีความสวยงามเหมือนกับกิ่งไม้สวมมงกุฎ
๐ การเพาะปลูก (Culture)
ธรรมชาติจันผาเติบโตบนหน้าผาเขาหินปูนที่ขรุขระ ความสูงประมาณ 1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งในซอกภูเขาหินปูนเหล่านี้จะอุดมไปด้วยเศษซากพืชซากสัตว์ที่ไหลมารวมกันทำให้ต้นจันผาสามารถหยั่งราก และเจริญเติบโตได้ดี ประกอบกับเป็นพืชที่อยู่บนนิเวศน์ภูเขาหรือบนหน้าผาซึ่งต้องเผชิญลมแรง ระบบรากฝอยจึงมีความแข็งแรงมากในการทำหน้าที่เกาะยึดกับไปกับซอกหิน การผสมวัสดุปลูกควรคำนึงถึงการเจริญเติบโตในธรรมชาติของจันผา ควรปรุงดินปลูกให้มี ความอุดมสมบูรณ์ของอินทรีย์วัตถุสูง และมีคุณสมบัติร่วนระบายน้ำได้ดี ด้วยเหตุนี้สูตรผสมดินปลูกจึงนิยมมีส่วนผสมของปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักและมีส่วนผสมของทรายประกอบด้วย ไรก็ตามในพื้นที่ดินเลวอย่างพื้นที่การผมดินใหม่สำหรับบ้านจัดสรร การปลูกจันผาในพื้นที่ดินเหล่านี้ก็สามารถเจริญเติบโตได้เช่นเดียวกัน รับอย่างหนึ่งในการปลูกจันผาในกรณีที่ย้ายปลูกจากพื้นที่ธรรมชาติหรือผ่านการเจริญเติบโตในพื้นที่ดินไม่อุดมสมบูรณ์ก็ไม่ควรปลูกลงในดินที่มีคุณภาพดีมากเนื่องจากจะทำให้ยอดลีบเล็กลง
สำหรับการขยายพันธุ์สามารถใช้ส่วนของเมล็ดในการเพาะปลูกต่อไปได้ โดยเลือกผลแก่ที่มีสีแดงเข้ม ต้องการเพราะสดควรลอกเปลือกและเนื้อที่หุ้มเมล็ดอยู่ออกให้หมด แล้วผึ่งลมทิ้งไว้อย่างน้อยหนึ่งวัน หรืออาจจะใช้ผลแก่ตากแห้งไว้ก่อนค่อยนำมาปลูกในภายหลัง จากนี้แล้วการขยายพันธุ์ยังสามารถทำได้ด้วยการใช้การตัดกิ่งมาปักชำ รวมไปถึงยอดอ่อนนำมาปักชำ ควรจะปักชำในพื้นที่ที่มีการควบแน่นหรือควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศได้ดี ทั้งนี้ในการดูแลรักษาต้นจันผาควรมีการตัดแต่งทรงพุ่ม โดยนำกิ่งที่งอกเข้าในทรงพุ่ม อาจใช้วิธีการเด็ด หัก หรือตัดออกมาเพื่อนำไปปักชำต่อไปได้ โดยการตัดแต่งนี้จะทำให้ทรงพุ่มโล่งโปร่งขึ้นไม่เป็นการสะสมโรคและแมลง
๐ ปัญหา (Problems)
ใบมีโอกาสถูกเข้าทำลายโดยเชื้อราบางชนิดที่ทำให้เกิดใบไม่เป็นจุด รวมไปถึงการเข้าทำลายของไรแดง ถึงจะทิ้งรอยฝ้าขาวบนผิวใบ หากเกิดปัญหาเหล่านี้มีไม่มากนักใช้วิธีการปลิดใบที่เกิดปัญหาออก
เป็นต้นไม้เรียกนกชนิดหนึ่ง จากผลสุกฉ่ำน้ำ แบบเบอร์รี่เป็นอาหารของนกหลายชนิด