(1/2) เป็นอัลบั้มที่ชอบมากของควีน อยากจะบรรยายไปในแต่ละเพลง 1. Staying Power แค่เพลงเปิด ใครๆฟังก็ไม่เชื่อว่าเป็นควีน เปิดมาด้วย Drum machine และ Bass Synth แทบไม่มีเสียงกีตาร์เลย(มีแต่น้อย) บวกกับเครื่องเป่า Brass โจ๊ะๆดีครับเพลงนี้ชอบช่วงโซโล่ของเพลง ใช้เครื่องเป่าโซโล่แทนกีตาร์ เป็นเอกลักษณ์ของเพลงนี้ที่ไม่เหมือนกับเพลงอื่นของควีนเลย แต่ช่วงแสดงสดเพลงจะออกแนว Punk rock และใส่กีตาร์โซโล่แทนเครื่องเป่า อย่างที่ป๋าบอก 8:20 จอห์นเขาจะเล่นกีตาร์เฉพาะเพลง Staying Power โดยให้ Mogan Fisher หรือ Fred Mandel (ช่วงทัวร์ US) มือคีย์บอร์ดแบ๊คอัพเล่น Bass Synth อยู่ด้านหลัง ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นภาพจอห์นทำแบบนี้ใน Live โชคดีที่ Queen Live Milton Keys ในบันทึก Live Staying Power เอาไว้ น่าจะเป็นภาพเดียวที่เราได้เห็นแสดงสดเพลงนี้และเห็นจอห์นเล่นกีตาร์ เพราะจริงๆแล้วควีนแสดงเพลงนี้หลายรอบ โดยเฉพาะช่วง Hot apace EU tour 1982 แต่ไม่มีใครบันทึกภาพแสดงสดเพลงนี้เท่าไหร่ 2. Dancer ถือว่าเป็นเพลงของแฟนสาย Hardcore ของควีนก็ว่าได้ เพราะมันเป็นเพลงไม่ฮิตในไม่ฮิตอีกทีนึง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเพลงนี้เท่าไหร่นะ และถือเป็นเพลงประกอบอัลบั้มเฉยๆ เพราะควีนไม่เคยแสดงสดเพลงนี้ 3. Back Chat แต่งโดย John Deacon มือเบสควีน เปิด intro ด้วยเสียงกีตาร์ของ Brian May ถือว่าเป็น Image ของเพลงนี้ เมื่อได้ยินintro แบบนี้ แฟนควีนหลายๆคน น่าจะรู้ว่าเป็นเพลงอะไร เพลงนี้มีเนื้อหาค่อนข้างสีเสียดและรุนแรงเอาเรื่อง กล่าวถึงการประชดประชันด่าทอเสียดสีเจ้านายหรือผู้มีอำนาจ ซึ่งคือความหมายของสำนวน Back Chat ที่เป็นชื่อของเพลง 4. Body Language เพลงนี้ออกไปทางลามก พูดถึงความหลงไหลและมีเพศสัมพันธ์ตามรสนิยม LGBT+ ของเฟรดดี้ ทำให้เพลงนี้ถูกแบนหรือถูกจำกัดให้ออกอากาศเฉพาะตอนดึกๆ แต่ถ้ามีเพลงแนวนี้ในประเทศไทยในสมัยนั้น นอกจากจะโดนแบนและทัวร์ลงแล้ว นักร้องอาจจะติดคุกก็เป็นได้55555 อย่างที่ป๋าบอก เพลงนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากเสียง Bass Synth และ Drum machine ทั้งเพลง เอาจริงๆเพลงนี้ฟังเพลินๆดี แต่ความโดดเด่นของดนตรีแทบไม่มีอะไร แต่เพลงนี้กลับฮิตและประสบความสำเร็จใน US และญี่ปุ่น ควีนจึงเอาเพลงนี้มาแสดงสดในทัวร์อเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งได้ตัดบางท่อนเพลงออก เพื่อให้โชว์กระชับและไม่ยึดยาวน่าเบื่อเหมือนต้นฉบับ 5. Action This Day เพลงนี้ป๋าไม่ได้พูดถึงในคลิป แต่เพลงนี้ค่อนข้างมีสำคัญมาก เพราะเป็นเพลงที่ถูกแสดงสดบนคอนเสิร์ตควีนทุกโชว์ตลอดทั้งปี 1982 คู่กับเพลง Under Pressure เพลงนี้ออกสไตล์แบบ New wave ซึ่งฮิตมากในยุค 80 เพลงนี้โรเจอร์เป็นคนแต่งโดยเอาวลี Action This Day มาจาก Winston Churchill นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งเชอร์ชิลล์เขียนแนบจดหมายเร่งด่วนเพื่อปลุกใจสังคมและให้กำลังใจในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
@kenkhemmarin45536 ай бұрын
(2/2) 6. Put Out The Fire เป็นเพลงต่อต้านการใช้อาวุธโดยเฉพาะปืน แต่งโดย Brian May และบันทึกเสียงกีตาร์ขณะที่ไบรอันเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ซาวน์เพลงนี้ค่อนร็อคและมีความเป็นควีนมากขึ้น เพราะถูกบันทึกเสียงกลองจากโรเจอร์ ขณะที่ห้าเพลงก่อนหน้าใช้ Drum machine ล้วนๆ 7. Life Is Real แต่งโดยเฟรดดี้ เพื่อรำลึกถึงการจากไปของ John Lennon แต่กว่าเพลงนี้จะถูกปล่อยก็ปาเข้าไป 2 ปีหลังจากจอห์นเสีย จึงเป็นเพลงที่ดีแต่ผิดที่ผิดเวลานิดนึง แต่เพลงนี้เนื้อหาดีและฟังเพลินมากเพลงหนึ่ง 8. Calling All Girls แต่งโดยโรเจอร์ เทย์เลอร์ เพลงนี้มี MV ซึ่งล้อเลียนมาจากหนังเรื่อง THX 1138 มีพล็อตเรื่องที่เกี่ยวกับหุ่นยนต์ ซึ่งเมื่อ MV ปล่อยออกมาแล้ว ไบรอันและโรเจอร์กลับไม่ชอบ MV ตัวนี้เลย โดยบอกว่าเนื้อหาเพลงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหุ่นยนต์ใน MV เพลงนี้ 9. Las Palabras de Amor (The Words of Love) เป็นเพลงที่ไบรอันแต่งขึ้นจากความสัมพันธ์ระหว่างควีนและแฟนคลับในอาร์เจนตินาและอเมริกาใต้ ซึ่งควีนเคยไปเล่นคอนเสิร์ตที่นั่นช่วงปี 1981 เพลงนี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จและฮิตมากจนได้ไปออกรายการ Top Of The Pops อย่างใน MV ของเพลง น่าเสียดายที่ไม่เคยแสดงสดเพลงนี้ในทัวร์ Hot space มีนิดหน่อยช่วง intro guitar เพลง Love Of My Life ใน Queen Live Milton Keys เท่าที่หาได้มีแค่นี้ แต่เพลงนี้นำมาแสดงสดหลังจากเฟรดดี้เสียชีวิตแล้ว ในคอนเสิร์ตรำลึกเฟรดดี้เมื่อปี 1992 คือ 10 ปีหลังจากปล่อยเพลงนี้โดย Zucchero นักร้องชาวอิตาลีเป็นคนร้อง 10. Cool Cat เพลงนี้แต่งโดยจอห์น ร่วมกับเฟรดดี้ และก็อย่างที่ป๋าได้กล่าวไว้ในคลิปนี้ แต่ขอเสริมว่าเพลงนี้จอห์นอัดเองทุกเครื่องดนตรี ไม่ว่าจะเบส กีตาร์ Synth และ Drum machine(โรเจอร์ไม่ได้อีดเพลงนี้ตามที่ป๋ากล่าวมานะ) และเฟรดดี้เล่นเปียโนเพลงนี้ด้วยแต่ได้ตัดออกทีหลังก่อนจะปล่อยอัลบั้มออกมา ฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงแมวที่เคยเลี้ยงตัวนึง ตอนนี้มันลาจากผมไปอยู่ดาวแมวแล้ว ฟังเพลงนี้แล้วบอกเลยฟินมากไม่แพ้เพลงฮิตๆของควีนเลยทีเดียว 11. Under Pressure เพลงสุดท้ายของ Hot Space และฮิตที่สุดของ Hot Space ลักษณะเพลงเป็นยังไงนั้นก็เป็นไปตามที่ป๋าอธิบายไป แต่ขอเสริมว่าเพลงนี้เป็นเพลงแรกของอัลบั้ม Hot Space ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนเพลงอื่นๆในอัลบั้ม โดยถูกรวมไว้ในอัลบั้ม Greatest Hit 1981 เวอร์ชั่นที่ขายในอเมริกาเท่านั้น และเพลงนี้นำมาเล่นสดครั้งแรกปลายปี 1981 ก็คือช่วงสุดท้ายของทัวร์อัลบั้ม The Game เช่นใน Queen Live Montreal ที่เพิ่งฉายใน IMAX ไปไม่นานมานี้
@kenkhemmarin45536 ай бұрын
อัลบั้มชุดนี้ทำสมาชิกควีนขัดแย้งกันมากๆ ไบรอันและโรเจอร์ไม่ปลื้มกับอัลบั้มชุดนี้ ต่างจากเฟรดดี้และจอห์นที่ปลื้มเอามากๆ อาจเป็นเพราะ Another One Bites The Dust ซึ่งเป็นเพลง Disco ที่จอห์นแต่ง และเป็นจุดเริ่มต้นของอัลบั้ม Hot Space ที่มีแนวเพลงแหวกขนบของควีนมากจนหลายๆคนไม่ปลื้ม และสุดท้ายสมาชิกควีนแยกย้ายไปชั่วคราว และกลับมาอีกครั้งในอัลบั้ม The Works ปี 1984
@newdamrongwit88966 ай бұрын
เห็นเป็นQueen ผมกดLikeก่อนเลยครับ วงโปรดที่สุด❤
@metalheadbanger6 ай бұрын
อัลบั้มนี้ ชอบ Under Pressure มากๆเลยครับ หนึ่งในเพลงโปรดของวง Queen เลย
เสียงเปียโนโน้ตตัวเดียวนั้น น่าจะเป็นการแสดงความเคารพเพลง Just like starting over ของ lennon ซึ่งขึ้นต้นด้วยโน้ตตัวเดียวเช่นกัน และเท่าที่ทราบเพลง life is real นี้ ผู้แต่งคือ Roger Tayler มังครับ
@prayutsaeaung5 ай бұрын
ลองไปเปิดฟังตามดูใช่เลยครับ และทำให้ผมนึกถึงเพลง Love กับการเล่นประโยค Love is ... กับ Life is ... ในเพลงนี้เช่นกันครับ
คล้ายๆกับ เจมส์ บอนด์ ในเรื่อง On her majesty secret's service ครับ
@dubch38976 ай бұрын
อัลบั้มนี้ไม่ได้แย่ในเรื่องซาวด์และดนตรีแต่ถือว่ามาตรฐานเทียบเคียงกับอัลบั้มอื่นๆของ Queen ได้ยากเพราะคนละสไตล์ ซึ่งถ้าเอาช่วงต่างๆของวงมาต่อๆกันจะรู้ว่าสมาชิกลองปรับเปลี่ยนแนวเพลงมาเรื่อยๆอยู่แล้ว ดีที่อัลบั้มนี้มี "เดอะแบก"อย่าง Under Pressure ท้ายสุด Queen ก็กลับมาได้กับงานชุดถัดมาอย่าง The Works . สำหรับผมอัลบั้มที่กลับมาเปิดใจฟังคือ The Lion/Big ass ที่เปลี่ยนนักร้องมาเป็นคุณเจ๋ง ยอมรับเลยว่าพลาดของดีมานาน
สมัยผมเด็กๆ ผมไม่ชอบชุดนี้มากๆ อาจจะเพราะเสพกับ Led Zeppelin, Black Sabbath, Deep Purple และ LA Hair Bands แล้วอินมากๆ มาเจอชุดนี้ไป ถึงกับอึ้ง และไม่ฟังเลย จนมาอายุมากขึ้น เราเริ่มฟังเพลงหลากหลายมากขึ้นทั้ง pop, jazz, funk, classic กลับมาหังชุดนี้อีกที มันหลากหลายและน่าฟัง ผมว่ามันอาจจะเป็นช่วงของวัย ซึ่งตอนนั้น Queen เค้าไปไกลกกว่าเด็กวัยรุ่นยุคนั้นๆ มากๆ
@PHITHIWATT6 ай бұрын
ขอ ประวัติ วง blur สักแผ้นครับบ
@nawachaiseepalin9636 ай бұрын
Cool cat เพราะแบบตะโกนเลยครับ
@ananrodklang28756 ай бұрын
เหมือนone ok rockที่แรกๆดุดันหนักหน่วงแต่หลังชุด35กลายเป็นทำเพลงที่เน้นเปิดในผับแต่สดเล่นอีกแบบ
@mothmanutd17636 ай бұрын
จะมีอัลบั้มที่ชอบจากวง Van Halen บ้างมั้ยนะ เป็นอีกวงที่แม้จะเปลี่ยนนักร้องนำจากยุค classic line up วงก็ยังคงประสบความสำเร็จต่อเนื่อง (ยกเว้นนักร้องนำคนที่ 3 นะครับ ที่เขาเหมาะกับวงเดิมของเขามากกว่า)
hot space คูลมาก เเละเท่ ไม่เคยชอบ ควีนชุดยุค 70เรย we are tge champion we will อะไรทำนองนั้น ไม่เก็ทเรย มาหลงรัก ควีน เพราะ ชอบ radio gaga, จากชุด the workมาก จำได้ ออกมาครั้วเเรก เสียง program lyn drum loop ที่ roger taylor ออกเเบบ rhythm คือเท่ พวกผู้ใหญ่ยุคนั้นจะรับเนว เพลงนี้ไม่ได้ บอกไม่ใช่ควีน พอกาลเวลาผ่านมา เปนการพิสูจน ว่า sythwave sythn pop คือ สุด ยังยืนยัดทุกวันนี้ ดู dualipa the weeknd สิ foundation มาจาก sythwave ทั้งหมด