(อยู่อเมริกากามา 7 ปี และเพิ่งย้ายกลับไทย 3 ปี) คิดว่าที่คุณอิงพยายามจะสื่อถึงคือมารยาท “ถือประตู / hold the door” มากกว่าครับ ที่อเมริกาเวลาเปิดประตูต้องถือประตูรอให้คนข้างหลังเดินมาถือประตูต่อเสมอ และคนที่มาทีหลังถ้ารู้ตัวว่ามีคนถือประตูให้ก็ต้องรีบวิ่งมาถือประตูต่อทันทีและ thank you ถือเป็นเรื่องมารยาทมากกว่าน้ำใจ (แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำ) และก็เป็นเหตุผลว่าทำไมที่อเมริกาถึงมีประตูหมุน / revolving door ตามตึกใหญ่ๆเยอะเพราะมารยาทการ hold the door ที่ถือประตูทอดๆกันจนทำให้การจราจรคนติดขัด 😅 แต่ที่ไทยเท่าที่สังเกตจะเป็นเรื่องน้ำใจมากกว่ามารยาท + เวลาเปิด/ถือประตูให้ หลายคนจะเดินเข้าแซงไปเลย ไม่ถือประตูต่อและไม่ให้คนที่ถือประตูเดินเข้าไปก่อน (ซึ่งตอนกลับมาแรกๆรู้สึกรำคาญ กลายเป็น bell boy เฉยเลยโดยเฉพาะคนที่ไม่ขอบคุณแต่เดินผ่านไปเลย แต่ตอนนี้ชินแล้ว บางทีก็ไม่ได้ hold the door แล้วด้วยซ้ำ 😂)
@orangeolenji8116 Жыл бұрын
@jwk ตอนเราอยู่เยอรมันก็เหมือนที่คุณอธิบายเลยค่ะ คนข้างหน้าถือประตูรอ เราอยู่ข้างหลังต้องถือประตูต่อให้เค้าไปก่อน และคนหลังเราก็จะถือประตูต่อเรา แต่ที่ไทยเราเคยเปิดและถือรอ คิดว่าคนข้างหลังจะถือต่อ ป่าวค่ะ เค้าเดินออกกันไปเฉยๆ แฟนเราเคยถือประตูนานเป็นเกือบนาทีเลยนะ😅 เราก็เลยเข้าใจในสื่งที่คุณอิ้งจะสื่อ ที่ไทยมีตลอดค่ะคนที่เปิดประตูให้คนอื่น แต่ส่วนมากจะไม่ใช่หลักการ hold the door แบบที่เราเจอที่ต่างประเทศ หลังจากเหตุการณ์ที่แฟนเราเจอ เวลาเรากับแฟนอยู่ไทยก็จะตัดปัญหาโดยการรอออกหลังคนอื่นแบบไม่ให้มีใครตามก้นยาวๆ เพราะถ้าเราออกก่อนก็จะอดไม่ได้ที่จะถือประตู สรุปก็ได้ไปทีหลังอยู่ดี มีค่าเท่ากัน😂😂
เรื่อง health care service ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ฟังจากหลายๆที่คือเหมือนกันเลย ในฐานะที่ทำงานด้านนี้ในประเทศไทยจึงอยากบอกว่าเมืองไทยคือดีที่สุดแล้ว! คนทุกระดับขนาดเปนต่างด้าวหรือไม่มีสิทธิบัตรยังเข้าพบและได้ตรวจกับอาจารย์แพทย์ นี่จึงเห็นสาเหตุที่ชาวต่างชาติวัยเกษียณเลือกที่จะย้ายมาอยุ่ปรถเทศไทย