Рет қаралды 85,173
๐ ไฮเดรนเยีย
๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Hydrangea macrophylla
ชื่อสกุล “Hydrangea” เป็นคำภาษาละติน จากคำ 2 คำ คือ “hydor” หมายถึง “น้ำ” และ “aggeion” หมายถึง “vessel” หมายถึง “เรือ หรือ ท่อ” แสดงถึงสัณฐานดอกย่อยคล้ายผลรูปถ้วย (Capsular fruit)
ชื่อชนิดพันธุ์ มาจากคำภาษากรีก จากคำ 2 คำ “makros” หมายถึง “ใหญ่” และ “phyllon” หมายถึง “ใบ” แสดงถึงสัณฐานใบมีขนาดใหญ่
๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Bigleaf hydrangea
๐ ชนิด (Type): ไม้พุ่มใบกว้างผลัดใบ (Broadleaf deciduous shrubs)
๐ วงศ์ (Family): Hydrangeaceae
๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : เกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ขึ้นอยู่ในนิเวศภูเขาริมทะเล นอกจากนี้พบว่าเป็นพืชที่พบในสภาพธรรมชาติของ จีน นิวซีแลนด์ และอเมริกา
๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 90-180 เซนติเมตร
๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 90-180 เซนติเมตร
๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time):
๐ ออกดอกช่วงปลายเดือนธันวาคม-มีนาคม (อาจยาวไปถึงเมษายนก็ได้) ถึงแม้จะมีการปรับปรุงสายพันธุ์ให้ไฮเดรนเยียสามารถปลูกขึ้นและให้ดอกได้ช่วงฤดูหนาวของสภาพอากาศแบบร้อนชื้นในประเทศไทย อย่างไรก็ตามไฮเดรนเยียยังเป็นพืชที่ตอบสนองต่อสภาพอากาศเย็นหรือมีอุณหภูมิต่ำ นั่นหมายความว่าในสภาพดังกล่าวไฮเดรนเยียจะออกดอกในปริมาณมาก ดอกมีขนาดใหญ่ จึงต้องควบคุมสภาพแวดล้อมให้มีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมกับการออกดอกด้วย
๐ สีดอกมีหลายสี อาทิ ม่วงคราม ชมพู ขาว ฟ้า และเขียว โดยสามารถควบคุมสภาพ pH ของดินปลูกเพื่อกำหนดสีดอกได้โดยสายพันธุ์ส่วนใหญ่มักให้สีขาว สามารถกำหนดสีดอกได้โดย
๐ ดอกสีชมพู pH ของดินปลูกกลางถึงค่อนข้างเป็นด่างอ่อน ๆ สามารถปรับสภาพดินโดยการเติมปูนขาวลงในวัสดุปลูก ประกอบกับการให้ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสสูง อาทิ สูตร 18-46-0
๐ ดอกสีน้ำเงิน pH ของดินปลูกเป็นกรดอ่อน ๆ สามารถปรับสภาพดินโดยการเติมอลูมิเนียมซัลเฟต (aluminum sulfate) ลงในวัสดุปลูกเพื่อปรับสภาพของดินให้เป็นกรดเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการให้ปุ๋ยที่มีโปแทสเซียมสูง อาทิ สูตร 0-0-60
๐ ภายหลังการออกดอกสักระยะหนึ่ง 3-5 สัปดาห์ ดอกจะแสดงอาการเหี่ยว ควรตัดดอกออก จะส่งเสริมให้แตกยอดใหม่ หรือกิ่งใหม่ ทั้งนี้หากไม่รอให้ดอกเหี่ยวแห้ง สามารถตัดดอกไปปักแจกันได้ด้วย อย่างไรก็ตามควรตัดดอกในช่วงอุณหูมิต่ำ ช่วงเช้าก่อน 9.00 หรือช่วงเย็นพลบค่ำ ทำให้ดอกไม่เหี่ยวคงความสวยงาม
๐ การส่งเสริมให้ไฮเดรนเยียออกดอกนั้นจะกระทำกับต้นแก่ (old wood) เท่านั้นจึงจะให้ดอกได้ ควรตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง ตัดแต่งยอดที่เกิดโรค รวมถึงตัดช่อดอกที่แห้งเหี่ยว ให้เกิดการสร้างตุ่มยอดที่สมบูรณ์ จนสร้างช่อใบที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตามการบำรุงต้นจนใบใหญ่เกินไป จะออกดอกยาก รวมไปถึงอุณภูมิต่ำหรือมีอากาศหนาวเย็นส่งเสริมให้ออกดอกได้ดี (ถ้าอากาศหนาวมากเกินไปก็ไม่ออกดอก) ควรให้ปุ๋ยบำรุงการออกดอก อาทปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง ทั้งนี้มีการปรับปรุงสายพันธุ์ที่เติบโตได้ในเขตร้อนชื้นและสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปีด้วย
๐ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ไฮเดรนเยียออกดอกยาก คือ เป็นไฮเดรนเยียมีอายุน้อย ยังไม่มีต้นแก่หรือกิ่งแข็ง (old wood) ปลูกในพื้นที่ร่มแสงไม่เพียงพอ ธาตุความชื้นหรือมีปริมาณความชื้นน้อย ให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนมากเกินไปจนไปส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบ และขาดการตัดแต่งกิ่งที่ดีปล่อยให้ต้นโทรม
๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดบางส่วนของวัน ควรเป็นแดดเช้าแสงแดดอ่อน หรือปลูกในโรงเรือนที่พรางแสงน้อย มีปริมาณแสงจ้าฟุ้งกระจายตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามสามารถปลูกในพื้นที่รับแสงแดดเต็มวันได้ แต่ต้องมีความชื้นสูงเพียงพอ ทั้งนี้ไฮเดรนเยียมีถิ่นกำเนิดในเขตหนาว พยายามหลีกเลี่ยงปลูกในพื้นที่แสงแดดเต็มวัน มีโอกาสใบไหม้เสียหายได้ง่าย รวมถึงมีอัตราคายน้ำมาก และกิ่งและเหี่ยวลงได้ง่าย หากมีปริมาณความชื้นในวัสดุปลูกไม่เพียงพอ จากนี้แล้วปริมาณแสงแดดน้อยทำให้ใบอ่อนบาง และออกดอกได้ยาก
๐ ความต้องการน้ำ (Water): ปานกลาง ถึง มาก เนื่องจากเป็นพืชชอบความชื้นสูง ควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตามควรปลูกในพื้นที่สามารถควบคุมปริมาณน้ำฝนได้ ไม่ให้เกิดการท่วมขัง
๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ตัดแต่งกิ่งที่มีช่อดอกที่ออกดอกและร่วงหล่นแล้วออก
๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use):
ปลูกเป็นพุ่มหรือแปลงขนาดใหญ่แสดงแนวเขตในพื้นที่สวน เหมาะอย่างยิ่งจะเป็นต้นไม้เน้นหรือต้นไม้เด่นปลูกในพื้นที่ใกล้บ้านหรือระเบียง ปลูกเป็นไม้ดอกกระถาง
เคล็ดลับการลือกซื้อ อย่าพิจารณาเลือกซื้อจากปริมาณดอกเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาส่วนอื่น ๆ ประกอบด้วย อาทิ ต้นไม่แคระแกรน มีตายอดหรือตุ่มยอดใหม่สมบูรณ์ แตกออกมาปริมาณมาก ใบเขียวสมบูรณ์ ปราศจากอาการใบไหม้ หรือมีใบไหม้ปริมาณน้อยมาก เป็นต้น
๐ ใบไม้ (Leaf): มีใบเดี่ยว ขึ้นเรียงตรงข้าม ตั้งฉากกับกิ่ง ใบมีรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบแบบจักฟันเลื่อยถี่ แผ่นใบสีเขียวมีร่องใบจากก้านใบ และเส้นกลางใบ ทำให้เห็นร่องใบได้ชัดเจน
๐ การเพาะปลูก (Culture)
วัสดุปลูกควรมีความอุดมสมบูรณ์ของอินทรีย์วัตถุสูง ดินร่วนโปร่งมากๆ ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี ระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ขังท่วมชื้นแฉะ
พื้นที่ตั้งวางกระถางหรือแปลงปลูกไฮเดรนเยีย ควรมีอากาศถ่ายเทดีได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ถึงกับมีลมแรง หากสามารถปลูกในโรงเรือนหรืออาคารที่ควบคุมอุณหภูมิและป้องกันการท่วมขังจากน้ำฝนได้จะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของไฮเดรนเยีย
ไฮเดรนเยียขยายพันธุ์ได้ด้วยการตอนกิ่ง การปักชำ ทำได้ง่าย ซึ่งเป็นที่นิยมในการเพาะปลูกไม้ดอกกระถางเพื่อการค้า สามารถขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ และเพาะเมล็ดได้ด้วย
๐ ปัญหา (Problems)
อ่อนแอต่อโรคที่สำคัญ คือ
๐ ตาไหม้หรือยอดไหม้ (Bud blight) จากเชื้อไวรัสเป็นสาเหตุ
๐ โรคยอดและใบเหี่ยวจากแบคทีเรีย (Bacterial wilt disease) มีสาเหตุจาก Ralstonia solanacearum
๐ โรคใบจุด (Alternaria leaf spot) มีสาเหตุจากเชื้อรา Alternaria spp.
๐ โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) สาเหตุจากเชื้อรา Pseudoperonospora cubensis