อีกผลงานหนึ่งของเจอราดที่ดังมากๆก็คือ งานเขียนที่ชื่อว่า the umbrella academy ค่ะ เป็นคอมิกแนวซุปเปอร์ฮีโร่ออริจินอลของเน็ตฟลิกเลย ใครที่สนใจสามารถไปตามดูได้นะคะ ตอนนี้มีถึงซีซัน 2 แล้ว เสิร์จได้โดยใช้ชื่อตามนี้ได้เลยค่ะ The Umbrella Academy เพลงประกอบที่ชื่อว่า here comes the end พี่จีแกก็เป็นคนร้องเองอีกเช่นกันค่ะ แล้วก็สำหรับแฟนๆที่คิดถึงแต่อาจจะไม่ทันตามข่าว เมื่อวาน mcr ได้ปล่อยเพลงใหม่แล้วนะคะชื่อ the foundations of decay มีทั้งในยูทูปของวงกับในสปอติฟายเลย ตัวเพลงยังดีและลึกเหมือนเดิม ซึ่งเอาจริงๆแล้วก็คือช็อคมาก มาไม่บอกไม่กล่าว เกือบสิบปีแล้วไม่คิดว่าจะมีวันนี้55555555555 ยังไงก็ฝากรักและเอ็นดูลุงๆแกด้วยนะคะ เราน้ำตาจะแชร์ขอไหลไม่ไหวแล้วค่ะ โฮรTT โอ๊ะแล้วก็ขอบคุณคุณเจ้าของช่องที่ทำวิดีโอนี้มากๆๆๆนะคะ รวบรวมข้อมูลมาได้ปังมากเลย5555555 ขอบคุณมากจริงๆค่ะสำหรับ hard work นี้ คลิปนี้เราดูหลังจากฟังเพลงใหม่ไปคือมีความสุขมากเลย หายคิดถึงกันไปเปราะหนึ่งแล้วเนอะทุกคนTT ฮือ
I don’t love you กับ cancer คือmasterpieceมากๆ ฟังทีไรทั้งดิ่งทั้งเศร้าทุกที
@anakim10662 жыл бұрын
เหมือนกันเลย
@gg.gunnie2 жыл бұрын
MV ตอนโยนไมค์ อย่างเท่
@catnipeverdeen742 жыл бұрын
Disenchanted ด้วยครับ ฟังดูคล้ายๆ I don't love you แต่ก็เพราะมากเหมือนกัน
@bankroche56432 жыл бұрын
ใช่ๆ
@bxdboy.43TH2 жыл бұрын
เช่นเดียวกันเลยครับ 🙂
@permprachuabmoh19162 жыл бұрын
Three cheers for sweet revenge เป็นเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่ง (Demolition lover) ที่ผู้ชายถูกยิงตาย แต่ผู้หญิงไม่ตาย ซึ่งฝ่ายชายพอตายก็ตกนรกแต่ได้ไปทำสัญญากับปีศาจในนรกไว้ว่าจะเอาวิญญาณมาให้ 1,000 ดวงเพื่อแลกกับการได้กลับไปเจอหน้าภรรยาของเขาอีกครั้ง . . 1. Helena - จริงๆแล้วเพลงนี้แต่งให้กับย่าของนักร้องนำกับมือเบส แต่ในเรื่องบอกถึงความรู้สึกที่นางเอกมีต่อความสูญเสียหลังจากที่พระเอกตายไป . 2. Give ‘em hell, kid - เป็นการเปิดเรื่องของภารกิจนี้โดยเขาเรียกมันว่า ‘Life on the murder scene’ เริ่มแรกที่เมืองใน New Orleans ฝ่ายชายก็ได้ทำการล่าดวงวิญญาณ(ซึ่งก็คือคน อาจจะเป็นคนไม่ดี) ซึ่งเขาทำด้วยความมุ่งมั่นเต็มร้อย ในขณะที่ฝ่ายหญิงก็ได้แต่คิดถึงสามีที่จากไป . 3. To the end - พระเอกได้เข้าไปในงานแต่งงานแห่งหนึ่งแล้วทำการฆ่าแขกทั้งหมด ซึ่งพอเจ้าบ่าวและเจ้าสาวของงานออกมา มันก็ไม่ได้มีงานแต่งแล้วเพราะแขกทุกคนตายหมด ในอีกมุมหนึ่งพระเอกของเราก็ได้แต่คิดสงสัยว่าผู้หญิงของเขาจะเป็นยังไง(จะฝังร่างเขาตราบธุลีดินหรือเปล่าเพราะนางเอกก็ไม่รู้ว่าพระเอกกำลังหาทางกลับมาหาเธออยู่ หรือจะไปมีผัวใหม่) ฝ่ายนางเอก มีหลายคนบอกให้เธอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่แต่เธอก็ไม่ยอมเพราะเธอรักเขาคนเดียว . 4. You know what they do to the guy like us in prison - เนื่องจากที่พระเอกต้องไปฆ่าคนซึ่งมันทำให้เขากลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องและแน่นอนมันผิดกฎหมาย เขาได้เข้าไปกราดยิงคนในร้านอาหารแบบไม่สนใจ พอตำรวจมาเขาก็ยอมโดนจับแบบไม่ขัดขืน และพอเข้าไปในคุกเขาก็เหมือนจะคิดได้ว่าถ้าติดคุกก็จะไม่สามารถทำภารกิจต่อได้และมันทำให้เขารู้สึกหมดหนทาง ในขณะเดียวกันในคุกก็เต็มไปด้วยการข่มขืนซึ่งพระเอกก็โดน บางทีเขาก็อยากจะฆ่าตัวตาย แต่ถ้าตายอีกรอบเขาก็จะไม่ได้เจอคนรักอีกตลอดไป เขาเลือกที่จะไม่จำเรื่องที่ถูกข่มขืนเพราะจะจำไปทำไมให้มันเจ็บใจเปล่าๆ แต่จิตใจเขาเริ่มตกต่ำสุดๆเพราะมัวแต่คิดถึงแต่เรื่องเพศ . 5. I’m not okay (I promise) - จากที่หามา เพลงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของ Demolition Lover แต่เกี่ยวกับวงโดยบอกเล่าผ่านความรู้สึกของผู้ชาย(loser in high school) ที่ทนไม่ไหวกับแฟนที่คบอยู่ แต่ก็ไม่อยากบอกเลิกเพราะถ้าไม่มีเธอเขาก็เป็นได้แค่อากาศสภาพ มันจึงเกิดคำว่า I’m not okay . 6. The ghost of you - เพลงนี้บอกถึงความรู้สึกถึงคนที่ตายไปแล้วว่ายังรักคนรักของเราอยู่ตลอดไป ในขณะที่คนรักอาจจะไปมีคนใหม่ก็ได้ รวมถึงสิ่งสุดท้ายที่เขาได้เห็นมันก็คือวันสิ้นโลกสำหรับตัวเขาเอง ทุกๆอย่าง ทุกๆหนี้สิน ทุกๆเรื่องราวที่เขาก่อไว้จะไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีก แต่เรื่องราวชีวิตของเขาจะยังคงอยู่ในใจใครหลายๆคนต่อไป (เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับ story line โดยตรง แต่มันจะเป็นความรู้สึกมากกว่า) . 7. The jetset life is gonna kill you - เพลงนี้บอกถึงความรู้สึกของพระเอกที่ไม่ได้เจอคนรักมานานจนเริ่มคิดแล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่มันคุ้มเหรอ เขารู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตเขากลายเป็นฆาตกรเต็มตัวแล้ว ซึ่งก็เกิดคำถามว่าเขาสมควรมีชีวิตอยู่เหรอ (น่าจะนานจนได้ออกจากคุกแล้ว) ในขณะที่คนรักของเขาก็ยังมีชีวิตที่ดีอยู่
@permprachuabmoh19162 жыл бұрын
. 8. Interlude - เพลงนี้เป็นบทสวดที่พระเอกสวดให้นางเอกขอให้เขาปลอดภัย . 9. Thank you for the venom - เพลงนี้คือความรู้สึกที่หลายคนบอกกับพระเอกว่าให้เชื่อในพระเจ้า ในทางกลับกันเขากลับรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้รวมถึงยารักษาทั้งหมดมันทำให้เขารู้สึกแย่มากกว่าเดิม . 10. Hang ‘em high - เพลงนี้อธิบายว่าจริงๆแล้วพระเอกเลือกที่จะฆ่าคนเลวเท่านั้นเพราะถ้าฆ่าคนธรรมดา วิญญาณของพวกเขาก็ไม่ได้ไปลงนรกอยู่ดีซึ่งไม่นับใน 1,000 คนที่ต้องฆ่า อีกมุมหนึ่งเขาบอกว่าสิ่งที่ทำมันยากแค่ไหน . 11. It’s not a fashion statement, it’s a fucking deathwish - เพลงนี้บอกถึงในตอนท้ายที่สุด พระเอกฆ่าคนไปแล้ว 999 คน ซึ่งมันทำให้เขาได้กลับไปเจอคนรักของเขาเหมือนทั้งสองคนอยู่กันที่ขอบหน้าผาคนละฝั่ง แต่สิ่งที่เขาได้เห็นคือนางเอกที่เป็นคนรักเก่า คนที่เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะได้กลับไปเจอ ได้ลืมเขาไปแล้วมีชีวิตใหม่แล้ว เขาเสียใจเพราะรู้สึกเหมือนโดนหักหลังแต่สุดท้ายก็ตระหนักได้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา อีกอย่างมันคือการสื่อสารแค่ฝ่ายเดียว นางเอกไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย รวมถึงมีหลายคนเตือนเขาแล้ว (เช่นเพลง Thank you for the venom ที่เขาปฏิเสธทุกความเชื่อ สนใจแต่จะฆ่าอย่างเดียว) ในอีกมุมหนึ่งเขาก็คิดได้ว่าเหลือวิญญาณอีกเพียงดวงเดียวแล้วภารกิจก็จะเสร็จ พอเปิดรายชื่อคนสุดท้ายมา มันก็คือชื่อของเขาเอง . 12. Cemetery drive - พระเอกรู้สึกว่าสิ่งที่ทำไปทั้งหมดมันสูญเปล่า และเขาก็เหมือนจะรู้ว่าจริงๆแล้วเขาแค่ถูกหลอกใช้เท่านั้น แต่ยังไงเขาก็ยังรักเธออยู่ และต้องการที่จะเจอเธออยู่ . 13. I never told you what I did for a living - พระเอกต้องฆ่าตัวตายเพื่อทำตามสัญญาที่ทำไว้ ในขณะเดียวกันเขาก็คิดได้ว่าถ้าต่อให้ได้กลับไปใช้ชีวิตร่วมกันจริงๆ เขาจะทำได้ยังไงในเมื่อเขาฆ่าคนมามากมาย มันไม่มีวันเป็นเหมือนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่ดี . 14. Burry me in black - เพลงนี้ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มต้องไปหามาฟังเอง แต่เพลงนี้อธิบายถึงความรู้สึกของพระเอกหลังจากได้ทำทุกอย่างไปหมดแล้ว เขาแค่อยากจะถามนางเอกว่า จริงๆแล้วตัวตนจริงๆ เธอเป็นคนยังไง ซึ่งคำถามนี้ก็ไม่มีวันได้รับคำตอบ . . ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ🖤
@cementlike60402 жыл бұрын
ผมชอบ cancer
@bhrompongaphikulvanich40542 жыл бұрын
@@permprachuabmoh1916 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับบ อธิบายอัลบั้มนี้ได้ละเอียดมากๆ ส่วนใหญ่จะเจอแต่ข้อมูลอัลบั้ม black parade แต่ผมว่าเพราะอัลบั้มนี้เลยที่เป็นจุดที่ปูแนวทางวงได้มาไกลขนาดนี้👍🏻
@เมธาวัฒน์อนุที-ฒ9ศ2 жыл бұрын
สุดว่ะนาย
@HongTey2 жыл бұрын
สุดจริง Emo ของแท้ วัยรุ่น 2000
@chaninsiripong13182 жыл бұрын
ส่วนตัวมองว่า ปีใกล้ๆกันนั้น กระแส Emo มาแรงจริงๆ แต่ MCR ไม่ค่อยจะอีโมเท่าไหร่นะครับ แต่ด้วยความที่เขาทำคอนเซปต์อัลบัม และอัลบัมนั้นในช่วงนั้น มันพูดถึงความตายบ่อยๆ ยิ่ง the black parade ที่มีคอนเซปคือ โลกหลังความตายในแบบแฟนตาซี Costume, Art direction, Show ต่างๆ มันเลยออกมาแนวผีๆ งานศพ เลือด หรือบรรยากาศหลอนๆ คู่สีสีดำแดงถูกเอามาใช้ ซึ่งมันไปพอดีกับแฟชั่นอีโมพอดีที่เขาก้หลอนๆ เขียนขอบตาแต่งหน้าทาเล็บแต่งตัวกันดำแดงแบบนั้นพอดี หลายคนเลยเข้าใจว่า MCR ก็เป็นหนึ่งใน Emo เพราะถ้าจะมาย่อยเพลงจริงๆ กลุ่มก้อนที่เรียกว่า Emo ยุคนั้น กับ MCR นี่คนละแนวกันเลย Emo ฟังดูมีรากเติบโตมาจาก เมทัลและบัลลาดร็อค แต่ MCR นั้นเหมือนจะมาจาก Punk rock มากกว่า ไม่มีว็าก ไม่มีเบรคดาวน์อะไรที่พอจะมองว่าเป็นอีโมเลย (อันนี้พูดรวมๆนะครับ เพระากลุ่มก้อน Emo นัน้มีแนวเพลงหลากหลาย แต่มักจะมาจากรากเดียวกัน แบบที่ฟังแล้วรู้เลย) แต่คอนเซปมันหม่นๆ ตายๆเหมือนกันแค่นั้นเอง เพราะชุดถัดมา dangers day แกก็ไปเล่นกันอีกคอนเซปต์นึง คือ โลกที่เละเทะหลังล่มสลายด้วยสงคราม(คล้ายๆหนัง mad max หรือ water world) โดยมี Art direction มาจาก comic ที่เขาชอบด้วย สีสันฉูดฉาดจี๊ดจ็าด เนื้อหาพูดเรื่องความพังเหมะกับดนตรีแนวพั้งไปอีก คราวนี้ไม่ดำแดงแล้ว ไม่ใกล้เคียงเลย ตัวเพลงก็พั้งจ๋าๆไม่หม่นแล้วด้วย ออกแนว บ้าๆ มากกว่า หรือไล่เรียงมาที่ชุดต่อๆมา (ที่ไมไ่ด้ฟังละเอียดแล้ว) พวกพี่แกก็เล่นคอนเซปใหม่ๆห่างในจากความเป้นอีโม(ที่แกไม่ได้ตั้ง)เข้าไปอีก ล่าสุดที่จำได้คือ Conventional Weapons ที่มาแนวทหารกัน ยิ่งใกลจากอีโม(ที่แกไมไ่ด้ตั้ง)ที่ว่ากันนั่นเข้าไปอีก
@khimdistortion28222 жыл бұрын
เป็นเล่นไป การ์ตูนที่พี่เจิดเขียนนี่ขึ้นไปติด top5 ของ Netflix อยู่ช่วงนึงเลยนะ ชื่อเรื่อง The Umbrella Academy ตอนนี้กำลังจะมี ss3 แล้ววว (พี่เจิดแกเป็นโปรดิวเซอร์แหละจะบอกให้)
หลายคนชอบเพลงช้าแต่ผมชอบ famous last words มากสุด เพลงมันเต็มไปด้วยคำเสียดสีประชดประชันแฟนเพลงทุกคำ เหมือนเพลงไม่รักเธอ ไม่รักก็ไม่เป็นไรออกไปจากชีวิตกูซะ เขียนเพลงได้เก่งมากๆคนนึง
@fortunemusicofficials70072 жыл бұрын
ต่อไปขอประวัติวง The offspring หน่อยนะครับ วงนี้ riffs ดังๆมันส์ๆเยอะเลย
@Selaga_poy2 жыл бұрын
คุ้มค่าเน็ตคุ้มค่ากับการรอคอย คิดถึงใจจะขาด รอเสพจนเกือบจะลงแดง เป็นช่องที่เกี่ยวกับดนตรีร็อค&โรลที่ดีที่สุด เป็นช่องประวัติดนตรีที่ดีที่สุด ต้อง #HISTOROCK TV 🖤❤️🔥🖤❤️🔥🖤❤️🔥🖤❤️🔥🖤❤️🔥🖤❤️🔥
@ธนวัตอุบลดี2 жыл бұрын
+1
@เต้ยเต้ยได้หมดถ้าสดชื่น2 жыл бұрын
ชอบช่องนี้จริงๆ สาระความรู้แน่น ใส่มุกแบบเน้นๆ
@technical5nbthailand4592 жыл бұрын
ชอบมากๆ ครับ เพลง welcome to the black parade จะเป็นเพลงที่จะฟังตลอดไป เพลงขึ้นหึงที่สุด
ก็ว่าอยู่ทำไม เพลง welcome to the black parade สไตล์คล้ายๆ bohemian rhapsody มีวงควีน เป็นไอดอลนี่เอง ทำนองช้า แล้วมาเร็ว มีคนเคยบอกว่า welcome to the black parade คือ bohemian rhapsody ในยุค 2000
@LetterToDaMoon2 жыл бұрын
ดีใจว่ะ พวกนายมีโฆษณามาลงด้วย
@shadowofthemoon95232 жыл бұрын
ชอบตอนตัดเข้าโฆษณาครับ เนียนดี5555
@nongying89012 жыл бұрын
😁😁😄😄😁นายเอได้ไปพบรักกับพี่ตู่แล้วไปเก็บสบู่ที่แดน8😁😁😄😄👏🏼👏🏼👏🏼😂i don't love you เพลงนี้ชอบมาก กับ teenagers
ผมเคยขอให้ทำวง my chemical romance กับ DragonForce ไว้ในคลิป วิวัฒนาการของดนตรี Rock N Roll | SIDE-EP.2 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว วันนี้ได้ฟังซะที ขอบคุณมากๆครับ ยังรอฟัง DragonForce อยู่นะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ผลิตผลงานคุณภาพต่อไปนะครับ ♥