The Moof ผู้สื่อสาร ตีความ นำเสนอ ให้แง่คิด อธิบายได้ถึงแก่นสารอย่างที่สุด ใช้องค์ความรู้ที่ตัวเองมี+ประสบการณ์มาใช้และให้ความรู้ให้กับคนได้หลายๆคน คุณภาพไม่เคยลดลงมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลยนะครับคุณเอ้ KZbinr of the year ของผมจะยังเป็นคุณเสมอครับ
จากใจคนเล่นจบจะ 2 รอบแล้ว (กำลังเก็บถ้วย) ปัญหาของ The Last of us Part2 มันไม่ใช่เกี่ยวกับการเข้าใจในการกระทำของทั้ง 2 ฝ่าย แล้วเข้าใจทางทีมเขียนบทว่าต้องการจะสื่ออะไร...ปัญหามันคือทางผู้พัฒนาไม่ควรจะนำเสนอเนื้อเรื่องมาในแนวทางนี้...ธีมของ The Last of Us คือหายนะของมวลมนุษยชาติจากไวรัสที่แพร่ระบาด ด้วยบิ๊กไอเดียที่มันน่าสนใจและใหญ่ขนาดนี้ มันไม่ควรพูดถึงเรื่องการแก้แค้นกันไปมาของทั้งสองฝ่าย ไม่ควรหยิบประเด็นนี้ลงมายัดในบิ๊กไอเดียที่ภาค1เคยสร้างมา...ให้ลองคิดตามว่าถ้าเราลองหยิบประเด็นหายนะของของไวรัสที่คร่าชีวิตมนุษย์เกือบทั้งโลกออกไป เกมนี้ก็จะเหลือแค่ประเด็นการแก้แค้นกันไปมา ซึ่งมันมีให้เห็นเยอะแล้ว มันไม่ใช่ไอเดียใหม่เลย...นี่เรายังไม่รวมถึงระบบเกมที่มันขัดกับความตั้งใจของเกมที่จะสื่อถึงการปล่อยวางและให้อภัย ระบบตัวเกมไม่แม้แต่จะมีการให้เราเลือกในการสังหารหรือไม่สังหาร ส่วนใหญ่คือการฆ่ากันแบบโต้งๆเดินหน้าลุยแบบแรมโบ้ซึ่งมันขัดกันอย่างรุนแรง...7ปี ผมไม่ได้ต้องการเนื้อเรื่องแบบนี้ ผมต้องการเห็นโลกหลังหายนะ ว่าทีมพัฒนาจะต่อยอดไปทางไหน อยากเห็นการเอาตัวรอดของผู้คน ที่เราไม่อาจนึกถึงด้วยประสบการณ์ที่เรามี ณ ตอนนี้ จะมีประสบการใหม่ๆให้เราได้ว๊าวแค่ไหน ไม่ใช่40 ชั่วโมงที่หมดไปกับการตามล่าฆ่าฟันกันแบบนี้
If somehow the Lord gave me a second chance at that moment... I would do it all over again. ตอนได้ยินประโยคนี้ครั้งแรก ผมร้อง โอ้ยยยย ดังมาก น้ำตาคลอเฉย คือมันคำตอบของภาคแรกว่าลุงทำแบบนั้นเพราะอะไร และมันเป็น the best moment ของเกมที่ผมเคยได้สัมผัส ทุกวันนี้เสียดายที่ไม่ได้เล่นเองมาก T^T
The Last of Us II บอกเราว่าความแค้นและความเกลียดชังผลักดันเราได้มากแค่ไหน. ในขณะเดียวกันก็บอกเราว่าการปล่อยวางก็ปลดปล่อยเราได้เช่นกัน ถ้าเราผูกพันกับเหยือของเอลลี่ เราอาจจะเกลียดเอลลี่เหมื่อนที่เกลียดแอบบี้ด้วยเช่นกัน. จงปล่อยวางครับ เพราะมันจะปลดปล่อยเราจากความเกลียดชัง
ที่ชอบที่สุดใน the last of us 2 คือระบบทำมาโคตรดี โคตรละเอียด AI มีการตอบสนองทั้งท่าทางและบทพูดที่สมจริงและดูมีชีวิตมากๆ AI แต่ละตัวมีชื่อเป็นของตัวเองมีบทเป็นของตัวเอง นั่นหมายความว่าต้องใช้ทีมพากษ์อย่างหฤโหดเลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ละเมียดละไมเอามากๆ ถึงแม้จะดูใส่ใจกับตัวเกมเพล์น้อยไปนิด และอนิเมชั่นดูไม่หลากหลายเท่าไหร่ ส่วนเนื้อเรื่องก็บีบหัวใจมากๆ และสร้างประเด็นถกเถียงได้มากมาย สามารถทำให้คนเกลียดแอ๊บบี้สุดๆ แล้วทำให้เห็นใจแอ๊บบี้ได้ในท้ายที่สุดอีก
ประทับใจ the moof มาก ดูแล้วเข้าใจมากขึ้นเลย ขอบคุณค่ะ
@NOplaygamer4 жыл бұрын
THE LAST OF US PART 1 เหมือนข้าวไข่เจียวที่ปรุงมาอร่อยมากมีครบรสจนคุณรักมัน มีความสุขในการกิน! THE LAST OF US PART 2 สูตรเดิมเพิ่มรสเผ็ด และเวย์โปรตีน พร้อมกับแม่ค้าที่ทุบตีคุณตลอดการกิน!