Рет қаралды 30,993
12 ก.ย. 2567 ที่ประชุมรัฐสภาในวาระแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายในประเด็นเศรษฐกิจ โดยระบุว่า นโยบายของรัฐบาลแพทองธารไม่ต่างจากรัฐบาลเศรษฐา แต่ยังเป็นนโยบายที่ชวนให้หลงทาง เนื่องจากมักใช้คำกว้าง ไม่ระบุสิ่งที่จะทำให้ชัดเจน โดยยกตัวอย่างคำแถลงนโยบายของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีรายละเอียดชัดเจน มีเป้าหมาย มีกรอบเวลาชัดเจนและตรงกับนโยบายที่สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้ง
.
ศิริกัญญา กล่าวว่า มาถึงการตรวจการบ้าน 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นต่อการวางแผนงานในปีต่อไป ตนเห็นอินโฟกราฟิกของพรรคเพื่อไทยแสดงผลงาน 3 เดือน 6 เดือน 10 เดือน 12 เดือน อ่านแล้วก็ตั้งคำถามว่าหลายข้อไม่ควรเรียกว่าผลงาน
.
ประเด็น นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต อภิปรายครั้งล่าสุด เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายรอบ ล่าสุดเปลี่ยนเป็นรอบที่ 7 เช่น แหล่งที่มาของเงินกลายเป็นว่าจะใช้งบกลางปี 67 มีเท่าไหร่เอามาแจกก่อนเป็นเงินสด ส่วนที่เหลือพยายามจะเบ่งงบปี 68 ด้วยการกู้เพิ่ม ตัดลดงบที่ใช้ชำระหนี้ธนาคารรัฐ ทำขนาดนี้ก็ยังได้เงินไม่พอที่จะจ่ายให้ครบ 45 ล้านคน จึงบอกว่าจะแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด ถ้าระบบชำระเงิน openloop เสร็จทัน จะแจกเป็นเงินดิจิทัลแต่ถ้าไม่ทันจะจ่ายเป็นเงินสด ซึ่งตนขอยังไม่เชื่อและอยากรู้ว่าสุดท้ายโครงการนี้จะไปจบที่ตรงไหน
.
เป็นเช่นนี้คงต้องตั้งคำถามว่าพวกท่านพาโครงการเรือธงขนาดนี้ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ตนเดาว่ามี “มือที่มองไม่เห็น” ที่คอยมาสั่งอย่างเดียว จะเอาให้ได้ แต่ไม่รู้ว่าหน้างานเป็นอย่างไร กฎหมายเปลี่ยนไปขนาดไหนจากเมื่อ 20 ปีก่อน ฐานะการคลังของประเทศรับได้แค่ไหน สักแต่ว่าจะทำให้ได้ เจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้
.
“ตอนนี้เหมือนอาการเมาหมัด เงินมีอยู่เท่าไหร่แจกไปก่อน ที่เหลือไปตายดาบหน้า สุดท้ายเครดิตจะไม่เหลือ และหลายครั้งก็ชี้นิ้วมาที่ฝั่งฝ่ายค้านว่าทำให้ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทำให้ล่าช้าเละเทะ แต่อย่าอ้างเลยว่าเพราะท่านฟังความเห็นต่างเลยต้องเปลี่ยนตาม เพราะสิ่งที่เราพูดคือข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย”
.
“ตอนนี้ไม่ใช่แค่รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่เสียเครดิต แต่ข้าราชการผู้บริหารในกระทรวงใหญ่ๆ ก็ต้องเสียผู้เสียคนเพราะต้องออกมาแก้ต่างแทนรัฐบาล กลายเป็นหนึ่งปีที่สูญเปล่าสุดท้ายเงินยังไม่ได้ เสียเวลา เสียสมาธิ เสียโอกาสที่จะใช้งบกลางไปกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านอื่น พอไม่ออกมาตรการอื่นๆ ระหว่างทาง แทนที่ประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือก็ไม่ได้ พายุหมุนทางเศรษฐกิจตอนนี้อ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ พร้อมกับเครดิตและความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล ซึ่งจะกู้กลับคืนมาไม่ได้ง่ายๆ ”
.
ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ในเมื่อพายุหมุนอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ตนก็ขอฟังชัดๆ จากรัฐบาลว่า สรุปแล้วผลต่อเศรษฐกิจสำหรับโครงการนี้เป็นเท่าไหร่กันแน่ เราจะได้คาดการณ์ไปในอนาคตว่าจะกระตุ้นจีดีพีได้เท่าไหร่ แต่ตนขอดักคอไว้ก่อนเลยว่า ครึ่งปีหลังของปี 67 เศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีตามอัตภาพ เนื่องจากฐานจีดีพีในปีที่แล้วต่ำ แม้ไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต เศรษฐกิจไตรมาสสามก็โตเกือบ 3% ไตรมาสสี่เกือบ 4% ตลอดทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 2.5-2.6% ดังนั้นไม่ควรเคลมว่าเศรษฐกิจโตเพราะฝีมือรัฐบาล
.
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเห็นว่าไม่ควรเอาเงินไปลงกับนโยบายนี้เพื่อจะทำให้เศรษฐกิจโต 5% เพราะแม้ไปถึงก็อยู่ได้ไม่นาน จะกลับมาโตร้อยละ 3 อีกครั้ง ตราบใดที่ท่านไม่เพิ่มศักยภาพการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งพอมาดูว่านโยบายรัฐบาลเขียนไว้อย่างไร ตนก็ดีใจที่เราเริ่มเห็นตรงกันว่าเราต้องเร่งปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจ เพราะในการแถลงนโยบายครั้งก่อนไม่มีคำนี้เลย อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ใจว่าในรายละเอียดเห็นตรงกันหรือไม่ แต่ต้องบอกว่ามี 4 เรื่องที่รัฐบาลต้องทำเพื่อ “เพิ่มศักยภาพ” เศรษฐกิจไทย
.
(1) ยกระดับทักษะแรงงาน ต้องทำกับแรงงานทั้งระบบ ไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมเป้าหมายหรือซอฟต์พาวเวอร์ เพราะแรงงานทั้งประเทศมีอยู่ 40 ล้านคน ประมาณ 40% เป็นกลุ่มคนที่จบการศึกษาต่ำกว่ามัธยมต้น เราไม่สามารถทำให้ศักยภาพเศรษฐกิจโตได้ถ้าแรงงานส่วนใหญ่มีทักษะในระดับนี้
.
(2) ต้องโฟกัสที่การดึงดูดเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่การดึงดูดเม็ดเงินลงทุน เราต้องเลือกว่าจะไปอยู่ในห่วงโซ่การผลิตของเทคโนโลยีใด เราไม่อยากเป็นผู้รับจ้างผลิต รับจ้างประกอบ รับเศษเงินค่าแรงอีกต่อไป
.
(3) มุ่งกระจายความเจริญ ไม่ใช่กระจุกแค่กรุงเทพฯ เรายังมีศักยภาพในพื้นที่อื่น ถ้าระเบิดศักยภาพได้โดยการกระจายอำนาจ จะทำให้ศักยภาพทางเศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าเดิม
.
(4) การปฏิรูประบบราชการ ซึ่งรัฐบาลเขียนในคำแถลงว่าเรามีรัฐราชการรวมศูนย์ที่อุ้ยอ้ายซับซ้อนไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลรู้ซึ้งกว่าเราแน่นอน เพราะอดีตนายกฯ เศรษฐา ออกข้อสั่งการเกือบ 200 ข้อสั่งการ แต่มีหน่วยงานสนองกลับมาแค่ 10 ข้อ
.
พิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตอบประเด็นของศิริกัญญาว่า เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตก็จะทำให้ประชาชนเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้ เพราะการรับโอนเงินต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่เป็นพื้นฐานที่สุดแม้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นระหว่างประชาชนกันเองและกับภาคเอกชนแล้วจากแอปของธนาคารต่างๆ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือภาครัฐต้องเข้าไปเกื้อหนุนให้ประชาชนได้ใช้ด้วยแพลตฟอร์มของภาครัฐเองแล้วทำให้แพลตฟอร์มต่างๆ เชื่อมกันได้ด้วย Open loop ส่วนประเด็นเรื่องจำนวนเงินที่ให้จะเป็นจำนวนเต็ม 10,000 บาทกับรายชื่อที่มีอยู่ 14.2 ล้านคนรวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 1.4 แสนล้านบาท และจะเริ่มแจกได้ในวันที่ 25 ก.ย. 2567 นี้
.
อ่านเพิ่มเติม : prachatai.com/...
.
#ประชุมสภา #แพทองธาร #นายก #นายกคนที่31 #แถลงนโยบาย #หนี้สาธารณะ #ดิจิทัลวอลเล็ต #ศิริกัญญาตันสกุล #พรรคประชาชน #การเมือง #ประชาไท #Prachatai