ัก้มมัฏฐาน ๔๐ : หลวงปู่บัวเกตุ ปทุมสิโร

สมถกรรมฐาน 40 กอง แบ่งออกได้เป็น 7 หมวดคือ กสิณ10 อสุภะ10 อนุสติ10 อัปปมัญญา4 อรูป 4 อาหาเรปฏิกูลสัญญา และจตุธาตุววัตถาน
1. กสิณ 10 คือ วัตถุภายนอกที่ใช้ให้เกิดสมาธิ
1.1 ปฐวีกสิน (กสิณดิน) การเพ่งดินเป็นอารมณ์
1.2 อาโปกสิน (กสิณน้ำ) การเพ่งน้ำเป็นอารมณ์
1.3 เตโชกสิน (กสิณไฟ) การเพ่งไฟเป็นอารมณ์
1.4 วาโยกสิน (กสิณลม) การเพ่งลมเป็นอารมณ์
1.5 นีละกสิน (กสิณสีเขียว) การเพ่งสีเขียวเป็นอารมณ์
1.6 ปีตะกสิน (กสิณสีเหลือง) การเพ่งสีเหลืองเป็นอารมณ์
1.7 โลหิตกสิน (กสิณสีแดง) การเพ่งสีแดงเป็นอารมณ์
1.8 โอทาตะกสิน (กสิณสีขาว) การเพ่งสีขาวเป็นอารมณ์
1.9 อากาสะกสิน (กสิณแสงสว่าง) การเพ่งแสงสว่างเป็นอารมณ์
1.10 อาโลกะกสิน (กสิณที่ว่าง) การเพ่งอากาศ หรือที่ว่างเป็นอารมณ์
2. อสุภะ 10 คือ สภาพซากศพในสภาพต่าง ๆ กัน 10 แบบ
2.1 อุทธมาตถะอสุภะ พิจารณาซากศพที่พองขึ้นอืด
2.2 วินิลกะอสุภะ พิจารณาซากศพที่เริ่มบวมพอง เป็นสีเขียวคล้ำ
2.3 วิปุพพกะอสุภะ พิจารณาซากศพที่มีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม
2.4 วิฉิททะอสุภะ พิจารณาซากศพที่ขาดกลางตัว
2.5 วิกขายตถะอสุภะ พิจารณาซากศพที่ถูกสัตว์กัดกิน
2.6 วิกขิตตถะอสุภะ พิจารณาซากศพที่มีมือ เท้า ศีรษะขาดหายไป
2.7 หตวิกขิตตกอสุภะ พิจารณาซากศพที่ถูกบั่นเป็นท่อนๆ
2.8โลหิตกะอสุภะ พิจารณาซากศพมีเลือด ไหลนอง
2.9 ปุฬุวกะอสุภะ พิจารณาซากศพที่เน่าเฟะคลาคล่ำด้วยตัวหนอน
2.10 อัฎกะอสุภะ พิจารณาซากศพที่เหลือแต่โครงกระดูก
3. อนุสติ 10 คือ อารมณ์ที่ดี ควรระลึกถึงอยู่เสมอ คือ
3.1 พุทธานุสติ ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า
3.2 ธัมมานุสติ ระลึกถึงคุณของพระธรรม
3.3 สังฆานุสติ ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์
3.4 สีลานุสติ ระลึกถึงศีลที่ตนได้ประพฤติ
3.5 จาคานุสติ ระลึกถึงทานที่ตนได้บริจาค
3.6 เทวตานุสติ ระลึกถึงคุณธรรมของเทวดา
3.7 มรณสติ ระลึกถึงความตาย เพื่อให้เกิดความไม่ประมาท
3.8 กายคตาสติ ระลึกถึงร่างกายที่เสื่อมได้ เพื่อไม่ให้หลงมัวเมา
3.9 อานาปานสติ การใช้สติระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก
3.10 อุปสมานุสติ การใช้สติกำหนดธรรมเป็นที่สงบ คือนิพพาน
4. อัปปมัญญา 4 คือ ธรรมที่แผ่ไปในสัตว์มนุษย์โดยทั่วถึงกัน หรือพรหมวิหาร 4 คือ
4.1 เมตตา ความรัก คือ อยากให้มีความสุขกันทั่วหน้า
4.2 กรุณา ความสงสาร คือ อยากให้พ้นทุกข์
4.3 มุทิตา ความยินดี คือ ยินดีในความสุขของผู้อื่น
4.4 อุเบกขา ความเป็นกลาง คือ วางใจสงบ
5. อาหาเรปฏิกูลสัญญา คือ พิจารณาความเป็นปฏิกูลในอาหาร หรืออาหารเป็นของน่าเกลียด
6. จตุธาตุววัฏฐาน คือ พิจารณาร่างกายตนเป็นเพียงธาตุ 4 มารวมกันเท่านั้น
7. อรูป 4 คือ การกำหนดภาวะที่เป็นอรูปธรรมเป็นอารมณ์ ใช้เฉพาะผู้ที่ได้จตุตถฌานแล้วคือ
7.1 อาถาสานัญจายตนะ กำหนดช่องว่างหาที่สุดมิได้
7.2.วิญญาณัญจายตนะ กำหนดวิญญานหาที่สุดมิได้
7.3 อากิญจญญายตนะ กำหนดภาวะไม่มีอะไรเลย
7.4 เนวสัญญานาสัญญายตนะ เลิกกำหนดแม้แต่ภาวะไม่มีอะไรเลย

[@ผู้ชายทํามะดาเบาเบา-ล7พ]

_สาธุ_ _สาธุ_ _สาธุ_ _กระผมขอน้อมกราบนมัสการหลวงปู่..ธรรมเทสนาขององค์หลวงปู่ท่าน..ฟังแล้วเข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่ง..สาธุ..สาธุ..สาธุ_