คำเทศนา ซีรี่ส์ "เชื่อทุกวัน กุญแจสู่การอัศจรรย์" ตอนที่ 6 "กล้าเชื่อกล้าหว่าน"

คำเทศนา ซีรี่ย์ "เชื่อทุกวัน กุญแจสู่การอัศจรรย์" (iBelieve)
ตอนที่ 6 "กล้าเชื่อกล้าหว่าน" (Dare to Plant in Faith)
วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2017
โดย ศจ.ดร.อานุภาพ วิชิตนันทน์
ศิษยาภิบาลอาวุโส คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ
www.blconline.org
/ libertychurchbangkok
--------------------------------------------------------------------------------
กล้าเชื่อกล้าหว่าน Dare to Plant in Faith
“โลกยังดำรงอยู่ตราบใด จะมีฤดูหว่านกับฤดูเกี่ยว...” (ปฐมกาล 8:22)
“อย่าหลงเลย ท่านจะหลอกลวงพระเจ้าไม่ได้ เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น” (กาลาเทีย 6:7)
1. ทุกสิ่งเร่ิมต้นด้วยเมล็ดหนึ่ง (Everything starts as a seed)
ปฐมกาล 1:11
“พระเจ้าตรัสว่า “แผ่นดินจงเกิดพืช คือ ผักหญ้าที่มีเมล็ดและต้นไม้ที่ออกผลมีเมล็ดในผลตามชนิดของมันบนแผ่นดิน” ก็เป็นดังนั้น”
2. ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกว่าเมล็ดจะถูกนำมาหว่าน (Nothing happens until the seed is planted)
ยอห์น 12:24
“เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงไปในดินและเปื่อยเน่าไป ก็จะคงอยู่เป็นเมล็ดเดียว แต่ถ้าเปื่อยเน่าไปแล้ว ก็จะงอกขึ้นเกิดผลมาก”
มาระโก 4:26-27
“26พระองค์ตรัสว่า “แผ่นดินของพระเจ้าอุปมาเหมือนคนหนึ่งหว่านพืชลงในดิน 27แล้วกลางคืนก็นอนหลับ และกลางวันก็ตื่นขึ้น ฝ่ายพืชนั้นจะงอกจำเริญขึ้นอย่างไรเขาก็ไม่รู้”
3. เมื่อฉันมีความจำเป็นฉันควรหว่านเมล็ด (When I have a need, I should plant a seed.)
ปัญญาจารย์ 11:6
“จงหว่านเมล็ดพืชของท่านในยามเช้า และเมื่อตกเย็นก็อย่าให้มือของท่านว่างงาน เพราะท่านไม่รู้ว่างานไหนจะสำเร็จ งานนั้นหรืองานนี้ หรือทั้งสองงานจะเจริญดีเหมือนกัน”
4. หว่านสิ่งใดเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น (Whatever I plant is what I will reap.)
กาลาเทีย 6:7
“ใครหว่านอะไรย่อมเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น” (กาลาเทีย 6:7)
โยบ 4:8
“คนที่ไถความชั่วและหว่านความเดือดร้อนก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น”
สุภาษิต 22:8
“ผู้หว่านความอยุติธรรมก็เก็บเกี่ยวความทุกข์ร้อน”
โฮเชยา 10:13
“แต่เจ้ากลับปลูกความชั่วช้า เจ้าเก็บเกี่ยวความอธรรม”
มัทธิว 7:2
“เพราะท่านตัดสินผู้อื่นอย่างไร ท่านจะถูกตัดสินอย่างนั้น”
หว่านสิ่งใด เราจะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น ตัวอย่างในทางบวก
สุภาษิต 11:18
“แต่ผู้ที่หว่านความชอบธรรมได้เก็บเกี่ยวบำเหน็จอย่างแน่นอน”
โฮเชยา 10:2
“จงหว่านความชอบธรรมเพื่อตัวเจ้าเอง จงเก็บเกี่ยวผลแห่งความรักมั่นคง”
ยากอบ 3:18
“ผู้สร้างสันติหว่านในสันติย่อมเก็บเกี่ยวผลแห่งความชอบธรรม”
กาลาเทีย 6:7-8
“อย่าหลงเลย ท่านไม่ใครหว่านอะไรย่อมเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น ผู้ที่หว่านเพื่อวิสัยบาปของเขาจะเก็บเกี่ยวความพินาศจากวิสัยนั้น ส่วนผู้ที่หว่านเพื่อพระวิญญาณจะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณ”
5. ฉันไม่ได้เป็นผู้หว่านเพียงคนเดียวเท่านั้น (I’m not the only sower.)
ยอห์น 4:38
“เราส่งพวกท่านไปเก็บเกี่ยวสิ่งที่พวกท่านไม่ได้ลงแรง คนอื่นได้ตรากตรำทำงานหนัก และพวกท่านได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงแรงของเขา”
6. เราเก็บเกี่ยวคนละฤดูกับที่หว่าน (I always reap in a different season than I sow.)
ปัญญาจารย์ 3:1-5
“มีเวลาสำหรับทุกสิ่งมีกำหนดเวลาสำหรับกิจกรรมทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์นี้
มี...เวลาปลูก เวลาถอน...เวลาโยน... เวลาเก็บรวบรวม...” (ปัญญาจารย์ 3:1-5)
7. เราต้องอดทนและต้องไม่ยอมแพ้ (We must be patient and not give up)
กาลาเทีย 6:9
“อย่าให้เราอ่อนล้าในการทำดี เพราะถ้าเราไม่ย่อท้อ เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันเหมาะสม”
8. เราจะเก็บเกี่ยวได้มากกว่าที่หว่านเสมอ (I always reap more than we sow.)
มาระโก 4:8
“บ้างก็ตกที่ดินดี แล้วงอกงามจำเริญขึ้น เกิดผลสามสิบเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง ร้อยเท่าบ้าง”
9. เราเพ่ิมการเก็บเกี่ยวโดยการหว่านเมล็ดมากขึ้น (We increase my harvest by planting more seed.)
2 โครินธ์ 9:6-7
“6จงจำไว้ว่าผู้ที่หว่านอย่างตระหนี่ก็จะเก็บเกี่ยวได้น้อย ผู้ที่หว่านด้วยใจกว้างขวางก็จะเก็บเกี่ยวได้มาก 7แต่ละคนควรให้ตามที่คิดหมายไว้ในใจ ไม่ใช่อย่างลังเลหรือเพราะถูกผลักดัน เพราะพระเจ้าทรงรักผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี”
สุภาษิต 11:24
“บางคนยิ่งให้อย่างใจกว้างกลับยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น ส่วนบางคนยิ่งตระหนี่ถี่เหนียวกลับยิ่งขาดแคลน”
10. ยิ่งเราหว่านมากขึ้น พระเจ้าก็ให้มากขึ้น (The more seed we plant the more God will give us.)
2 โครินธ์ 9:10
“ฝ่ายพระองค์ผู้ประทานพืชแก่คนที่หว่าน และประทานอาหารแก่คนที่กิน จะทรงโปรดให้พืชของท่านที่หว่านแล้วนั้นทวีขึ้นเป็นอันมาก และจะทรงให้ผลแห่งความชอบธรรมของท่านเจริญยิ่งขึ้น”
11. เราหว่านโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยความรู้สึก (We plant by faith, not by our feelings.)
สดุดี 126:5-6
“5บรรดาผู้ที่หว่านด้วยน้ำตาจะเก็บเกี่ยวด้วยบทเพลงแห่งความยินดี 6บรรดาผู้ที่ออกไปหว่านเมล็ดพืชด้วยน้ำตาจะแบกฟ่อนข้าวกลับมาด้วยบทเพลงแห่งความยินดี” (สดุดี 126:5-6)
12. เวลาที่ดีที่สุดที่จะหว่านคือเดี๋ยวนี้ (The best time to plant is now.)
ปัญญาจารย์ 11:4
“ผู้ใดมัวสังเกตลมก็จะไม่หว่านพืช และผู้ใดที่มองเมฆก็จะไม่เก็บเกี่ยว”