@@Wekit_007 มิคาสะอยู่เฝ้าเอเรนได้สักระยะนึง ซึ่งผมคิดว่าน่าจะสัก 10-20ปี และก็ไปมีครอบครัว เหมือนในช่วง End credit แล้วตอนตายก็สร้างหลุมไกล้ๆเอเรน
@pepesad4474 Жыл бұрын
Mikasa wrote “Here forever rest peacefully, my most beloved, my dear. 854” on Eren’s grave. The first two times Mikasa visits Eren’s grave she put four roses which means nothing will come between two people who love each other but cannot be together / tragic love. The last time she put one rose which means “you are still THE one". มิคาสะเขียนไว้บนหลุมศพเอเรนว่า "ณ ที่นี้พักให้สงบ, คนที่ฉันรักที่สุด, สุดที่รัก. 854" ตอนที่ มิคาสะมาเยี่ยมเอเรนเธอให้ดอกกุหลาบซึ่งหมายความว่า "จะไม่มีอะไรมาแยกเราออกจากกัน" เป็นความรักที่ไม่สมหวังอยู่ด้วยกันไม่ได้ / ความรักที่น่าเศร้า และเธอก็มาเยี่ยมอีกครั้งด้วยดอกกุหลาบซึ่งตีความได้ว่า "เธอยังคงเป็นที่รัก" A white flower was placed during her death, which symbolizes purity and virginity. So, taken together, Mikasa's flowers send the message that she won't forget Eren, she still loves him (but believes he can no longer love her back), she will remain devoted to him, and she is waiting. ดอกไม้สีขาวได้ฝั่งไปพร้อมกับเธอซึ่งให้ความหมายว่า ความบริสุทธิ์. ซึ่งถ้าหมายความว่า ดอกไม้ของมิคาสะ เป็นข้อความแสดงออกว่า มิคาสะ จะไม่ลืม เอเรน มิคาสะ ยังคงรักเอเรนอยู่(แต่เชื่อว่าเอเรนไม่ได้รักเธอกลับ) ถึงกระนั้นเธอก็ยังอุทิศตัวให้กับ เอเรน เธอยังคงรอ เอเรน อยู่ ผมเพิ่มให้นิดนึงนะครับ แหวน ที่เห็นนั้นเป็นแหวนของความบริสุทธิ์ (Ring of Purity) ซึ่งจะถูกฝั่งไว้กับสาวที่ยังรักษาพรหมจรรย์ของเธออยู่ They spent 4 years living together in Paths (ch. 138) And only when he “passed away” there, was she able to kill him in the real world. (it was a gift to them from Ymir) มิคาสะ กับ เอเรน เนี้ยได้ใช้ชีวิตร่วมกันใน พาท เป็นเวลา 4 ปี อ้างอิงจากมมังงะตอนที่ 138 และตอนที่ เอเรน นั้นได้สิ้นใจไปใน พาท นั้นแหละเป็นตอนที่ มิคาสะ สามารถทำใจฆ่า เอเรน ได้ในโลกจริง(เป็นของขวัญจาก ยูมี ถึง เอเรน กับ มิคาสะ In the ending credits where Eren and Mikasa were buried, an old man Armin still visiting their graves. He was the last to die from the trio, just like when they were kids running to the tree, he was the last one who reaches the tree. ในฉาก end credits ตรงที่ เอเรน กับ มิคาสะ ถูกฝังอยู่ข้างๆกัน จะเห็นว่ามี อาร์มิน ซึ่งแก่แล้วไปเยี่ยมหลุมศพของพวกเขา อาร์มิน เป็นคนที่จะตายเป็นคนสุดท้ายในแก็ง 3 คน ซึ่งก็เหมือนตอนเด็กๆที่พวกเขานั้นแข่งกันวิ่งไปที่ต้นไม้แล้ว อาร์มิน ไปถึงเป็นคนสุดท้ายตลอด. ผมว่าตรงนี้อาจารย์เก็บดีๆมากๆตามตรงปก volume 34 เลย หลอกให้คนเชื่อว่าเป็น แจน แต่จริงๆแล้วเป็น อาร์มิน มาตลอด
@pepesad4474 Жыл бұрын
ผมคิดว่าเธอนั้นไม่ได้แต่งงานกับใครเลย และนี่คือเหตุผลครับ ดอกไม้ 4 ดอกที่หลุมศพของ เอเรน ให้ความหมายว่า "จะไม่มีอะไรแยกเราออกจากกันได้" หรือ "จนกว่าความตายจะแยกเราออกจากกัน" ส่วนที่สำคัญอีกก็คือหลุมศพของ เอเรน ถูกสลักไว้ว่า "here forever, resting peacefully, my most beloved" ผมขอไม่แปลแล้วกันแต่ความหมายคร่าวๆว่า "พักให้สงบสุดที่รัก" ส่วนคนที่มายืนข้างๆ มิคาสะ จะเห็นได้ว่าทรงผมเป็นสี บลอนด์ ตีความได้ว่านั่นคือ อาร์มิน เพราะว่าเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดกับ เอเรน และ มิคาสะ ส่วนเด็กที่อุ้มมาได้นั่นทางฝรั่งเขาตีความว่ารับมาเลี้ยง และสุดท้ายฉากตอนที่ มิคาสะ นั้นนอนอยู่ในวาระสุดท้ายของเธอจะเห็นได้ว่าเธอนั้นมีดอกไม้สีขาวซึ่งตีความได้ว่า ความบริสุทธิ์ ส่วนแหวนนั้นหลายคนอาจจะมองว่าแหวนแต่งงานแต่จริงๆแล้วนั้นคือ Ring Of Chastity หรือ Ring Of Purity แหวนแห่งความบริสุทธิ์ซึ่งจะถูกฝั่งรวมกันคนที่ยังมีความบริสุทธิ์อยู่นั่นเอง ก็จะได้เข้ากับ ดอกไม้ ที่ฝั่งอยู่กับ มิคาสะ ด้วยครับ และที่สำคัญ มิคาสะ ยังถูกฝังข้างๆ เอเรน ด้วย ผ้าพันคอก็ยังใส่อยู่ซึ่งมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปแต่งงานกับคนอื่น และอีกอย่างนะครับอย่างเพลงจบ See you later นั่นหลังๆท้ายเพลงจะเห็นว่า มิคาสะ ได้มาอยู่กับ เอเรน อีกครั้งหลังจากที่เธอสิ้นใจไป และตอน end credit จะเห็นว่ามีชายแก่มาเยี่ยมหลุมศพซึ่งชายแก่คนนั้นก็คือ อาร์มิน ครับเพราะว่าอาร์มินจะมาถึงต้นไม้เป็นคนสุดท้ายเสมอ เหมือนตอนเด็กๆไม่เชื่อไปดูปก volume 34 ได้ครับ และท้ายสุดนะครับดูดีๆนะตอนที่พวกเพื่อนๆมายืนตรงหลุมศพ เอเรน จะเห็นว่า อาร์มิน สูงกว่า มิคาสะ แล้ว และก็มันมีภาพสเก็ตของอาจารย์ที่วาด อาร์มิน ให้มีผมเหมือน แจน ไปดูกระทู้ได้นะผมตั้งกระทู้อยู่ใน pantip
@zerozero7650 Жыл бұрын
@@pepesad4474ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
@pepesad4474 Жыл бұрын
@@zerozero7650 ผมมีอะไรมาเพิ่มนิดนึง This is a very famous consideration. It is believed that the bird that last wrapped the scarf around Misaka's head was a bird known by its Japanese name, the "Tohzoku Kamome". Also, the english name of this bird is "Pomarine Jaeger. นี่เป็นข้อคิดเห็นที่ตรงกันที่ค่อนข้างโด่งดัง "นกที่มาพันผ้าพันคอให้กับมิคาสะมีชื่อในญี่ปุ่นว่า "Tohzoku Kamome" และชื่ออังกฤษ Pomarine Jaeger ซึ่งนามสกุลของมันในภาษาอังกฤษออกเสียงคล้ายกับนามสกุลของ เอเรน
มีคนอ่าน last fantasy ด้วยย อยากให้หยิบเรื่องนี้มาขยายความหน่อยได้ไหมครับ ทั้งเรื่องที่มีคนบอกว่าได้แรงบันดาลใจ (ก๊อป) มาจาก final ไหนจะดราม่ากับสำนักพิมพ์ แล้วก็เนื้อเรื่องช่วงๆหลังๆที่ผู้เขียนคนละคนกันรึเปล่า เพราะสไตล์มันเปลี่ยนไปเยอะ หรือจะแค่ชวนคุยเนื้อเรื่องก็ได้ครับ ชอบมากๆ เป็นหนังสือชุดแรกเลยที่อ่านเป็นร้อยๆพันๆหน้าก็อ่านจบ เป็น first touch of fantasy ของผมจริงๆ