Рет қаралды 99,021
รองผบช.น. สรุปสาเหตุวางยาฆ่าล้างหนี้ ไม่ได้เกี่ยวแก๊งองค์กรอาชญากรรม ด้านแพทย์ชี้ 6 ศพตายเพราะ "ไซยาไนด์"
เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นที่ห้องสวีท 502 ชั้น 5 ของโรงแรมชื่อดังย่านราชประสงค์ ภายในห้องพักพบศพ ชายชาวเวียดนาม 3 คน และหญิงชาวเวียดนามอีก 3 คน นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน และห้องรับแขก สภาพศพคล้ายคนนอนหลับ บางคนมีเลือดออกที่จมูกและปากเล็กน้อย สันนิษฐานว่าทั้ง 6 คน น่าจะถูกวางยาพิษ เพราะภายในห้องไม่มีร่องรอยการต่อสู้ และอาหารที่สั่งมาก็ยังไม่ได้กิน มีเพียงถ้วยชา 6 ถ้วยที่ถูกใช้งานเท่านั้น
เมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่า มีการจองโรงแรมผ่านทางแอปพลิเคชั่นเข้ามา 7 คน แต่ระบุชื่อผู้เข้าพักแค่ 5 คน แต่วันที่เจอศพกลับเจอ 6 ศพ นี่คือประเด็นที่ตำรวจสรุปไว้เมื่อคืนนี้ว่าคำตอบที่ต้องหาให้ได้คือ ใครเข้ามาเมื่อไหร่ อย่างไร ใครพักห้องไหน ใครเป็นคนเปิดห้องสวีท บุคคลที่ 6 มาได้อย่างไร กับใคร และบุคคลที่ 7 ที่ไม่ได้เข้าพัก เกี่ยวข้องกับการตายครั้งนี้หรือไม่
ตำรวจใช้เวลาสอบสวนผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 10 ตลอดทั้งคืน ทั้งน้องสาว 1 ในผู้เสียชีวิต แม่บ้านโรงแรม รปภ. พนักงานเสิร์ฟ และเพื่อนผู้ตายที่อยู่ในไทย
กระทั่งเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงความคืบหน้าคดีนี้โดยระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย มีข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศไทยและการเข้าพักที่โรงแรมนี้ คือ
รอง ผบช.น. ขยายความเรื่องที่พบศพทั้ง 6 คนในห้องพักด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม พบว่า น.ส.เชอรีน ชอง เป็นผู้มาเปิดห้องพักนี้เอง จากนั้นราว 5 ทุ่ม ทั้ง 5 คนที่เหลือก็เดินาทงมาที่ห้องนี้ก่อนจะแยกย้ายกลับห้องตัวเองไป
จากนั้น15 กรกฎาคม ทั้งหมดได้เช็คเอาท์ที่ห้องตัวเองแล้วขนกระเป๋ามาไว้ที่ห้อง 502 จากนั้น นาย ฮุง ดัง วาน สัญชาติอเมริกันสั่งอาหารจากโรงแรม ตอนเวลา 11.42 น. โดยสั่งข้าวผัด 5 จาน ต้มยำกุ้ง 4 จาน ผัดผัก 4 จาน ผัดผักบุ้ง 1 จาน และชาร้อนอังกฤษ 2 กา พร้อมแก้วน้ำชา 6 ใบ
สักพัก นาย ดิน ซาน ฟู ช่างแต่งหน้าชื่อดังก็สั่งข้าวผัดเพิ่ม 1 จาน และขอให้มาส่งตอนบ่าย 2 โมง ซึ่งพนักงานเสิร์ฟมาส่งอาหารตอนบ่ายโมง 51 นาที ใช้เวลาเข้าไปเสิร์ฟอาหาร 6 นาที ซึ่งตอนเสิร์ฟ พนักงานถามว่าจะให้ชงชาเลยไหม แต่นางสาว เชอรีน ชอง ปฏิเสธ บอกว่าจะชงเอง
สอดคล้องกับภาพกล้องวงจรปิดของโรงแรม พบว่า ทุกคนมาเช็คอินเข้าพักด้วยตัวเอง และไม่มีบุคคลอื่นที่เข้าไปพักด้วยเลย จึงสันนิษฐานได้ว่า น่าจะมี 1 ใน 6 คนนี้เป็นคนวางยา เพื่อปลิดชีพทุกคน เพราะเมื่อตรวจสอบแก้วเครื่องดื่มพบสารไซยาไนด์
พล.ต.ต.นพศิลป์ บอกด้วยว่า ญาติของผู้เสียชีวิตบางคนให้ข้อมูลว่า น.ส.เชอรีน ชอง ได้ให้น.ส. ธิ เหงียน เฟือง ลาน เป็นนายหน้าไปชักชวน น.ส. ธิ เหงียน เฟือง และสามี คือ นายฮง ฟาม ธาน มาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทำถนนที่ประเทศเวียดนาม ให้ร่วมลงทุนการก่อสร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น คิดมูลค่าเป็นเงินไทย 10 ล้านบาท
แต่กลับไม่เห็นความคืบหน้าของการลงทุน น.ส. ธิ เหงียน เฟือง และสามี ได้ทวงถามมาตลอด จนล่าสุดทั้งหมดนัดหมายจะไปเคลียร์เรื่องนี้กันที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ติดขัดเรื่องการขอวีซ่า จึงเปลี่ยนมาที่ประเทศไทยแทน และทราบว่าทั้งหมดมีแพลนที่จะไปไหว้พระที่วัดยานนาวาด้วย ดังนั้นคดีนี้เป็นความขัดแย้งในเรื่องส่วนตัวของทั้ง 6 คน ไม่ได้เกี่ยวกับแก๊งองค์กรอาชญากรรม
ส่วนการตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทั้ง 8 ใบของผู้เสียชีวิต ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ แต่พบเอกสารการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับที่ดินของนางสาวเชอรีน ชอง แต่คู่ความเป็นบุคคลอื่น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เสียชีวิต
ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ บอกว่า เก็บตัวอย่างของเหลวในกระติกชา ขวดน้ำผึ้ง กล่องชา เพื่อไปหาสารพิษ และเก็บลายนิ้วมือแฝงแล้ว สำหรับผลการตรวจเชิงคุณภาพเบื้องต้น พบว่ามีสารไซยาไนด์ ที่อยู่ที่ของเหลวในกระติกน้ำชา และยังพบสารไซยาไนด์ในคราบที่ติดอยู่ที่ถ้วยกาแฟทั้ง 6 ถ้วย รวมถึงจากตัวอย่างเลือดศพที่เสียชีวิตที่นั่งพิงกำแพงอยู่ ก็พบว่าเลือดมีส่วนผสมของสารไซยาไนด์
ส่วนการตรวจเชิงปริมาณว่าจะมีปริมาณสารไซยาไนด์มากน้อยแค่ไหน หรือมีสารประกอบอื่นหรือไม่ หลังเที่ยงวันนี้ จะทยอยวิเคราะห์ผลออกมา รวมถึงตัวอย่างอาหารที่ทยอยเก็บไปด้วย และจากการสอบปากคำพนักงานเสิร์ฟ ยืนยันว่า กระติกสแตนเลสทั้ง 2 กระติกเป็นของโรงแรมที่นำชามาเสิร์ฟ
สำหรับสารไซยาไนด์นั้น จะออกฤทธิ์เฉียบพลันอยู่แล้ว ส่งผลต่อระบบหัวใจ แต่รายละเอียดการวางยาเป็นอย่างไรยังตอบไม่ได้
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/ne...
-------------------------
รายการ #เรื่องเด่นเย็นนี้
เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 17 กรกฎาคม 2567
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์
ทางช่อง 33 HD เวลา 16.30 - 18.00 น.
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : www.3plusnews.com
facebook : / 3plusnews
Twitter : / 3plusnews
KZbin : / 3plusnews
TikTok : / 3plusnews