🔺ไลฟ์สด🔺EP.2 ตอบคำถามอ.เบียร์ ที่อ.แชมป์ตอบไม่เคลียร์!!

[@KlomKlomFB]

❤ ชอบวิธีอธิบายที่เป็นมิตรแบบนี้ค่ะ ฟังแล้วรู้สึกสบายใจ ใครเห็นก็อยากเข้าใกล้ค่ะ ❤😃

[@แม้จริงยังสู้นิ่งไม่ได้]

บางศาสนา เอาความรัก และการเอาใจเผยแผ่ศาสนา บางศาสนา เอาการบังคับใช้ความรุนแรงเผยแผ่ศาสนา บางศาสนา เอาสัจจธรรมความจริงในคำสอน เผยแผ่ศาสนา

[@ชาญณรงค์ไชยรบ-ญ4ว]

พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระคริสต์..เปรียบเหมือนจุรินทรีย์ดี....ใจคนคือน้ำเน่าแล่ะเต็มด้วยจุลินทรีย์ไม่ดี...ขอพระวิญญานเข้ามาบำบัดสร้างใจใหม่ให้เราแบบออโต้เถิด

[@DearTrade]

ถ้าเชื่อเรื่องนรกสวรรค์ ทำดีได้ไปสวรรค์ ทำชั่วตกนรก และต้องเจอผู้พิพากษาชีวิตเราหลังความตาย ถ้าเชื่อแบบนี้แล้ว ทำไมหลายคนยังคิดว่าการมีอยู่ของพระเจ้า ถึงเป็นเรื่องที่อยู่เหนือจินตนาการเกินไป ส่วนตัวไม่ได้มองเป็นเรื่องความเชื่อ แต่มองเป็นเรื่องประวิติศาสตร์ความจริง การมาของพระเยซูคริสต์ไม่ใช่นิทาน แต่เป็นประวัติศาสตร์ความจริงที่เกิดขึ้นจริงและถูกจดบันทึกสืบต่อมา เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีก่อนจดบันทึกมาได้แค่ไหนก็มีความรู้แค่นั้น นั้นคือความจริงนะช่วงเวลานั้น และต่อมาเมื่อวันเวลาผ่านไปอีกหลายร้อยปี มีความรู้ มีความจริงใหม่ๆเกิดขึ้น ก็ควรต้องจดบันทึกความเข้าใจใหม่ๆเพิ่มเข้าไป สิ่งใหม่มาไม่ใช่เพื่อมาทำลายสิ่งเก่า แต่มาเพื่อทำให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นไปอีก

[@สุชาติชะนะภ้ย]

อาเมน สัจจธรรมในพุทธ ในคริสตเรียกพระเจ้าช่วยกล้วยทอด

[@ทิดแก้ว-ย9ผ]

ผมเป็นคนพุทธศาสนาที่่โชคดีที่สุดเพราะพุทธสอนให้เชื่อสิ่งเป็นจริงหาเหตุผลได้และให้พิจารณาคำสอนของศาสนาต่างๆได้โดยไม่บาปถ้าเห็นจริงตามที่ศาสนาอื่นว่าไว้ก็หันไปนับถือศาสนาอื่นก็ได้ไม่มีใครว่า ผมถูกชาวคริสต์ชวนไปเข้าคริสต์ผมจึงขอผลัดไปก่อนบอกเขาว่าขอศึกษาเรื่องศาสนาทุกศาสนาดก่อนเพราะทุกศาสนาก๋ว่าของเขาสอนจริงกันทั้งนั้นความจริงต้องมีเพียงหนี่งเดียวจากนั้นผมศึกษาศาสนายิว ฮินดู คริสต์ อิสลาม พุทธ ย่างละเอียด(บังเอิญผมเป็นชอบศึกษาเรื่องศาสนาอยู่ด้วย)ผมตั้งเป้าไว้ว่าศาสนาที่สอนได้จริงแท้ถูกต้องต้องอธิบายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทุกอย่างในสากลจักรวาลได้อย่างมีถูกต้องและมีเหตุผลตามหลักการทางวิทยาศาสตร์จะไม่เชื่อความเชื่อที่เกิดจากศรัทธาอย่างเดียวเลย...จากการศึกษาผมตกผลึกได้ว่าไม่พบความจริงเลยในศาสนาที่สอนเรื่องพระเจ้าสร้างทุกสิ่งในจักรวาลเช่นศาสนาฮินดูก็สอนเรื่องพระเจ้าสร้างจักวาลเช่นเดียวกับศาสนายิว..อ้าวโลกใบเดียวกันแต่สร้างโดย๒พระเจ้า555 พระเยซูเป็นชาวยิวที่ยึดมั่นในศาสนายิวอย่างสูงสุดเที่ยวเดินเทศนาสั่งสอนชาวยิวให้ยึดมั่นในศาสนายิวจนในที่สุดก็ประกาศตัวเองว่าเป็นลูกพระเจ้ามีคนค่อยทะยอยเชื่อมากขึ้นทหารโรมันเห็นว่าพระเยซูอาจเป็นตัวอันตรายจึงจับไปให้ฆ่าตายโดยการตรึงบนไม้กางเขน ก่อนตายพระเยซูพูดออกมา2ประโยค คือพระผู้เป็นเจ้าโปรดให้อภัยทหารโรมันด้วยเพราะพวกเขาทำไปโดยไม่รู้ความบาปประโยคนี้แหระที่ทำให้เกิดศาสนาคริสต์ ส่วนประโยคที๒ชาวคริสต์ไม่ค่อยเอามาเปิดเผยนักเพราะอาจเกิดผลลบกับศาสนาคริสต์คือ พระผู้เป็นเจ้าลืมข้าพเจ้าแล้วหรือจึงปล่อยให้ข้าต้องตายอย่างทรมานเช่นนี้...จากนั้นศึกษาคัมภีร์ไบเบิลของชาวยิวตกผลึกได้ว่าเรื่องพระเจ้าหาเหตุผลไม่ได้โมเสสขึ้นไปบนยอดเขาซีไนซ์เพียงคนเดียวแล้วอ้างว่าไปพบพระเจ้ามาเขาขึ้นไปเพื่อแก้ปัญหาการแตกสามัคคีของชาวยิวเท่านั้นไม่มีหลักฐานและพยานให้รู้เห็นเชื่อถือได้ คำสอนในคัมภีร์ยิวแทบหาความจริงไม่ได้ในเรื่องการสร้างทุกอย่างของพระ้จ้าเลยวิทยาศาตร์พิสูจน์ให้เห็นแล้ว พระเยซูยึดมั่นในศาสนายิวดังนั้นสิ่งที่พระเยซูสอนจึงผิดหมดเชื่อถึอไม่ได้เลย ตัวพระเยซูเองก็เกิดมาพิลึกกึกกือมีแม่เป็นมนุษย์แต่มีพ่อเป็นพระเจ้า(ไม่สงสัยโยเซฟบ้างเร้อะ55) พระเยซูตายไปแล้วจึงเกิดศาสนาคริสต์ขึ้น(ศาสนาคริสต์เกิดขึ้นเพราะเชื่อว่าพระเยซูเป็นลูกพระเจ้า)นั่นคือพระเยซูไม่ได้เกี่ยวของอะไรกับศาสนาคริสต์เลยแต่ชาวคริสต์เอามาโปรโมทจนกลายเป็นพระเจ้าไปแล้ว ผมตกผลึกได้ว่าศาสนาคริสต์ไม่ได้ให้คำตอบที่ถูกต้องของความเป็นไปของสรรพสิ่งในจักรวาลได้ แถมตอบไปตอบมาขัดแย้งกันเองแถไปแถมาเชื่อถือไม่ได้ สรุปแล้วผมเป็นพุทธตามเดิมครับคำตอบที่ถูกต้องอยู่ที่พุทธนี่แหละตอนนี้วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าศาสนาสอนถูกต้องครับ

[@สวนมรรคสุญญตา]

พูดได้ดีๆ เกิดเป็นคนต้องมีเหตุผลเช่นนี้แล

[@theangel25]

❤❤❤

[@สราเพชรพัฒมณี]

ผมขอพระคัมภีร์ด้วยครับ

[@NopVang]

ข้าพเจ้าจะไม่ใช้ความรู้ของข้าพเจ้าในการพูดถึงพระวจนะของพระเจ้า เพราะข้าพเจ้าเกรงว่าความรู้ของข้าพเจ้าจะทำให้พระวจนะของพระเจ้าเสื่อมไป (จงกระทำทุกอย่างโดยการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์นะครับ)ขอหนุนใจคุณนกนะครับ จงขอสติปัญญาจากเบื้องบนนะครับ

[@Mawin-xt7si]

ผมคริสคาทอลิกตั้งแต่เกิด คุณยิ่งพูดยิ่ง งง 😂😂😂

[@KlomKlomFB]

🩷❤️🩷 เราไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีเลิศหรอกค่ะ เพื่อจะเข้าสู่สวรรค์ สำหรับความเชื่อทางคริสต์แล้ว พระเยซูได้ไถ่บาปให้แล้ว เราก็วางใจลง แล้วดำเนินชีวิตต่อไปจากนี้ให้ดีได้เลย ไม่ต้องพะวักพะวงกับอดีตอีกแล้ว 🩷 สำหรับทางพุทธ เราเพียงวางความยึดมั่นถือมั่นลง อโหสิกรรมให้กัน ตั้งใจเป็นคนดีนับจากนี้ไป ช่วงขณะที่คนนึงกำลังเสียชีวิต หากเราระลึกถึงคุณงามความดีได้ มีจิตใจที่เป็นกุศล ปิติ สุข ในขณะช่วงที่เราเสียชีวิต จิตจะพาเราไปเกิดยังสวรรค์ หรือในภพภูมิที่ดีค่ะ 🩷 ทุกศาสนาล้วนงดงามในแบบของตัวเอง ทุกหนทางล้วนมีจุดเด่นข้อดีในแบบของตัวเอง ไม่มีใครดีกว่าใครหรอก แล้วแต่ใครชอบแบบไหนก็เลือกเดินทางนั้นได้เลย 🩷❤️🩷❤️

[@นพรัตน์เนื่องจํานงค์]

คำสอนของพระเยซู เป็นของพระเยซูทั้ง หมด ไม่ใช่ของพระเจ้า พระเยซูจะบอก ว่าเป็นของตนก็ไม่กล้าบอก ถ้าบอกปัญหาไม่จบ จึงบอกว่าเป็นของพระเจ้า เพราะถ้าบอกว่าเป็นของพระเจ้าแล้วตรวจสอบไม่ได้ อะไร อะไรก็ยกให้พระ เจ้าจะได้จบไป พระเยซูถูกตรึง เพราะถูกกล่าวหาว่า ปลุกระดม พระเยซูไม่ได้ช่วยไถ่บาป เรานับถือศาสนา เพราะเราต้องการคำสอนที่ดี ปฏิบัติตามแล้วหลุดพ้นได้ เราต้องเลือกนับถือ ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนานั้น ศาสนาอะไรก็ได้. สงสัยว่า ชาวตะวันตกจะเชื่อก็ต่อเมื่อ มีหลักฐานยืนยัน พระเจ้าไม่มีตัวตนทำไมเชื่อ.

[@abc_xyz-o2x]

อยากเสริมนิดนึงครับ คือ การจะพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงคือการบรรลุอรหันต์ที่ดับกิเลสโดยสิ้นเชิง แต่การจะไปถึงขั้นนั้นถ้ามองแบบรวบยอดอาจจะมองว่าเป็นไปไม่ได้และยากลำบาก แต่ถ้าทำและคิดแบบเป็นขั้นเป็นตอนมีลำดับของบรรลุ เหมือนว่าถ้าเราไม่มีความรู้อะไรแล้วจะจับไปนั่งเรียน ป.4 คงไม่รู้เรื่องอะไร แต่ถ้ามีเล่าเรียนศึกษาเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ ป.1 สำเร็จและไป ป2. เรื่อยๆ ก็จะไปถึงจุดหมายที่ต้องการคือ ป.4 การที่ต้องการจะบรรลุอรหันต์ดับกิเลสโดยสิ้นเชิงนั้น ถ้ามีการกระทำอย่างเป็นขั้นตอนคือ การละสังโยชน์(เครื่องร้อยรัดจิต) ซึ่งเป็นเครื่องวัดการระดับการบรรลุแจ้งในขั้นต่างๆ ของการละกิเลสมี 10 ข้อ คือ ถ้าละได้ 3 ข้อ ก็จะบรรลุโสดาบันซึ่งเป็นอริยะบุคคลเบื่องต้น จะไม่ตกต่ำอีกต่อไปคือมีนิพพานเป็นเบื่องหน้าและตามคำพยากรณ์ของพระพุทธเจ้าคือผู้บรรลุโสดาบันจะเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะบรรลุอรหันต์ในชาติใดชาติหนึ่งขึ้นอยู่กับอินทรีย์ของบุคคลนั้นว่ามีมากน้อยเท่าไหร่ แต่ไม่มีวันตกต่ำและจะไม่ไปอบาย(นรก) อีกที่ต่อไปคติที่ไปจะมีแต่ดีขึ้นจนบรรลุมรรคผลนิพพานในที่สุด สังโยชน์ มี 10 ข้อ คือ โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ได้แก่ 1. สักกายทิฏฐิ - มีความเห็นว่าขันธ์ 5 คือตัวตน 2. วิจิกิจฉา - มีความสงสัยลังเลในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 3. สีลัพพตปรามาส - มีความยึดมั่นถือมั่นอยู่ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือศีลพรตภายนอกพระพุทธศาสนา หรือการถือข้อปฏิบัติที่ผิด 4. กามราคะ - มีความพอใจในกามคุณ 5. ปฏิฆะ - ความกระทบกระทั่งในใจ ความหงุดหงิดขัดเคือง อุทธัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องสูง 5 ได้แก่ 6. รูปราคะ - มีความพอใจในรูปสัญญา 7. อรูปราคะ - มีความพอใจในอรูปสัญญา 8. มานะ - มีความถือตัว ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ความรู้สึกสำคัญตัวว่าดีกว่า เลวกว่า หรือเสมอกัน 9. อุทธัจจะ - มีความฟุ้งซ่าน 10. อวิชชา - มีความไม่รู้ในอริยสัจ 4 อริยะบุคคลมี พระโสดาบัน ทำสังโยชน์ 3 ข้อให้สิ้นไปได้ คือ สักกายทิฏฐิ, วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส พระสกทาคามี ทำสังโยชน์ 3 ข้อให้สิ้นไปได้ และมีราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง พระอนาคามี ทำสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ข้อ หรือโอรัมภาคิยสังโยชน์ให้สิ้นไปได้ พระอรหันต์ ทำสังโยชน์เบื้องต่ำและเบื้องสูงทั้ง 10 ข้อให้สิ้นไปได้

[@KlomKlomFB]

สาธุธรรมนะคะ 😊❤

[@KlomKlomFB]

คำสอนพระพุธเจ้า มีความละเอียด และลึกซึ้งมากๆ 😊

[@PerfectLoveCastsOutFear]

พระเยซูตรัสในตอนหนึ่งว่า... มัทธิว 23:23 วิบัติแก่เจ้า พวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสี คนหน้าซื่อใจคด ด้วยพวกเจ้าถวายทศางค์ของสะระแหน่ ลูกผักชี และยี่หร่า ส่วนข้อสำคัญแห่งธรรมบัญญัติคือความยุติธรรม ความเมตตา ความเชื่อนั้นได้ละเลยเสีย การถวายทศางค์พวกเจ้าก็ควรปฏิบัติ แต่ไม่ควรละเลยข้อสำคัญนั้นด้วย ทศางค์คือสิบลด พระเยซูไม่ได้ตรัสว่าไม่ควรถวาย พระองค์บอกว่า "พวกเจ้าก็ควรปฏิบัติ แต่..." แต่เรื่องสิบลดไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายว่าจะต้องเป๊ะๆ ถ้าคุณมีไม่พอใช้จ่ายในสิ่งจำเป็นก็ไม่เป็นไร

[@theangel25]

ในเวลานั้น พระเยซูพูดกับธรรมาจารย์ และฟาริสี คนหน้าซื่อใจคด ในเวลานั้น คนเหล่านี้ยังอยู่ในพันธสัญญาเดิม จึงยังต้องถวายสิบลดตามพันธสัญญาเดิมอยู่ แต่ในพันธสัญญาใหม่ ไม่มีการสอนให้ถวายสิบลดอีกต่อไปแล้ว มีแต่การสอนว่า จงให้ด้วยใจสมัคร และให้ด้วยใจยินดี ไม่มีการกำหนดจำนวนขั้นต่ำอะไรใดๆ อีกต่อไปแล้วนะท่านคนหน้าซื่อใจคดที่สอนคุณมา

[@ภูวณัฐเชษฐสุมน]

ทำไมพุทธจึงเป็นศาสนาแห่งความจริง(Why Buddhism Is True) kzbin.info/www/bejne/mpS7kIKrn8R7nqssi=HP42Lv7F5r_KepC3

[@theangel25]

พระเยซูทรงสัญญาจะประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ 15 “ถ้าพวกท่านรักเราพวกท่านจะเชื่อฟังสิ่งที่เราบัญชา 16 และเราจะทูลขอต่อพระบิดาและพระองค์จะประทานที่ปรึกษาอีกองค์หนึ่งให้มาอยู่กับพวกท่านตลอดนิรันดร์ 17 คือองค์พระวิญญาณแห่งความจริง โลกไม่อาจรับพระองค์เพราะโลกไม่เห็นและไม่รู้จักพระองค์ แต่ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์เพราะพระองค์ทรงดำรงอยู่กับพวกท่านและจะอยู่ในพวกท่าน 18 เราจะไม่ทิ้งพวกท่านให้เป็นลูกกำพร้า เราจะมาหาพวกท่าน 19 อีกไม่นานนักโลกก็จะไม่ได้เห็นเราอีกแต่พวกท่านจะเห็นเรา เพราะเรามีชีวิตอยู่ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตอยู่ด้วย 20 ในวันนั้นพวกท่านจะตระหนักว่าเราอยู่ในพระบิดาของเราและพวกท่านอยู่ในเราและเราอยู่ในพวกท่าน 21 ผู้ใดที่ยึดถือและเชื่อฟังคำบัญชาของเรา ผู้นั้นก็คือผู้ที่รักเรา พระบิดาของเราจะทรงรักผู้ที่รักเราและเราเองก็จะรักเขาและจะสำแดงตัวเราเองแก่เขาด้วย” 22 แล้วยูดาส (ไม่ใช่ยูดาสอิสคาริโอท) ทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า เหตุใดพระองค์จึงทรงเจตนาที่จะสำแดงพระองค์เองแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแต่ไม่สำแดงแก่โลก?” 23 พระเยซูตรัสตอบว่า “ถ้าผู้ใดรักเราเขาจะเชื่อฟังคำสอนของเรา พระบิดาของเราจะทรงรักเขา พระบิดากับเราจะมาหาเขาและอยู่กับเขา 24 ผู้ที่ไม่รักเราจะไม่เชื่อฟังคำสอนของเรา ถ้อยคำซึ่งพวกท่านได้ยินนี้ไม่ใช่คำของเราเองแต่เป็นของพระบิดาผู้ทรงส่งเรามา 25 “ทั้งหมดนี้เราได้กล่าวไว้ขณะที่เรายังอยู่กับพวกท่าน 26 แต่องค์ที่ปรึกษาคือพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระบิดาจะทรงส่งมาในนามของเราจะทรงสอนสิ่งทั้งปวงแก่พวกท่าน และจะให้พวกท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราได้กล่าวกับพวกท่าน 27 เรามอบสันติสุขแก่พวกท่าน สันติสุขที่เราให้ไม่เหมือนที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านทุกข์ร้อนและอย่ากลัวเลย 28 “พวกท่านได้ยินเราพูดว่า ‘เรากำลังจะจากไปและเรากำลังจะกลับมาหาพวกท่าน’ หากพวกท่านรักเรา พวกท่านก็จะดีใจที่เรากำลังไปหาพระบิดาเพราะพระบิดาทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา 29 เราบอกพวกท่านขณะนี้ก่อนที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น เพื่อเมื่อเกิดขึ้นจริงๆ พวกท่านจะได้เชื่อ 30 เราจะพูดกับพวกท่านได้อีกไม่นานเพราะผู้ครองโลกนี้กำลังจะมา เขาไม่อาจยับยั้งขัดขวางเราได้ 31 แต่เขามาเพื่อโลกนี้จะได้เรียนรู้ว่าเรารักพระบิดาและทำสิ่งที่พระบิดาได้ทรงบัญชาเราไว้อย่างเคร่งครัด” ยอหน์ บทที่ 14 TNCV

[@ชาญณรงค์ไชยรบ-ญ4ว]

เป็นเมียน้อยผิดไม่ผิดขึ้นกับเมียหลวงว่าเขาทุกข์ไหม..หรือประเพณีวัฒนธรรมนั้นเชื่อแบบไหน.เพราะวัฒนธรรมแต่ละประเทศย่อมแตกต่างกัน..ถ้ามีสุขทั้งสองฝ่ายก็ไม่ใช่บาป..บางประเทศมีเมียได้มาก.บางประเทศมีสามีได้มาก..เขาแฮบปี้..ขึ้นกะประเพณี...พระคริสต์จึงไม่ตัดสินตามธรรมบัญญัติเป็นหลักแต่ตัดสินด้วยความรักสุขทุกข์.มากกว่าา

[@theangel25]

ใช่ครับถูกต้อง พระบัญญัติใหม่ของพระเยซูคริสต์คือ ให้รักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจ และรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง อับราฮัมก็มีภรรยา 2 คน คือนางซาราห์ และนางฮาการ์ ถ้าไม่ได้ทำให้ใครมีความทุกข์ มันก็ไม่บาปครับ สิ่งที่บาปคือการไปแย่งสามี หรือภรรยา ของคนอื่น โดยเจ้าตัวไม่ยินยอม ความบาปคือการไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่เชื่อในการไถ่บาปของพระเยซู

[@KlomKlomFB]

อธิบายได้ดีค่ะ 😊❤