แนะนำการสวดมนต์ข้ามปีให้ได้อานิสงส์สูง

[@namm_paikaii]

น้อมกราบสาธุเจ้าค่ะ💕🙏

[@theerawatech]

สาธุครับ

[@noosermprasert2665]

สาธุค่ะ🙏🏻

[@พุดซาแสงบุดดา]

ต่ออีกนิด พระพุทธเจ้าเคยถามภิกษุว่าพวกเธอเห็นคนตัดกิ่งไม้แล้วรากไปหรือไม่ ภิกษุก็ตอบว่าเห็นพระเจ้าข้า พวกเธอรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกรากไปเหมือนกิ่งไม้หรือใบไม้หรือไม่ ภิกษุก็ตอบว่าไม่รู้สึกพระเจ้าข้า พระพุทธเจ้าถามต่ออีกว่าเป็นเพราะอะไร ภิกษุตอบว่าก็ใบไม้กิ่งไม่ใช่ตัวตนของเรา ที่พระพุทธเจ้าถามภิกษุแบบนั้นเป็นเพราะว่าภิกษุยังเห็นตนนั้นไม่ใช่กิ่งไม้หรือใบไม้ แต่ที่แท้แล้วตัวตนนั้นสร้างมาจากที่เรากลืนกินเข้าไปซึ่งมันมีเยอะกว่าคำว่ากิ่งไม้ใบไม้เพราะเราได้สัตว์นานาชนิด พืชผักนานาชนิดและต้นไม้ที่เคี้ยวกินตรงๆไม้ได้ยังเอาทำยาได้ ถ้าเราไม่มีการเคี้ยวกลืนกินชีวิตมนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉานก็ตั้งอยู่ไม่ได้ มนุษย์พืชและสัตว์นี้อาศัยซึ่งกันและในการดำรงชีวิตมนุษย์เกิดมาแล้วต้องเคี้ยวกลืนกินชีวิตอื่นและพืชผักต่างเพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ สัตว์เดรัจฉานก็มีลักษณะเหมือนมนุษย์ อย่าลืมนะว่าสัตว์ก็กินมนุษย์ได้เหมือกันเช่นพยาธิต่างๆหลายชนิดที่มีอยู่ในตัวเรา หรือเสือก็กินเราได้ถ้าตายสัตว์และพืชก็กินเราได้แต่พืชกินเราในนามว่าปุ๋ยไง จากสัตว์เดรัจฉานและพืชผักเราก็แปรรูปมาเป็นอาหาร และรูปร่างกายของเราก็แปรรูปจากอาหารให้เป็นสารอาหารและส่งไปในส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งมีตาหูจมูกลิ้นกายใจ และทุกสิ่งทุกอย่างที่มีในร่างกายให้เจริญเติบโตต่อไป ถ้าไม่ได้อาหารก็จะหมดเรี่ยวแรงหูอื้อตาลายจะตายให้ได้เลย เข้าใจหรือยังว่าอัตตวาอุปาทานมันต้นตอแห่งทุกข์ทั้งหลาย เมื่อพิจารณาจนเข้าใจแล้วจนครองปากขึ้นใจแทงตลอดด้วยทิฐิ นิพพิทาญาณในขันธ์ห้าก็จะเกิด จิตก็จะคลายความกำหนัดยินดีในขันธ์ห้า ที่แหละที่มาของคำว่านิพพาน วิธีปฏิบัติคือมรรคแปดหรือศีลสมาธิปัญญา ปฏิบัติด้วยกายวาจาและใจ เพื่อก้าวข้ามปุถุชนเพื่อบรรลุเป็นพระโสดาบัน จากเราโพธิสัตว์ ใครอยากเกิดในยุคของเราคือพระศรีอริยเมตไตรย์เปิดฟังข้าพเจ้า และต้องเคารพพระรัตนตรัยด้วยเพราะพระโพธิสัตว์ก็เป็นชาวพุทธเหมือนกัน

[@พุดซาแสงบุดดา]

พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้สวดข้ามปี ถ้าถามกลับไปว่าสวดเพื่อให้เกิดอะไร แต่ส่วนคนที่รวมตัวกันคือความแสดงความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันหรือจะเรียกว่าการประชุมก่อให้เกิดความรักความสามัคคีของหมู่คณะหรือความสมัครสมานสามัคคีของคนทั้งประเทศ อย่างอื่นที่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานไม่มี นิพพานปรารถนาเอาไม่ได้ เพราะนิพพานแปลตรงๆว่าดับ ดับใน ที่นี้คือดับภพ สถานที่ให้เกิด กับชาติคือกับการเกิด การที่จะดับสองสิ่งนี้ได้ต้องรู้จักขันธ์ห้า และทุกข์โทษของขันธ์ห้า และเกิดนิพพิทาญาณคือความเบื่อหน่ายในขันธ์ห้า เมื่อรู้แล้วว่าต้องดับแบบนี้หรือด้วยวิธีนี้ ก็ต้องเดินมรรค8หรือย่คือศีลสมาธิปัญญา การปฏิบัติก็ใช้กายวาจาใจปฏิบัติแบบเบื้องต้นคือศีลห้าเพราะเป็นศีลของโสดาบัน นิพพานนั้นทำไม่ได้ด้วยการขอ หรือปรารถนาแต่ต้องสร้างเหตุให้ถูกต้องและต้องเบื่อหน่ายในขันธ์ห้าและเกิดการปล่อยวางหรืออุปาทานดับ(ความยึดมั่นในขันธ์ห้า)ชาวศิวิไลจ้องฟังเราเป็นหลักเราจะมาคัดแยกคนที่จะไปเกิดในยุคพระศรีอาริย์ให้ฟังเรา เราคือโพธิสัตว์ และจะนำเอาแก่นแท้ในคำสอนของพระพุทธเจ้ามาชี้ชวน ใครที่ฟังแล้วจะบรรลุธรรมเป็นโสดาบันได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น กายนี้ไม่ใช่ตัวตนของเราเพราะกายนี้สร้างมาจากอาหารที่เรากันเข้าไปมีเลือดเนื้อของสัตว์และพืช กายนี้ที่ประกอบด้วยอายตนะหกมันสร้างอาหารที่เรากลืนกินเข้าไป บาลีว่า กวฬิงการาการ คือการกลืนกินอาหาร ถ้าไม่มีอาหารกายนี้ที่ประกอบด้วยตาหูจมูกลิ้นกายใจก็ดับหรือแตกสลาย