นายก อนุมัติงบแก้ปัญหาน้ำ อ.พาน 110 ล้านบาท

“นายกฯ” ลงพื้นที่เชียงราย พูดคุยบริหารจัดการน้ำโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองฮ่าง อนุมัติ 3 โครงการ 110 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 13 กรกฎาคม ที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองฮ่าง ต.ทานตะวัน อ.พาน จ.เชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ และ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ว่าที่ร้อยตรีศราวุธ จันทวงค์ รอง ผวจ.เชียงราย ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านพูดคุยประเด็นปัญหาการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองฮ่าง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีชาวบ้านในพื้นที่ให้การต้อนรับจำนวนมาก
จากนั้น ประชาชนในพื้นที่ ต.ทานตะวัน อ.พาน จ.เชียงราย ได้สะท้อนปัญหาในพื้นที่ว่า 40 กว่าปีก่อน พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ทำมาหากินของปู่ย่าตายาย แต่เมื่อปี 2545 มีการขุดเกาะน้ำเป็น 3 เกาะ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมากทั้งน้ำท่วมซ้ำซาก และน้ำแล้ง อีกทั้งไม่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เพราะน้ำตื้นเขิน วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่นายกฯและคณะลงพื้นที่เพื่อที่จะได้ช่วยพัฒนาพื้นที่ เพราะปี 67 ได้งบ 10 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ ส่วนปี 68 ไม่มีงบ จึงอยากขอความเมตตาจากนายกฯและคณะ ช่วยผลักดันงบประมาณให้ชาวบ้าน และขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ
นายกฯ กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาที่นี่ครั้งแรกในบรรยากาศที่สบายๆ วันนี้เรามาครบทั้งกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และฝ่ายที่ดูแลเรื่องงบประมาณ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเรื่องน้ำเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลให้ความมุ่งมั่นที่จะต้องดูแลให้ดีทุกพื้นที่ ซึ่งเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง ตนได้ส่งทีมงานลงมาคุยในพื้นที่ก่อนล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น เรื่องของการที่เราจะพัฒนาสนับสนุนเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร อุปโภคบริโภค หรือการพัฒนาให้บริเวณนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเราจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของงบประมาณที่บอกว่ามีแค่ 10 ล้านบาท ส.ส.ในพื้นที่ก็ได้มีการมาพูดคุยกับตนหลายครั้งแล้ว เรื่องของงบประมาณเราเข้าใจว่า 10 ล้านบาท คงไม่เพียงพอ แต่เรามี 3 โครงการในพื้นที่จึงขอให้เติมศูนย์อีกตัวที่ไม่ใช่ 10 ล้านบาท แต่เป็น 110 ล้านบาท เราไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามจะทำให้ดีต่อไป
จากนั้นในเวลา 12.15 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางต่อไปเยี่ยมชมข่วงเรียนรู้เยาวชน วิสาหกิจชุมชน และพบปะเยาวชน และประชาชน ณ โรงเรียนเทิงวิทยาคม ต.เวียง อ.เทิง จ.เชียงราย และร่วมเวทีเสวนากับนักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ อ.เทิง เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการของเยาวชน โดยตัวแทนของเยาวชนได้สะท้อนปัญหาในเรื่องที่ อ.เทิง เป็นอำเภอชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้มีปัญหายาเสพติดทะลักเข้ามาในพื้นที่เป็นปริมาณมาก ซึ่งในสถานศึกษาก็มีปัญหาไม่แพ้ที่อื่น โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสามารถหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย ทั้งซื้อขายปกติ และซื้อขายตามช่องทางออนไลน์ ก็เลยอยากให้ทางภาครัฐช่วยเอาจริงเอาจังในการปราบปรามปัญหายาเสพติด อยากให้ช่วยปราบปรามแหล่งผลิต ผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย อย่างจริงจัง และอีกสิ่งที่บรรดาเยาวชนเรียกร้องก็คือ ทางภาครัฐได้ส่งเสริมให้เยาวชนเล่นกีฬา เพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หลีกไกลจากปัญหายาเสพติด แต่ปัญหาก็คือช่วงนี้เป็นฤดูฝน และสถานที่เล่นกีฬาส่วนใหญ่จะอยู่กลางแจ้ง พอฝนตกก็จะประสบปัญหา เล่นกีฬาไม่ได้ จึงอยากให้ทางรัฐบาลช่วยสร้างสนามกีฬาในร่ม ช่วยให้เด็กๆเยาวชนได้มีสถานที่สำหรับออกกำลังกาย ห่างไกลจากปัญหายาเสพติด