Рет қаралды 1,616,822
@การทดสอบคุณไสยหรือการทดสอบว่ามีสิ่งชั่วร้ายแอบแฝงในร่างกายหรือไม่นั้น ค่อนข้างมีหลายวิธี บทสวดอาจไม่ใช่การทดสอบโดยตรง แต่พบว่าสามารถส่งผลต่ออาการประหลาดที่ซ่อนเร้นในบางรายได้ชัดเจน ถ้าเป็นหนักๆจะสวดมนต์ไม่ได้ ปากบิดเบี้ยวหรือชัก ผู้ป่วยจะควบคุมตนเองไม่ได้
ในกรณีที่มีอาการรุนแรงและชัดเจน เช่นก้อนเนื้อนูนที่เคลื่อนที่ได้ สามารถแตกออกเป็นหลายก้อนและกลับมารวมตัวกันได้เอง x - ray จะไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
แต่กรณีที่ถูกสิ่งลึกลับติดตามห่างๆ การฟังเสียงสวดหรือแขวนเครื่องรางจะไม่มีอาการตอบสนองใดๆ แต่ผู้ประสบเหตุเช่นนี้มักต้องเจอเข้ากับปรากฏการณ์ที่ผิดไปจากธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ
สัมผัสของมนุษย์มีข้อจำกัด เช่น ตามองเห็นคลื่นแสงแค่ในช่วงความยาวคลื่นจำกัด ถ้าต่ำหรือสูงกว่านี้ก็มองไม่เห็น หรือแม้แต่ข้อจำกัดเรื่องความถี่เสียงที่เกินกว่าหูมนุษย์ปกติจะรับได้ ดังนั้น สิ่งที่ไม่เห็นและสัมผัสไม่ได้ อาจมิได้หมายความว่าจะไม่มีอยู่จริง ดังนั้น ประสบการณ์ในช่วงชีวิตของแต่ละคนอาจได้ประสบพบเจออาจแตกต่างกัน คนที่เจอก็เชื่อ คนที่ไม่มีประสบการณ์ก็ย่อมไม่เชื่อ
ดังนั้นความเชื่ออาจเป็นได้แค่ความเชื่อ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละบุคคล เพราะทุกคนมีเสรีภาพที่เลือกจะเชื่อหรือไม่เชื่อ
สำหรับบทสวดถอนคุณไสยนี้ก็เป็นแนวทางหนึ่งในทางความเชื่อ ที่ใช้ทดสอบของไม่ดีอันแอบแฝงในร่างกายเบื้องต้น (แค่เบื้องต้นเท่านั้น ยังมีอย่างอื่นที่เหนือกว่า) รวมไปถึงอาจใช้ทดสอบของที่ลงไว้ทางไสยศาสตร์ การมีองค์ มีทรง มีเทพ อะไรในตัวอาจปรากฏอาการตอบสนอง เช่น ขนลุกวูบวาบ มึนงง ปวดหัว หาว เรอ น้ำตาไหล หายใจไม่ออก และจัดหนักคืออาเจียน
บทสวดนี้เป็นรูปแบบของไสยศาสตร์ที่นับถือพุทธเจ้าเป็นใหญ่ มิใช่บทสวดของศาสนาพุทธ
อาการหาว เป็นการตอบสนองในด้านดี ไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่งชั่วร้าย ถ้าใครที่หาวเพราะเสียงสวดนี้ จิตย่อมจูนเข้าได้กับกระแสชนิดนี้ การมองภาพสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บางแห่ง ก็สามารถทำให้หาวได้เช่นกัน รวมถึงภาพวัตถุมงคลที่มีการแผ่รังสีบางชนิดออกมา