Рет қаралды 94,260
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับช่อง DW Deutsche Welle (ด็อยท์เชอเว็ลเลอ) สื่อเยอรมันเกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตของ บุ้ง เนติพร
โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Pipob แปลคำให้สัมภาษณ์ของนายพิธา โดยนายพิธาอธิบายถึงอุดมการณ์ของ บุ้ง ทะลุวัง และเยาวชนหนุ่มสาวคนอื่น ๆ ที่ถูกดำเนินคดีการเมือง และเรียกร้องสิทธิในการประกันตัว แต่กลับถูกปฏิเสธ ทำให้หนุ่มสาวเหล่านั้น ต้องอดอาหารเพื่อประท้วง ดังนั้น นายพิธา จึงมองว่า การปฏิรูปมาตรา 112 จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อรักษาสมดุลกับสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
พิธีกร ถามความเห็นในการเสียชีวิตของ บุ้ง นายพิธา ตอบว่า เป็นความสูญเสียสุดเศร้าของประเทศไทย ที่เยาวชนได้เรียกร้องหลักนิติธรรม แทยที่การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือการปกครอง ซึ่งการคุมขังก่อนการดำเนินคดีนั้น ยังคงมีอยู่ในประเทศไทย นั่นคืือสิ่งที่เธอได้ลุกขึ้นสู้ รวมไปถึงการต่อสู้ถึงสิทธิประกันตัว และสิทธิของประชาชนที่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์
นี่คือ 3 สิ่งที่เธอต่อสู้ อาจจะใช่ที่ตอนแรกเธอต่อสู้เรื่องมาตรา 112 แต่เพราะว่าเธอถูกปฏิเสธการประกันตัว ดังนั้น พวกเด็กซึ่งถูกคุมขังก่อนดำเนินคดี จึงลุกขึ้นมาด้วยการอดอาหาร ซึ่งบุ้งก็ไม่ใช่คนเดียวที่อดอาหาร ผมรู้สึกเจ็บปวดต่อสิ่งที่ครอบครัวเธอได้รับ ที่สิ่งที่เธอได้รับ ที่น่าจะมีการเจรจากันที่จะไม่ทำให้เกิดการสูญเสียเช่นนี้
พิธีกรถามว่า เธอไม่ควรจะถูกคุมขัง แต่สิ่งที่เธอทำนั้น ก็ทำให้เธอถูกคุมขังไม่ใช่หรือ? นายพิธา ตอบว่า ในประเทศไทยนั้น การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันเป็นสิ่งที่ถูกห้าม แต่บริบทได้เปลี่ยนไปแล้ว เราในฐานะผู้ออกกฎหมายก็ต้องแก้ไขกฎหมายนี้ โดยให้การปกป้องพระประมุข ควบคู่ไปกับเสรีภาพของการแสดงออกให้เดินไปด้วยกันได้ ซึ่งต้องทำให้ทั้งสองอย่าง มีสัดส่วนที่ถูกต้องเมื่อพิจารณาถึงคำว่าเสรีภาพ และแม้ว่าบุ้งจะทำผิดจริง เธอก็ควรมีสิทธิได้รับการประกันตัว และต้องสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อน และเธอต้องเข้ารับกระบวนการพิจารณาก่อนว่าถูกหรือผิด แต่เธอก็ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว เธอจึงเลือกอดอาหารประท้วง
เมื่อพิธีกรถามว่า นายพิธาเคยหาเสียงในการเลือกตั้งว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ตอนนี้ยังมีจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 อยู่หรือไม่ นายพิธา ตอบว่า เราทำทุกอย่างเพื่อรักษาประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขโดยผ่านรัฐสภา
เมื่อพิธีกรถามย้ำอีกครั้งว่า นายพิธายังมีจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขมาตรา112 หรือไม่ นายพิธาจึงตอบว่า “ใช่ครับ ภายในกรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ”
เมื่อพิธีกรถามว่า ในเมื่อนายพิธาชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ยังแก้ไขกฎหมายตามสัญญาไม่ได้ แล้วใครจะแก้ได้ นายพิธาตอบว่า “ต้องมีการอธิบายเพื่อลดแรงต้าน ต้องใช้เวลา”
พิธีกรยังถามว่า ระบบศาลไทยเป็นอิสระ น่าเชื่อถือหรือไม่ นายพิธาตอบว่า ยังคงยังคงมีการคุกคามด้วยกระบวนการยุติธรรม หรือ judicial harassment พร้อมยกตัวอย่างว่า ตนเองก็ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 6 เดือน ระหว่างเลือกนายกฯ อย่างไม่เป็นธรรม ศาลไทยได้คะแนน 4.9/10 อยู่ในอันดับที่ 82/140 ของโลก คดีที่อ่อนไหวไม่สามารถตัดสินได้อย่างเป็นธรรม
พิธีกรถามว่า พรรคก้าวไกลจะถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า ถ้าดูประวัติศาสตร์ ก็เป็นไปได้ เป็นวงจรอุบาทก์รอบที่ 5 แต่พรรคก้าวไกลจะสู้คดีเต็มที่ ซึ่งคงเทียบกันระหว่างศาลรัฐธรรมนูญในเยอรมนีกับไทยไม่ได้
พิธีกรถามว่า พรรคก้าวไกลหาเสียงด้วยการเสนอจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใหญ่ ๆ รวมทั้งปฏิรูปกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ เป็นคำสัญญาที่เกินจริงไปหรือไม่ (overpromise) นายพิธา ตอบคำถามนี้ว่า “เราเสนอว่าจะ Demilitarize, Demonopolize, Decentralize เชื่อว่าไม่ได้ overpromise แต่ถูกขัดขวางด้วย สว.”
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : ch3plus.com/news/political/mo...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 17 พฤษภาคม 2567
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
KZbin : cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3 #สรุยทธ #ไบรท์