Рет қаралды 111,929
พระมเหศวร เป็นพระสร้างในยุคอู่ทอง เป็นพระกรุเดียวกับพระผงสุพรรณ คือกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี สร้างในช่วงปี พ.ศ.๑๙๖๗-๑๙๙๑ อายุประมาณ ๖๐๐ ปี มีหลายขนาด ส่วนพิมพ์ที่พบ จะมีอีก ๒ พิมพ์ คือ ด้านหน้าและหลังจะหันไปทางเดียวกัน จะเรียกกันว่า พระสวนตรง และพิมพ์หน้าเดียวเรียกว่าพิมพ์สวนเดี่ยว ๒ พิมพ์หลัง มักจะไม่มีขอบ ส่วนพระพุทธศิลป์ขององค์พระจะเหมือนกัน
พระมเหศวรถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสุดยอดพระเนื้อชิน เนื่องจากมีประสบการณ์จากผู้ใช้มากมาก และตำนานความเหนียวที่โด่งดังจากเสือมเหศวร น่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ คนยุคนั้น จึงเรียกพระสวนว่า พระมเหศวร
พระมเหศวรเป็นเนื้อชินเงิน ชินเงินคือพระที่มีส่วนผสมโลหะของตะกั่วและสังกะสี รวมกันประมาณ ๘ ใน ๑๐ ส่วน ที่เหลือจะเป็นแร่อื่นๆ เช่น เงิน ดีบุก สังกะสี ปรอท หรือโลหะสังฆวานร ในสัดส่วนที่ไม่เท่ากันในแต่ละองค์ ทำให้พระแต่ละองค์จะแตกต่างกันไปตามสัดส่วนของโลหะที่แตกต่างกันและสภาพพระตอนที่อยู่ในกรุและการเก็บนอกกรุ
ที่นิยมเรียกว่าชินเงิน เพราะว่า เนื้อพระมีความดำเงาเหมือนโลหะเงินที่ขึ้นสนิมสีดำ และมีคราบปรอทที่ทำให้เกิดความเงาเหมือนเงิน ต้องเข้าใจว่าพระเนื้อชินเงิน ไม่ใช่พระเนื้อเงินนะครับ
พระเนื้อชินเป็นพระที่มีความน่าสนใจ เพราะการผสมแร่ต่างๆ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามอายุที่ต่างกันออกไป น่าสนใจนะครับ ไว้มีโอกาสจะมาเล่าให้ฟัง
การผสมแร่โลหะสมัยก่อน เป็นการใช้แร่จากธรรมชาติผสมรวมกัน จึงทำให้พระแต่ละองค์มีธรรมชาติที่ต่างกันออกไป
ถ้าแก่ตะกั่วหรือเงิน เนื้อพระจะออกสีเทา ดำมีไขตะกั่ว หรือสนิมแดง ยิ่งถ้ามีเหล็กเป็นส่วนประกอบมาก สีสนิมจะยิ่งแดงได้
ถ้าแก่สังกะสี เนื้อจะออกเป็นสีเงิน สนิมแดง
ถ้าแก่ดีบุก สีจะออกเป็นสีเทา เงาและสว่าง
ยังไม่รวมถึงโลหะอื่นๆ อีกมากมายเช่นแร่พลวง เหล็ก แร่บางไผ่
พุทธศิลป์พระสวน หรือพระมเหศวรเป็นพระพุทธรูป ศิลปะยุคอู่ทอง ประทับนั่ง มือขวาประทับที่หัวเข่า มีขีดด้านข้างพระเศียร เหมือนเป็นเส้นรัศมี ๓ ขีด และ ๒ ขีด ด้านล่างองค์พระมักเห็นรอยคีบออกจากพิมพ์ จุดนี้เป็นพุทธศิลป์และศิลปะการสร้างนะครับ ไม่ใช่จุดฟันธงความเก่า แล้วพระมเหศวรก็เป็นพระหล่อ ไม่ใช่เป็นพระปั๊ม จึงใช้ตำหนิเป็นจุดฟันธงไม่ได้
หัวใจของการดูพระมเหศวร มี ๔ เรื่องหลักๆ คือ
๑ พุทธศิลป์ มี ๓ พิมพ์หลัก พิมพ์สวน พิมพ์สวนตรง พิมพ์สวนเดียว ส่วนขนาดจะมีเล็ก กลาง ใหญ่ และพิมพ์พิเศษ อย่างแรกต้องดูให้เป็นพระมเหศวรก่อนนะครับ
๒ เนื้อพระและความเก่า พระมเหศวรเป็นพระหล่อ ดังนั้นธรรมชาติเนื้อพระจะไม่เรียบตึง ไม่คม โดยเฉพาะพระองค์ที่เนื้อแก่ตะกั่ว ตะกั่วเป็นโลหะเนื้ออ่อน เนื้อพระจะดูฟู ไม่แน่น เนื้อโลหะต้องเหี่ยวเป็นลอน มีความฉ่ำเมื่อส่องใกล้ๆ นะครับ
สีทั่วองค์พระจะมีความเข้มอ่อน ไม่เท่ากันทั่วทั้งองค์
เนื้อพระในส่วนที่ไม่มีไขคลุม จะมองเห็นความกร่อน มีสนิมหลากสีระยิบระยับ และร่องสนิมสีดำเป็นรอยยับๆ หรือที่เรียกว่าสนิมตีนกา
ความหนาบนผิวพระจะมีการไล่ระดับสูงต่ำ ทั้งในส่วนสูงและในร่อง ถ้ามองแนวระนามแล้ว จะเห็นความสูงต่ำต่างกันออกไป
รอยปริแยกถ้ามี ต้องไม่เป็นรอยคมๆ
ส่วนแร่ประกอบหรือแร่แฝง ถ้าไขตะกั่วหนา อาจทำให้ดูยาก
๓ ไข สำหรับไขและสนิมคือหัวใจพื้นฐานของการดูพระเนื้อชินเก่านะครับ
เมื่อเราดูพุทธศิลป์ได้ถูกต้อง เนื้อพระเก่าตามธรรมชาติ ได้อายุ ๖๐๐ ปี การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของไขและสนิม ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะต้องมี
การพิจารณาความเก่าและธรรมชาติของไข เบื้องต้นต้องมี ๓ ข้อนี้นะครับ
๑ สีไขต้องนวล มีสีเข้มและอ่อน ไล่ระดับต่อเนื่องกันไป มีทั้งคราบ เป็นเม็ด เป็นเกล็ด หรือเป็นเม็ดตุ่ม เหมือนเม็ดไข่ปลา บนเนื้อและทับบนคราบไขอีกที
๒ ไขจะมีความหนาบางไม่เท่ากัน ดูฟูๆ และเป็นขุยๆ และต้องเป็นลักษณะการไล่ระดับสูงต่ำเป็นชั้นๆ ทับซ้อนกันไปมา
๓ ไม่มีขอบของไข คือต้องเป็นการไล่ระดับเท่านั้น ไม่มีจุดเริ่มต้นหรือสิ้นสุด เพราะว่าไขเกิดจากในเนื้อ และขึ้นทีละจุด ต่อเนื่องและตลอดเวลา ยิ่งถ้าถูกความชื้นหรือเหงื่อมาก จะยิ่งมีไขมาก
๔ สนิม
การเกิดสนิมตามธรรมชาติ จะมีเกิดในลักษณะเป็นเม็ดๆ เมื่อผ่านเวลามานาน เราจึงเห็นเป็นเหมือนคราบ สนิมจะขึ้นจากเนื้อโลหะ ทั้งอยู่ใต้คราบไข หรือปูดขึ้นทะลุคราบมาอยู่ด้านบน มีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน เรียงกันแบบเป็นธรรมชาติแบบประปราย ต้องไม่มีขอบสนิมนะครับ เหมือนดูไข
สำหรับสนิมที่เป็นหลุม หรือสนิมขุม คือในบางจุดที่เนื้อพระเป็นหลุมและไขยังไม่คลุมทั้งหมด เราต้องเห็นความเหี่ยว กร่อน ๆ ของไขและสนิมดำขึ้นปะปนกัน และต้องไม่มีขอบคมๆ เหมือนเป็นการกดหลุมใหม่
จุดสำคัญคือ เม็ดสนิมต้องมีหลากสี หลายขนาดปนกัน ไม่มีขอบผิวสนิมบนเนื้อเด็ดขาด
สรุปหลักการดูพระมเหศวร
๑ ดูพุทธศิลป์ให้ถูกต้อง
๒ เนื้อเก่า กร่อน เหี่ยว ฟูเหมือนมีคราบคลุมผิว ผิวไม่เรียบตึง มีสีเข้ม อ่อนไล่ระดับกัน ไม่เป็นสีเดียว
๓ ไข มีสีขาวนวล มีเม็ดและคราบ มีการไล่สีอ่อนเข้ม ไล่ระดับสูงต่ำ ไม่มีขอบของไข
๔ สนิม มีเม็ดสนิมหลากสี ใหญ่เล็กปูดขึ้น ทั้งบนไข ใต้ไข มีสนิมตีนกา ดูเหี่ยว มีสนิมขุมหรือร่องสนิม เหี่ยวๆ ขอบร่องไม่คม และเกิดในเนื้อ ไม่มีขอบของคราบ
พระกรุเนื้อชิน เนื้อ ไข และสนิม จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อผ่านเวลา สภาพจะไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอนครับ ถึงพระเนื้อชิน จะมีความยากในการดูไขและสนิมของโลหะแต่ละประเภท แต่ถ้าเข้าใจก็จะเป็นพระที่ดูง่ายและสนุกที่สุดนะครับ
พระเนื้อชิน ยังมีอีกหลายเนื้อหลายวรรณะ ไว้จะนำมาแบ่งปันความรู้กันในคลิปต่อๆ ไปนะครับ
สำหรับคนที่อยากหาพระเก่า แท้ วางความเชื่อ มาหาความรู้กันนะครับ
พระแท้อาจจะหาง่ายกว่าพระแพง ขอให้พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน สนุก มีความสุขในการสะสมวัตถุมงคล และมีพระดีๆ ไว้ติดตัว ใครที่ยังไม่ได้กดติดตาม ฝากกดติดตามเพื่อจะได้ไม่พลากคลิปจาก ๔ มีนา และช่วยกดไลค์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ แล้วไว้พบกันใหม่ สวัสดีครับ