Рет қаралды 78,656
พระราชประวัติ พระเจ้าอโศกุมหาราชกับจุดเปลี่ยนที่พระองค์มานับถือศาสนาพุทธ
พระเจ้าอโศกมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งชมพูทวีป
พระอโศกมหาราช ทรงมีเชื้อสายสืบต่อมาจากศากยวงศ์ คือ วงศ์ของพระพุทธเจ้าที่ถูกทําลายด้วยความแค้นของพระราชาวิฑูฑะภะแห่งแคว้นโกศล ทําให้พระญาติที่หลุดรอดจากการทําลายแตกหนีไปจํานวนมากนั้น มีชายหนุ่มผู้หนึ่งที่เฉลียวฉลาดนามว่าจันทรคุปต์ ได้รวบรวมผู้คนเข้าด้วยกับกองทัพอเล็กซานเดอร์มหาราช แต่ต่อมาเกิดผิดใจกันและจันทรคุปต์ถูกจับ แต่ก็หนีมาตั้งกองทัพใหม่เป็นอิสระได้ ให้พอดีอเล็กซานเดอร์มหาราชยกทัพกลับกรีก แต่ไม่ถึงกรีกด้วยสวรรคตเสียก่อนที่เมืองบาบิโลน จึงเป็นโอกาสดีของจันทรคุปต์ ได้รวบรวมผู้คนมากพอและสถาปนาราชวงศ์โมริยะขึ้น และจัดทัพเข้ายึดนครราชคฤห์แห่งแคว้นมคธได้ แต่ได้ย้ายราชธานีใหม่ไปอยู่ #เมืองปาฏลีบุตร
กว่าจะยึดราชคฤห์ได้และสถาปนาปาฏลีบุตรเป็นราชธานีนั้น มีเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ เชิงยุทธศาสตร์ที่แยบยลอย่างหนึ่งในการขยายอาณาจักรของราชวงศ์โมริยะให้กว้างขวางขึ้นอย่างชาญฉลาด เรื่องมีอยู่ว่าขณะที่พระราชาจันทรคุปต์ยังมีกองทัพไม่เข้มแข็งมากนัก และซ่องสุมผู้คนหลบซ่อนกองทัพใหญ่ของข้าศึกที่แข็งแรงกว่านั้น วันหนึ่งทรงได้ยินแม่ผู้หนึ่งสอนลูกกินขนมเบื้องว่าให้กัดกินจากริมไปทีละเล็กละน้อยก่อนจะเข้าไปกินตรงกลาง เพราะถ้ากัดตรงกลางทันทีก็ย่อมจะร้อนต้องคายทิ้ง
“มึงมันลูกโจร จันทรคุปต์ ยังมีกองกําลังไม่แก่กล้าก็โหมเข้าตีเมืองใหญ่ ย่อมต้องพ่ายแพ้แน่นอน ก็เหมือนถึงโลกกล้ากัดขนมเบื้องตรงกลางที่กําลังร้อน แทนที่จะค่อยๆ เต็มตีเมืองเล็กไปก่อน”
จันทรคุปต์ได้ยินแม่ผู้นั้นด่าลูกและพาดพิงถึงตนก็ได้คิด แต่ไม่ได้โกรธเคืองอะไร โดยปรับปรุงการรบเสียใหม่ จนชนะคู่ต่อสู้และยึดราชคฤห์ได้ และคู่ศึกต่อมาก็คือพระราชาเซลอยโกส ขุนพลดั้งเดิมของอเล็กซานเดอร์มหาราช เชื้อสายกรีกผู้ครองแคว้นคันธารราฐ ที่ยอมหย่าทัพและยอมยกราชธิดาให้พระราชาจันทรคุปต์ด้วย
พระราชาจันทรคุปต์องค์นี้ คือต้นราชวงศ์โมริยะ และเป็นสมเด็จปู่ของอโศกมหาราช เมื่อพระราชาจันทรคุปต์สวรรคต พระราชาพินทุสาร พระโอรสได้ครองราชย์ต่อมา ทรงขยายราชอาณาจักรกว้างขวางมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าพินทุสาร
กับพระนางธรรมา แห่งราชวงศ์โมริยะ
ประสูติใน พ.ศ. 184 ณ เมืองปาฏลิบุตร
พระเจ้าอโศกมหาราชมีพี่น้องร่วมพระมารดา 1 พระองค์
และพี่น้องร่วมพระบิดาอีก 2 พระองค์ ดังนี้
• สุสิมะ เป็นพระราชอนุชาร่วมพระมารดาของพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นผู้นำฝ่ายกบฏต่อพระเจ้าอโศกมหาราชในสงครามกลิงคะ แต่ได้พ่ายแพ้และถูกประหารชีวิต
• ติสสะ เป็นพระราชอนุชาร่วมพระมารดาของพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นพระราชาแห่งแคว้นมคธในช่วงที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงครองราชย์
• วิฑูฑภะ เป็นพระราชอนุชาร่วมพระบิดาของพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นพระราชาแห่งแคว้นอัคนีในช่วงที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงครองราชย์
นอกจากนี้ พระเจ้าอโศกมหาราชยังมีพี่น้องร่วมพระบิดาอีกหลายคน แต่ไม่มีหลักฐานกล่าวถึงชื่อและประวัติมากนัก
#พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมกัน 9 พระองค์ โดยพระราชโอรส 2 พระองค์ และพระราชธิดา 1 พระองค์ สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
เจ้าชายมัมมิตาทรงเป็นพระราชโอรสคนโตของพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็นรัชทายาทของพระเจ้าอโศกมหาราช แต่สิ้นพระชนม์ก่อนพระเจ้าอโศกมหาราชจะสวรรคต
เจ้าชายกุณาละทรงเป็นพระราชโอรสอีกพระองค์ของพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเจ้า #อโศกมหาราช ช
พระเจ้าสัมปราติทรงเป็นพระราชนัดดาของพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงขึ้นครองราชย์ต่อจากเจ้าชายกุณาละ
พระนางสังฆมิตตาทรงเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเป็นภิกษุณีในพระพุทธศาสนา และเป็นผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังลังกา
ศึกแย่งชิงราชบัลลังก์
•• เหตุการณ์หลังจากที่พระองค์ทำศึกยึดราชบัลลังก์นี้ ในคัมภีร์พุทธศาสนา ได้กล่าวถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนของพระองค์ต่างๆ นานา เช่น ทรงฆ่าพี่น้องต่างพระมารดา 99 องค์ เหลือเพียงเจ้าชายติสสะเท่านั้น จนมีผู้ตั้งพระนามให้พระองค์ว่า “จัณฑาโศก” (พระเจ้าอโศกผู้โหดเหี้ยม Ashoka the Fierce) บางคัมภีร์กล่าวว่าพระนามนี้ตั้งหลังจากทำ สงคราม #กาลิงคะ
• ศิลาจาลึก หลักที่ 13 ได้จารึกถึงความในใจของพระเจ้าอโศกมหาราชที่รู้สึกโศกเศร้าเสียใจต่อศึกสงครามกาลิงคะ
• ทรงมีความสำนึกสลดพระทัย และที่ทรงเห็นว่าที่ทรงกระทำนั้น เป็นกรรมอันร้ายแรง และที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้น คือ พราหมณ์ ผู้คน ทั้งหลาย ต้องได้รับบาดเจ็บ ถูกฆ่าตาย หรือไม่ก็ต้องพลัดพรากจากบุคคลซึ่งอันเป็นที่รัก ทรงสร้างความพังพินาศอันร้ายแรงและสร้างกรรมหนัก
• เมื่อสิ้นสุด #สงครามกาลิงคะ ทำให้เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของพระเจ้าอโศกมหาราชจากนักรบที่โหดเหี้ยมไปสู่นักธรรมที่ยิ่งใหญ่ ผลกระทบโดยตรงและในทันทีของสงครามกาลิงคะคือการเปลี่ยนแปลงของพระเจ้าอโศกมหาราชสู่พระ #พุทธศาสนา
สงครามกับแคว้นกาลิงคะ เป็นมหาสงครามครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ประชาชนกว่า 150,000 คนถูกจับเป็นเชลยและถูกนำไปยังเมืองปาฏลีบุตร มีผู้เสียชีวิต จากการสู้รบร่วม 100,000 คน และมีอีกที่ล้มหายตายจาก จากภาวะสงคราม อีกหลายเท่าตัว
• ปัจจุบันคือ แคว้นโอริสสา และได้ขุดพบพุทธศาสนสถาน ชื่อว่า รัตนคีรี อุทัยคีรี และลลิตาคีรี ซึ่งศาสนสถานแห่งนี้ไม่ได้สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แต่สร้างในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10-16 ตามความเชื่อทางพุทธศาสนามหายาน
เข้าสู่ร่มเงาพุทธศาสนา
• ข้อมูลในคัมภีร์หลายๆ เล่ม กล่าวถึงการเข้าสู่ร่มเงาพุทธศาสนาของพระเจ้าอโศกต่างๆ กันไป แม้แต่นักประวัติศาสตร์เอง ก็ให้ความเห็นที่แตกต่างกัน พระเจ้าอโศกไม่เคยระบุโดยตรงถึงวิธีการหรือสาเหตุที่พระองค์
เรื่องเล่าจากบันทึก เล่าเรื่องต่างๆที่มีสาระและน่าสนใจ ประวัติศาสตร์ ประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ รวมถึงธรรมะคำสอนต่างๆ