ที่ประกาศอิสรภาพของมนุษย์ - ป อ ปยุตฺโต (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์)

Рет қаралды 7,450

ป อ ปยุตฺโต (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์)

Күн бұрын

Пікірлер: 12

@famobile889 6 ай бұрын

ยินดีตามมีตามได้ในสิ่งที่ไม่สำคัญ คือสันโดษ.

@SupSara-j9d 8 ай бұрын

กราบนมัสการพระคุณท่านค่ะ ทุกครั้งที่ฟังธรรมจากท่านจะได้ความกระจ่างในหลักธรรมะและเข้าถึงคำสอนทึ่ถูกต้องทางพุทธศาสนาทุกครั้งไป ท่านบรรยายได้ละเอียดลึกซึ้ง หมดความสงสัยในสิ่งที่คนปฏิบัติกันผิดๆในสังคม ขอน้อมรับคำสอนท่านมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันค่ะ

@Photo11170 10 ай бұрын

น้อมนมัสการสรณะอันเป็นที่พึ่ง แสงเทียนดำรงตนโดยธรรม(ปฏิบัติ) สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

@phinitlaohasongkram8045 10 ай бұрын

กราบนมัสการพระอาจารย์ครับชอบคำสอนของท่านมากครับ

@sarojnkoedsompong2073 10 ай бұрын

สาธุ

@กิตติศักดิ์-ษ2ข 10 ай бұрын

ศาธุ

@สุริยันจันทโชติ 10 ай бұрын

"ครับ ท่านพระอาจารย์..... เป็นมงคลแก่หูครับ".

@พุฒฬสตระกูลทอง 10 ай бұрын

ผมเข้าใจแบบนี้ครับ พระอาจารย์ ฌานเป็นสิ่งอันพระพุทธเจ้าสรรเสริญให้มี ให้เป็น ให้ศึกษาให้มากในทุกพระสูตร เป็นสิ่งจำเป็นในระดับต้น ๆ เพราะถ้าไม่มีฌานในระดับที่ 1ขึ้นไป(อุปจารสมาธิ) วิปัสสนาก็เกิดขึ้นไม่ได้ ผมยังไม่เห็นสำนักไหนในประเทศไทยเลยที่สอนวิปัสสนา ผมเห็นแต่ฝึก สมถะล้วน ๆ(แล้วก็เป็นสมถะแบบผิด ๆ ด้วย) แล้วบอกเป็นวิปัสสนา จนคนสับสนกันไปหมด ต่างกันในยุค 60-70 ปีที่แล้ว เขาได้วิชชา วิมุติ ซึ่งเกิดจากวิปัสสนาณาญได้เท่านั้น เดี๋ยวนี้มีใครได้บ้าง พระสงฆ์ในยุคนั้นลำดับปีลงไปเข้าฝึกกันแต่วิปัสสนาเป็นหลัก เพราะสมาธิตั้งมั่นกันได้แล้วทุกคน แต่บอกว่าเข้าฝึกแต่สมถะ เอากันเข้าไป ... ทั้งวิปัสสนา ทั้งสมาธิมันแยกออกจากกันไม่ได้ครับ แต่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ว่าเป็น 2 อย่างเพื่อแยกแยะให้เข้าใจในธัมมะของพระองค์ เช่นเดียวกับการแยกแยะอารมณ์ในองค์ฌานออกมา เป็น 1-4 หรือ1-5 ซึ่งของเดิมที่มีมาก่อนสืบมาถึงพระพุทธองค์ เขาเรียก เป็นขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ เวลาเข้าถึงไม่สามารถจะใช้ขันธ์เข้าไปจับได้ชัดเจน เพียงพอแก่การศึกษาเรียนรู้ให้มี ให้เป็น พระองค์จึงทรงพระกรุณาแยกเยะเป็นบัญญัติไว้ให้ง่ายต่อการเข้าใจ เพื่อการฝึกฝนกัน ฯ

@พุฒฬสตระกูลทอง 10 ай бұрын

วิสุทธิมรรค พระอาจารย์ผู้แต่ง เอาหลักของพระพุทธศาตร์ มารวมกับคำภีร์โบราณที่ได้มาจากพราหมณ์ ไม่ได้แต่งขึ้นเองทั้งหมด เพราะมันง่ายในยุคนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงใช้วิธีนี้ แต่ไม่ได้ลอกพราหมณ์มา เช่นคำว่า วิญญาณ มีมาก่อนพระพุทธองค์นานแล้ว ปัจจุบันคนทั่วโลกก็ยังเข้าใจเป็นแบบนั้น แต่พระองค์ยืมคำมาใช้ แล้วให้ความหมายใหม่ ประกอบเข้ากับอีก 4 ขันธ์ ซึ่งนอกจากจะไม่เสียความหมายดั่งเดิมไป ยังสามารถนำมาใช้ทำความเข้าใจได้เป็นอย่างดี อันนี้เป็นทั้งเมตตา และกรุณา ไม่ทำให้เกิดการแตกแยกเพราะความเป็นสัพพัญญูของพระองค์ ครับ

@ภาณุวัตร์รัศมีโชติ-อ7ฎ 10 ай бұрын

ผมชอบคนแบบคุณครับ ยิ่งแสดงความเห็นยิ่งดูโง่ดี ดูแล้วสลดใจกับความฟุ้งซ่านในธรรมของคุณดีครับ ทำให้นึกถึงตัวเองตอนบ้าอ่านหนังสือธรรมะใหม่ๆ ยังไงก็ขอขอบคุณอีกครั้งครับ 😂😊

@MusicLover-qd2zg 5 ай бұрын

@@ภาณุวัตร์รัศมีโชติ-อ7ฎ😅😂😊