รู้จัก YOLO แนวคิดที่ทำให้คน “กล้าลาออก”

รู้จัก YOLO แนวคิดที่ทำให้คน “กล้าลาออก” | Mission To The Moon EP.1973

Рет қаралды 133,625

Күн бұрын

Пікірлер

@CoachBestTH Жыл бұрын

ผมเป็นคนหนึ่งที่มีความคิด YOLO มาตั้งแต่เด็กๆ เรียนจบมา ทำงานอะไร ถ้าไม่มีความสุข ผมลาออกทันที ไม่แคร์สื่อใดๆ ถึงแม้ว่าบางทีจะทำให้เราไม่มีเงินใช้ แต่แลกกับศักดิ์ศรีความเป็นคนของผมแล้ว มันคุ้มมาก เพราะผมเห็นบางคนยอมทำงานถวายชีวิต ทำงานเกินหน้าที่ ทำงานเกินเวลา ทำงานอย่างกับทาส ผมเห็นแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนกับการทำนาบนหลังคนขององค์กรบริษัทต่างๆที่ไม่เคยเห็นค่าใคร บริษัทเหล่านี้มักจะทำให้พนักงานต้อง Overwork ในขณะที่องค์กรเหล่านี้ Underpay พนักงาน มันไม่แฟร์กับคุณค่าชีวิตคุณค่าเวลาของเราเลย #missiontothemoon

@BxcqVkF-lZk 10 ай бұрын

ไช่เรยครับ👏👏

@freegame7520 Жыл бұрын

การลาออก มันก็แค่แพ้ในมุมมองคนอื่น แต่มันคือการชนะใจตัวเองเช่นเดียวกัน เพราะ มันไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถการันตีได้ว่า สิ่งที่คนนั้นคิด หรือเราคิด ว่ามันถูกหรือผิด

@tnkentp4720 Жыл бұрын

อายุ 36 ตัดสินใจลาออกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ออกมาตามความฝันของตนเอง (Data scientist) ช่วงแรกๆมืดมากๆ ไปรู้จะเริ่มยังไง จบก็ไม่ตรงสาย มีแต่ใจรัก แล้วก็ความหลงไหลในอาชีพ ใช้เวลาซื้อคอสเรียน ร่วมกับรับงานฟรีแลนซ์ไปเรื่อยๆ ปัจจุบันได้งานในฝันและงานประจำที่อื่นอีก 2-3 ที่ ทำให้รู้ว่าชีวิตเราออกแบบเองได้ เราเพียงแต่ว่าเราจะเอาตัวเองเข้าไปอยุ่จุดนั้นได้ยังไง ปัจจุบันทำเงินให้ตัวเองได้มากกว่าที่ทำงานเดิม 3 เท่า

@nani1680cyhp 9 ай бұрын

สุดยอดครับ

@doubleskchannel 4 ай бұрын

@@tnkentp4720 แนะนำคอร์สเรียนกับการหางานฟรีแลนซ์ได้ไหมคะสนใจทำด้านนี้เหมือนกันขอบคุณมากเลยนะคะ🙏🥰

@TananyaB Жыл бұрын

ยึดแนวคิด YOLO มาตลอดตั้งเเต่เริ่มทำงาน แค่รู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องทนกับอะไรที่ในท้ายที่สุดมันจะทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราไม่มีคุณค่า การตัดสินใจลาออกไม่ใช่เรื่องเเย่เสมอไป ถ้ามันจะทำให้เรากลับมารู้สึกดีกับตัวเองอีกครั้ง ใครจะคิดยังไง มองเรายังไง ไม่ต้องสนใจ เราไม่ต้องเลือกสิ่งที่คนอื่นคิดว่าดีที่สุด เพราะนั่นมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ที่ดีที่สุดสำหรับเรา เราจะคิดอะไร เราจะทำอะไรเรารู้ตัวเองดีที่สุด เพราะเราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอ #missiontothemoon 🌕

@ijalone1160 Жыл бұрын

😢

@StateSpace289 Жыл бұрын

👍🏽

@mrpongsajatavasit Жыл бұрын

🙏

@203pattanachod5 Жыл бұрын

ศักยภาพและภาระหน้าที่มีผลอย่างมากครับ ถ้าความสามารถถึงไม่ภาระทับหลังก็ไปได้เรื่อยๆที่ใจอยากไปอยากทำ

@ThanakritChobtam Жыл бұрын

ตรงกับผมเลย ตอนนี้ลาออกจากงานประจำมาทำงานพาทาม เพราะสบายใจกว่า ไม่เจอสังคมทำงานtoxic ถึงจะได้เงินน้อยหน่อย แต่ได้มีเวลาทำตามความฝัน มีเวลาใช้ชีวิตมากขึ้น

@nani1680cyhp 9 ай бұрын

ขอให้มีความสุขนะครับ ระวังเรื่องการเงินด้วยนะครับ

@puifai087 Жыл бұрын

พึ่งเคยได้ยินหลักการนี้ค่ะ แต่ส่วนตัวอยากจะบอกกับทุกคนที่อยากลาออกว่า ลาออก แ-่งเลย แล้วคุณจะได้รู้ว่าทางที่เราอยากจะเดินนักหนามันเป็นยังไง เพราะนี่ก็เคยอยู่ใน safe zone ทำงานบริษัทที่มั่นคง แล้วลองลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว พอเราได้ออกมาจากจุดนั้น เราเห็นได้ชัดเลยว่าแต่ละจุดยืนมีทั้งข้อดี ข้อเสีย แต่ก็ได้คำตอบกับตัวเองว่าถึงย้อนเวลากลับได้ ยังจะลาออกอีกไหม คำตอบก็คือยังไงก็จะลาออก มันไม่ได้ดีอย่างที่คิดทุกอย่าง แต่มันให้บทเรียนที่ดีมากๆกับชีวิตบทหนึ่งเลยค่ะ ใครอยากลาออก ลองถามตัวเองดูว่า ในอีก 3 เดือน 1 ปี 3 ปี เราจะยังอยากออกอยู่ไหม ถ้าคำตอบคือใช่ ก็ลาออก แ-่งเลยค่าาาา ไปลุยเส้นทางใหม่กัน ไม่ต้องคาดหวังว่ามันจะดี แค่เราได้ลองเดิน ก็เพียงพอแล้ว เป็นกำลังใจคนเก่งทุกคนค่ะ #missiontothemoon

@MEMORIESDREAMFUN Жыл бұрын

อยากลาออกทุกวันช่วงนี้

@TheLilPrincessTutu Жыл бұрын

เราแบบอยากลาออกมาก แต่อดทนทำงานมา 4 ปี มาฟางเส้นท้ายตอนเข้าปีที่ 5 ตัดสินใจลาออกปุบปับไม่มีงานรองรับ คือเสียเวลามากเลยทำอยู่ตั้ง 4-5 ปี เสียดายเวลาสุดๆ 😥

@thanetchaidarun5529 Жыл бұрын

นั่งฟังวน2-3รอบเลยตกผลึกครับ ผมทำงานบริษัทใหญ่บริษัทหนึ่งในกรุงเทพ มีความรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในจุดที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีประโยชน์หรือคุณค่านี้คือลาออกเลยครับ ผมเลือกทำงานราชการที่เงินเดือนน้อยลงกว่าเดิมจริง แต่มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลาและเป้าหมายงานสูงครับ และมีเวลาได้ทำงานอดิเรกที่ชอบเป็นรายได้เสริมที่มีความสุขมากกว่าครับ#MissionToTheMoon

@minipoppusguitar3024 Жыл бұрын

ตรงมากค่ะ หนูทำงานล่ามมา3ปี เปลี่ยนมา 3 ที่เเล้ว จนล่าสุดตัดสินใจออกมาทำฟรีเเลนซ์ เพราะรู้สึกว่าอยากให้ชีวิตมีความท้าทายมากขึ้น อยากลองหลายๆเเบบ ไม่อยากอยู่ในกรอบมากเกินไป เอาจริงตั้งเเต่ทำล่ามก็เป็นสัญญาจ้าง ไม่ได้รู้สึกว่ามั่นคงตั้งเเต่เเรกเเล้วอ่ะค่ะ สวัสดิการก็ไม่ได้เหมือนพนงประจำ เเต่อาจมีความต่อเนื่องกว่าฟรีเเลนซ์เเละฟรีเเลนซ์ต้องพยายามมากกว่าเเค่นั้น เเล้วก็หนูเห็นด้วยกับ yolo มากค่ะ เพราะเป็นล่ามมันมีบางที่รับจำกัดอายุเลยรู้สึกว่าถ้าเราอยู่ที่ใดที่นึงนานๆก็จะเกิดค่าเสียโอกาสในการเรียนรุ้ด้านอื่นๆ (เเต่อันนี้เเล้วเเต่มุมมองเเละความชื่นชอบของเเต่ละคน) หนุอยู่เจนYคาบเกี่ยวเจนZ ไม่ได้โฟกัสว่าการเปลี่ยนงานบ่อยเเปลว่าไม่อดทน (บางที่ก็ยังเป็น) ยุคใหม่มันอิสระมากขึ้น ถ้ายังไม่เจอที่ๆเข้ากับลักษณะนิสัยกับเราจริงๆ ฟรีเเลนซ์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ 😊

@netakapap Жыл бұрын

ผมเจน x ออกมาเป็นฟรีแลนซ์ได้10กว่าปีแล้ว ถึงวันนี้แนวคิดการ "ใช้ชีวิต" ก็ยังคงอยู่ เราได้เวลาและโอกาสกลับคืนมา โดยแลกกับความมั่นคง ซึ่งความมั่นคงนี่แหละ ที่ขังเราไว้ไม่ให้ค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของเรา แต่ก็นั่นแหละ การจะเป็นอิสระได้เราต้องมั่นใจว่า เราแข็งแกร่งและมีความสามารถเพียงพอ โดยบ่มเพาะจากงานประจำที่เราทำนั่นเองครับ

@kritsadawattanasaovaluk8073 Жыл бұрын

🎉

@fylia Жыл бұрын

เป็นล่ามเจนวาย ที่กำลังลังเลใจอยากออกมาทำฟรีแลนซ์เลยค่ะ แต่ยังไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้จริงๆ มั้ย (บางทียังติดอยู่ในคอมฟอร์ตโซนอยู่มากค่ะ) 🥹

@nisakornnana7322 5 ай бұрын

ชอบเม้นท์นี้ค่ะ😇

@darksouls2791 2 ай бұрын

เลิศๆๆๆๆๆ🎉❤

@bfionaline Жыл бұрын

จริงที่สุด ตัังคำถามทุกวัน บ่นจะลาออกทุกวัน รู้สึกว่าถูกกด ถูกด้อยค่า ไม่ให้เกียรติพนักงาน หยาบคาย เอาเราไปประจาน เสียงดังใส่ โทษแต่เรา ไม่มองดูความผิดของตัวเอง ถูกมองว่างานเราใครก็มาทำแทนได้ เราไม่ได้มีความสำคัญอะไร รู้สึกว่าอยากทำอะไรที่เลี้ยงดูตัวเองได้ ที่ไม่ใช่งานประจำ รู้สึกไม่ได้พัฒนาอะไรเลย มีแต่ถ้อยหลังลงคลอง #Missiontothemoon

@jet_jt Жыл бұрын

ผมเป็นช่วงอายุที่ถูกกล่าวถึง ต้องยอมรับว่าคนในปัจจุบันมองความสุขและความหมายของชีวิตมากขึ้น ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบ gen ก่อนๆที่ทำตามแนวทาง ทำงาน ที่มั่นคง แต่งงานมีลูก แบบเดิมๆ แต่เราให้ความสำคัญกับความสุขมากขึ้นและอยากใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ขอบคุณครับ #missiontothemoon

@sirinunyanacharoen4383 Жыл бұрын

คอนเท้นอัพเดทมากๆเลยค่ะ วันก่อนพึ่งคุยกับคุณพ่อเรื่องนี้ไป คุณพ่อถามว่าทำไมเด็กสมัยนี้เปลี่ยนงานบ่อย หรือว่าไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรเยอะ ซึ่งเป็นตามในวิดิโอเลยค่ะ เราไม่อยากใช้ชีวิตทั้งหมดไปกับการทำงานที่เราไม่มีแพชชันแล้ว จากวิดิโอ เราคิดว่าเทรน YOLO มีมากขึ้นจากปัจจัยปัจจุบัน ที่มีแหล่งให้เรียนรู้เต็มไปหมด คนสามารถเรียนรู้ข้ามสายงานได้ สามารถเลือกอาชีพที่เราอยากจะทำได้มากขึ้น คนเลยกล้าที่จะลาออกแม้ไม่มีงานรองรับมากขึ้นค่ะ #missiontothemoon

@piyapornmaruekhaphan134 Жыл бұрын

ใช่เลยค่ะ พอถึงจุดหนึ่งของชีวิตการทำงานด้วยความสุขและคุณภาพของชีวิต มีความหมายมากกว่าเงินเดือนที่พอสมควร องค์กรที่มีชื่อเสียง#YOLO#MissionToTheMoon

@megamime2010 Жыл бұрын

หลังจากดู Secret life of Walter Mitty ชีวิตไม่เหมือนเดิมอีกเลยค่ะ ❤ รู้สึกโชคดีที่ได้ดูตั้งแต่ตอนมาฉาย พอนานวันเพิ่งรู้ว่านี่เรียกว่า YOLO ชีวิตมีครั้งเดียว อยากทำอะไรทำเถอะ ❤❤😊

@newtydude Жыл бұрын

จริงค่ะ เราดูเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนช่วงม.ต้นจนตอนนี้เราจบมหาลัยแล้วก็ยังเป็นหนังเรื่องโปรดอยู่ เป็นหนังที่เปลี่ยนชีวิต+หล่อหลอมตัวตนเราจนถึงตอนนี้เลย :’))

@charuneevaitayanon5514 Жыл бұрын

ใครๆก็คงอยากทำงานที่ชอบค่ะ แต่คงไม่ทุกคนที่ทำได้เพราะภาระหน้าที่ทางสังคม ครอบครัว ตอนนี้ก็ทำงานที่มีรายได้มากพอเพื่อรอที่จะได้ทำตามแนวคิด YOLO ค่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ #missiontothemoon

@kittycats8096 Жыл бұрын

ตอนตัดสินใจลาออกจากงานแรก ทำงานแล้วรู้สึกว่าเรามาทำอะไรอยู่ตรงนี้ รู้สึกไม่ได้ value อะไรเลย มันทำให้เสียเวลาถ้าอยู่ต่อไป เลยตัดสินใจลาออกดีกว่า อยู่ว่างๆ3เดือนเอาเวลาไปเรียนภาษาเพิ่ม จากนั้นหางานที่เราอยากทำเพื่อให้ได้ทักษะที่เราอยากได้จากงาน ตอนนี้ก็คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกลาออก 😂 YOLO อยากทำอะไรก็ทำ เพราะไม่อยากเสียเวลาค่ะ #missiontothemoon

@Zeveztor Жыл бұрын

ก่อนหน้านี้ตัวเราเองแคร์ทุกคน แคร์องค์กร แต่เราลืมรักตัวเอง พอวันนึงตระหนักได้ว่า เราทำให้ถูกใจใครไม่ได้หรอก เลยลาออกแล้วมาทำธุรกิจของตัวเอง พบว่ามีความสุขมากๆครับ มีอิสระทางความคิด สุขภาพจิตดีขึ้นสุดๆ เปลี่ยนจากเอาใจเพื่อนร่วมงาน กับเจ้านาย toxic มาเอาใจลูกค้าแทน มีความสุขจริงๆครับ #MissionToTheMoon

@Mr.Nutt13 Жыл бұрын

คนเจน y ทำเช่นนั้นได้ เพราะส่วนใหญ่เป็นวัยที่ไม่ได้มีภาระด้านหลัง โดยเฉพาะการผ่อนบ้านที่ต้องตามด้วยสิ่งต่างๆที่ต้องใส่เข้ามาในบ้าน ส่วนมากจึงมีครอบครัวคอยสนับสนุนด้านการเงินเมื่อสะดุด กลับบ้านก็มีข้าวกิน ต่างจากเจน x และวัยก่อนหน้าที่เน้นการสร้างเนื้อสร้างตัวและมีภาระทางบ้านมากมาย การใช้ชีวิตแต่ละวัยจึงแตกต่างกัน การกล้าได้กล้าเสียก็ไม่เท่ากัน ด้วยบริบททางบ้านที่ต่างกันไป ง่ายๆคือถ้าทางบ้านมีกินมีใช้สบายอยู่แล้ว ก็จัดไป

@Cr-rx1ym 10 ай бұрын

แสดงว่าจะทำงานประจำไปจนกว่สจะไม่มีเเรงเเล้วค่อยออกมาทำของตัวเองใช่มั้ยครับ

@Mr.Nutt13 10 ай бұрын

@@Cr-rx1ym ผมคงต้องกลับไปอบรมการใช้ภาษาไทยใหม่ เพราะคนอ่านแล้วไม่เข้าใจ

@miniboxgo Жыл бұрын

จากประสบการณ์ อยากแบ่งปันว่า การจะ YOLO ก็ต้องมีต้นทุนระดับนึงก่อนและไม่มีภาระหนักหนาสาหัส ถึงจะทำได้ดี ซึ่งแต่ละคนไม่เท่ากัน เราออกมาเป็นนายตัวเองกว่าจะปรับตัวได้ก็เป็นปีเลย แต่อย่างน้อยหรืออย่างดีที่สุดคือเราได้เลือกเอง จะไม่เสียใจตอนแก่แน่นอน

@somruthaimapoe7163 Жыл бұрын

คิดอยู่ในหัวทุกวันอีก2เดือนสิ้นปีละ ก็ยังคิดอยู่ค่ะ#Missiontothemoon

@aomnaovarat8390 Жыл бұрын

เพิ่งทราบว่าเรียกว่า YOLO(You Only Live Once) ยอมรับเลยว่าชีวิตปัจจุบัน สนใจความสุขมากกว่าตัวเงิน ถ้าให้เงินเยอะแต่งานแทบไม่ได้นอนเลย ขอเลือกเงินน้อยแล้วได้ใช้ชีวิตมากกว่าค่ะ

@montongza Жыл бұрын

อยากลาออก อยากเปลี่ยนสายงานมากเลยครับ รู้สึกเบื่อมากๆ กับ งานปัจจุบัน แต่ภาระที่มันเยอะเกินไปทำให้ไม่กล้าที่จะขยับเลยครับ เพราะคนข้างหลัง เค้าไม่พร้อมที่จะซัพพอร์ตเราถ้ามันมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา อึดอัดมากๆ ใครเป็นแบบนี้ขอมุมมองการแก้ไขหน่อยครับ

@zexmoe Жыл бұрын

ตอนนี้ก็ลาออกจากบริษัทอีเว้นมาได้3 ปีกว่า มาทำชุดตุ๊กตาขายออนไลน์ กำลังจะไปขายต่างประเทศค่ะ สนุกมีความสุขกว่าทำงานออฟฟิศเยอะเลย ไม่เสียใจที่ลาออก แม้ว่าจะไม่ค่อยมีเงินก็ตาม555 #MTTM #Missiontothemoon

@swimmxxxx Жыл бұрын

เพิ่งลาออกจากงานที่มั่นคง แต่มันไม่เหมาะกับเราเลย ใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้บรรจุ สุดท้ายได้บรรจุแล้ว แต่มันทำให้เราไม่มีความสุขเลย คิดอยู่นานว่าจะเปลี่ยนงานดีมั้ย สุดท้ายตัดสินใจสมัครงานใหม่ ได้งานที่ไม่ได้มั่นคงเหมือนเดิม แต่สบายใจกว่าเดิมเยอะมาก ตอนนั้นก็คิดถึง YOLO เหมือนกันค่ะ ว่าจะทนทุกข์ต่อไปแล้วรอเวลาที่ได้เปลี่ยนแปลง หรือไปใช้ชีวิตให้มีความสุขซะตอนนี้เลย ชีวิตนี้มีชีวิตเดียวค่ะ ขอเลือกสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุขไว้ก่อน ไม่รู้ชีวิตนี้จะอยู่อีกนานแค่ไหน #missiontothemoon

@jackrangsriwong1446 Жыл бұрын

ลาออกแล้วจะเจอชีวิตจริงๆครับผม สนุกครับชีวิต ชอบมากๆครับ ขอบคุณครับ

@pannirun Жыл бұрын

งานประจำ มันไม่ใช่แค่แปด ชั่วโมง ต้อง บวก เวลาตั่งแต่ออกจากบ้านจนกลับบ้าน เท่ากับชีวิตตอนกลางวันมันหายไป จะได้ทำอะไรตามใจ แค่เวลาก่อนนอน

@The-ho-Story Ай бұрын

@@pannirun ถูกต้องเลยครับ เวลาหายไปเยอะมาก

@hallahallahannah Жыл бұрын

เป็นไปได้ไหมที่พอทำงานไปถึงจุดหนึ่งแล้วเราเริ่มคิดว่า เราทำไปเพื่อใคร เพื่อตัวเองจริง ๆ หรือแค่เป็นฟันเฟืองสร้างผลประโยชน์ให้คนแค่บางกลุ่ม แล้วคนกลุ่มเล็ก ๆ พวกนี้ก็มีส่วนกำหนดชีวิต กำหนดอนาคตของเรา ของลูกหลาน เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

@sumonmanhiranwattana5167 Жыл бұрын

คิดจะเกษียณตอน40มาตั้งแต่ 15ปีก่อน ตอนนี้เกษียณเต็มตัวแล้วเมื่อตอนอายุ 36 แฮ้ปปี้และมีความสุขมากๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้คนรอบตัว แต่เราจะบอกทุกคนเลยว่ามันมาจากการรู้จักตัวเองชัด เป้าหมายชัดเจน และเราอดทนมุ่งมั่นที่จะเดินตามนั้น 😊

@maemayt8195 Жыл бұрын

คิดว่า yolo เป็นแนวคิดที่ดีนะคะ แต่การใช้มันก็ต้องขึ้นอยู่กับกับตัวเราว่าจะรับผิดชอบทั้งตัวเองและความรู้สึกของตัวเองได้ไหม และไม่ต้องเดือนร้อนผู้อื่นก็น่าจะเป็นวิธีการดำเนินชีวิตที่ดี มีความสุขเลยค่ะ ดีกว่ามานั่งคิดตอนแก่แล้วว่า รู้งี้เราทำอันนั้นชีวิตเราอาจจะมีความสุขกว่านี้ ทำไมไม่ทำนะ!! สิ่งที่เราทำได้ไม่ยากคือ การหาความสุขในสิ่งเล็กๆในชีวิตทุกๆวัน ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไร แต่ก็ส่งผลที่ยิ่งใหญ่ต่อจิตใจของเราได้นะคะ❤

@toodtoo8509 Жыл бұрын

บางครั้ง ความรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเองและครอบครัว รวมถึงคนที่เรารัก มันสำคัญมากกว่าความฝันความอยากที่จะทำงานที่ชอบที่รัก ถ้ารายได้มันไม่พอเพียงที่จะเลี้ยงชีพได้ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างต้องใช้เงิน แม้แต่อากาสที่ใช้หายใจ และสุดท้าย เราได้เห็นรอยยิ้มจากคนที่เรารัก มันก็พอที่เลี้ยงใจให้ชุ่มชื่นได้อยู่ครับ #YOLO #MissionToTheMoon

@falconlive8463 Жыл бұрын

ปัจจุบันเจออยู่เลยครับ ผมอาจจะไม่ได้ทำงานบริษัทใหญ่ แต่รับงานนอกงานใน จนรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีความสุขเลยครับ เหมือนเอาตัวเองไปผูกติดกับเงินมากเกินไป ทำอะไรก็ต้องเงิน ๆ ๆ ครับ เลยตั้งคำถามว่า ถ้าไม่มีเงินเลยจะเป็นอย่างไร อยากมีชีวิตอย่างไร มีเงินแล้วมีความสุข จริง ๆ หรอ ขอบคุณคลิปนี้มาก ๆ ครับ ช่วยตั้งคำถามกับสิ่งที่เจอได้ดีมาก ๆ ครับ #missiontothemoon

@SevenKJ7 Жыл бұрын

ลองมีคนที่คุณรักตายในบ้านสักคนดูสิ คุณจะเห็นภาพนี้ชัดขึ้น คำว่าไม่ทันแล้ว คำว่าทำอะไรอยู่วะ มันจะผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด แต่ก็อยากที่คุณแท็คบอก สุดท้าย ยังไงก็ต้องมองหาจุดสมดุล คนจากก็จากไปแล้ว แต่คนอยู่จะอยู่ต่ออย่างไร ให้ได้ทั้งรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และได้เวลาในการใช้ชีวิตควบคู่ไปด้วย ไม่ใช่เกิดมา ทำงาน แล้วก็ตายไป มันใช่ ชีวิตที่เราต้องการมั๊ย ต้องทบทวนให้มาก แล้วตัดสินใจในทางที่เหมาะสมของตัวเอง #missiontothemoon

@parpaipaknopcharoonsri2697 Жыл бұрын

เห็นด้วยคะกับแนวคิดของ Yolo แต่ไม่ทั้งหมดคะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วยังมีความเชื่อว่าความสำเร็จของงาน จะบอกถึงคุณค่าของเรา ยิ่งถ้าเป็นงานที่สร้างคน จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้ก้าวข้ามความเบื่อ ความท้อ แต่ในขณะเดียวกัน การเติมพลังคือการได้ทำในสิ่งที่รัก ไม่จำเป็นจะต้อง full time แต่สามารถหาได้จากในช่วงเวลาเล็กๆ ในชีวิต มันคือการ work life balance ซึ่งในแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับพื้นฐาน และ ความต้องการ ของแต่ละคน #missiontothemoon

@everythingiscute1015 Жыл бұрын

ออกเพราะเหนื่อย เหนื่อยเหลือเกิน และตอนนั้นก็ไม่มีจุดหมายอะไร สมัครที่ไหนก็ไม่มีที่ไหนเรียก ดิ้นรนและมีคนช่วยบวกกับโชคดีนิดหน่อย ที่ใหม่ ณ ปัจจุบัน สุขภาพจิตดีขึ้น เครียดบางช่วง วันหยุดเพิ่มขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้นอีก(ที่เดิมก็ยืดหยุ่นพอควร) แลกกับเงินที่ลดไปบ้างกับหน้าที่ลดความเหนื่อยไปกว่าครึ่ง ถือว่าคุ้ม ณ ปัจจุบัน

@kunhataitree Жыл бұрын

ตอนนี้ตรงใจมากคะกำลังอยากลาออกจากงานที่ไม่ชอบ กดดัน อยากไปตามหาความฝันแต่ตอดตรงรายใได้และภาระที่ต้องเลี้ยงดูคุณพ่อและครอบครัวตอนนี้คิดหนักมาก ขอบคุณพี่เทปและทีมงาน#กันแดดศรีจันที์ ใช้ดีจริง ยอกต่อ

@falalala8 Жыл бұрын

YOLO มาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ จะมีประโยชน์อะไรถ้ามีชีวิตแล้วไม่ได้ใช้ เคยทำงานหนักจนป่วย กระเช้าเยี่ยมยังไม่ได้ ประเมินผลสุดท้ายก็แบ่งเค้กกัน อันนี้ก็ผลจาก YOLO เหมือนกันเพราะทำเต็มที่ YOLO ไม่ใช่อะไรที่ลองทำแป๊บๆ แล้วเลิก คนที่ทำเต็มที่ก็มีเหมือนกันค่ะ รุ่นพ่อแม่ปู่ย่าไม่ได้มีทางเลือกเท่าเรา ไม่รู้ว่าทำแบบนี้ได้ เปลี่ยนงานได้ ไปตปทก็ได้ ไม่แปลกที่จะไม่เคยเปลี่ยนงาน บางทีอยู่ในภาวะสงคราม มีอะไรก็ต้องทำไปก่อน พวกบรรพบุรุษก็หวังให้ลูกหลานไม่ลำบากและมีความสุข อยากทำอะไรก็ได้ทำ จะมีประโยชน์อะไรที่ลูกหลานจะไม่เลือกใช้ชีวิตให้มีความสุข ความพยายามคงสูญเปล่า

@kanya3640 Жыл бұрын

สวัสดีครับ ผมเป็นคนลาว และ ชอบฟัง podcast ของพี่มากๆ ก่อนนอน, ทำงาร, ขับรถ ผมก็ฟัง สำหรับผมแล้ว YOLO เป็นหนื่งคำที่ผมว่าเป็นความจรีงมากๆ “ชีวิดเรามีได้แค่ครั้งเดียว” แต่ไม่ได้หมายความว่าวันเดียว หรือ แค่ปีเดียว เรากำหนดมันไม่ได้ สี่งที่เราควนทำคือใช้ชีวิดให้คุ้ม แต่ต้องดูที่จังหวะชีวิด และเงื่อนไขด้วย ต้องมีการวางแผนชีวิดให้ดี ทำงารไปครับ ให้ชีวิดมันมีอะไรได้ทำบ้าง ให้ชีวิดมันได้มีความหมายเพื่อการได้อยู่ และเพื่อใครสักคน เพราะผมเชื่อว่า you only live one มันจะดียี่งขื้นก็ต่อเมื่อการที่คุณมีชีวิดแค่ครั้งเดืยวแต่ขอให้มันเป็นชีวิดที่มีความหมาย.❤

@wannac4100 Жыл бұрын

YOLO เป็นแนวคิดที่น่าสนใจค่ะ ถ้าเทียบกับรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเราที่มีค่านิยม "อดทน" และ "คิดเผื่ออนาคต" ซึ่งก็อาจจะถูกและเหมาะสมในยุคที่สภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและวัฒนธรรมแบบนั้น แต่ในหลายๆกรณีของยุคนี้ก็ไม่ค่อยเหมาะอีกแล้ว เช่น ที่ทำงานที่ toxic เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ จนสุขภาพจิตเสียก็ไม่ควรต้องอดทนต่อ ควรมองหางานใหม่ดีกว่า แต่เนื่องจากค่านิยม"อดทน"ที่คนรุ่นพ่อแม่ของเราเติบโตมา ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าเด็กยุคใหม่ใช้ไม่ได้เพราะไม่อดทน คนยุคนี้จึงถูกตีกรอบให้ฝืนทนเอาไว้ ซึ่งไม่เหมาะอีกแล้วสำหรับตอนนี้ YOLO จึงเป็นแนวคิดที่ช่วยเหลือคนยุคนี้ให้ออกจากกรอบของคนรุ่นก่อนหน้าค่ะ มีชีวิตเดียวนะ... รักตัวเองบ้าง แต่อย่างไรก็ดีในหลายๆสถานการณ์ความ"อดทน"ก็ยังเป็นสิ่งดีและจำเป็นอยู่นะคะ โดยเฉพาะการ"อดทน"เพื่อเจอสิ่งที่ดีในวันหน้า แต่หากอดทนแล้วไม่ได้อะไรหรือมีแต่เสีย ก็สบัดบ๊อบ YOLO ไปเลยค่ะ ปล.ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆค่ะ 🙏 #missiontothemoon

@ณัฐธยาน์ธนบูรณ์ชาญสิน Жыл бұрын

เห็นด้วยค่ะ เพราะเราจะสังเกตตัวเราเองได้ว่า เหตุผลที่เราเลือกที่จะเปลี่ยนงาน เพราะนั่นก็คือสาเหตุที่เราต้องการงานที่เราทำแล้วให้พลังงานเราเพิ่มขึ้น และหนังสือที่อ่านส่วนใหญ่ ก็จะพูดถึงคำว่าพรสวรรค์จะนำมาซึ่งการค้นพบตัวเอง มันคือจุดแข็งอันแท้จริงของเรานั่นเอง #missiontothemoon

@MissionToTheMoonMedia Жыл бұрын

สร้างเป้าหมายให้ชัดเจนรอบด้านด้วย Mission To The Moon Balance Planner 2024 พร้อมฟังก์ชันสุดพิเศษที่ช่วยออกแบบความสมดุลได้ตามใจในแบบของคุณเอง . จะกี่เป้าหมายก็บรรลุได้ไม่ยาก! 4 เล่ม 4 สี 4 สไตล์ในราคา Regular Sale 990.- วางขายแล้ววันนี้ที่ Shopee Lazada และ LINE SHOPPING . สนใจสั่งซื้อได้ที่ [ ] LINE SHOPPING : shop.line.me/@missiontothemoon [ ] Shopee : shope.ee/9eovnwIQUa [ ] Lazada : s.lazada.co.th/l.XyN0 . #missiontothemoonplanner #planner2024

@dtotheetothew Жыл бұрын

ส่วนตัวคิดว่าแนวคิด YOLO เกิดขึ้นเพื่อเป็นหลักคิดยึดเหนี่ยวจิตใจในพลวัตสังคมที่เน้นความเป็นส่วนตัว เป็นปัจเจก รู้สึกว่ารูปแบบของแนวคิดค่อนข้างเป็นตัวอธิบายปรากฎการณ์ของการนำความเชื่อว่าจะไม่มีการเกิดใหม่หรือเวียนว่ายมากระตุ้นให้เกิดความคิดอยากใช้ชีวิตให้คุ้ม ที่ก็พอจะสังเกตได้จากกลุ่มสังคมที่ให้ความสำคัญของความเป็นมนุษย์บุคคล individual แต่พอเป็นคำว่า YOLO ก็เข้าถึงได้ง่ายมากกว่า ส่วนการผูกกับการตัดสินใจเรื่องต่างๆของชีวิตอย่างการลาออกจากงาน ก็คิดว่ามันประกอบกับเรามีปัจจัยของการพูดถึงและเข้าถึงประเด็นสังคมมากขึ้นด้วย เช่นว่า ถ้าเรายังไม่เข้าใจว่าระบบการทำงานมันกำลังกดขี่เราในด้านเงินและเวลายังไงบ้าง เราก็จะแทบไม่ดึงเหตุผลของการเกิดมาแค่ครั้งเดียวมาเป็นตัวช่วยตัดสินใจขนาดนั้น อย่างไรก็ตามในชีวิตจริงเวลาเราตัดสินใจอะไรซักอย่างแล้วนึกได้ว่า เอาวะ เราก็มีชีวิตนี้ได้แค่ครั้งเดียวนี่ มาทำให้คุ้มเหอะ มันก็ฮึกเหิมดีนะคะ #missiontothemoon

@aekkaratmatchima5234 Жыл бұрын

รู้สึกเก็ทมากเลยครับ เพราะปีที่แล้วผมมาสมัครทำงานที่นี่เพราะอยากทำ แล้วมาดูดวิชาเพื่อจะเป็นธุรกิจของตัวเองในวันข้างหน้า ซึ่งก่อนหน้านี้ผมทำงานกับที่บ้านเป็นธุรกิจครอบครัวซึ่งปกติแล้วเงินจะดีกว่า แต่ผมยอมมาเป็นมนุษย์เงินเดือน เพื่อที่จะทำงานที่ผมทำแล้วมีความสุข อาจจะเป็นเพราะเบื่องานธุรกิจครอบครัวเพราะทำตั้งแต่เกิด แล้วที่ผมวาดไว้คือชีวิตผมจะต้องเป็นคนที่อยู่ในวงการนี้แล้วมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆในสายงานที่ผมทำ เหมือนกับไอดอลในวงการ ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้

@jamerock1301 Жыл бұрын

ในมุมมองผมคิดว่าแนวคิดนี้เป็นแนวคิดนี้ดีครับ มันทำให้ผมมีความฝันที่อยากจะทำในสิ่งที่ผมไม่เคยทำ อยากลองทำงานใหม่ๆ เผื่ออาจจะเจองานที่ผมทำมันได้ดีในอนาคต ซึ่งตอนนี้งานที่ผมทำมันรู้สึกไม่มีความสุข ไปทำงานแต่ละวันก็แค่นั่งรอเลิกงาน รอตอนเย็นวันศุกร์ รอวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทำไปบ่นไปแต่ก็ยังไม่กล้าลาออกเนื่องจากเป็นงานที่มั่นคงมีสวัสดิการที่ดีกับตัวเองและครอบครัว แต่อีกไม่นานครับผมจะต้องหาทางไปทำในสิ่งที่ผมชอบและมีความสุขกับสิ่งที่ทำให้ได้ สู้ๆ

@ภรภัทร์ทองพราย Жыл бұрын

ชีวิตตรงกับตอนนี้มากจ้า😅

@ธนาธิปสีนวล Жыл бұрын

สำหรับผม ผมคิดว่าผมกล้าออกครับ เพราะยุคนี้มันแข่งขันกันด้วยความคิดและอนาคตอีก10-20ข้างหน้าเด็กรุ่นใหม่ที่ฉลาดๆเขาก็จะมาแข่งขันกับเราแล้ว ถ้าทำงานในบริษัทถึงเรามีความคิดดีๆใหม่ๆแต่ยังไงเราก็ต้องไปได้แค่ที่เขากำหนด แต่ถ้าเราทำงานที่มีความสุขแต่รายได้ไม่แน่นอน ผมว่าความสุขนั้นอาจจะทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆก็ได้ เพราะผมว่าการเลือกงานมันต้องบัลลาสต์กัน 3ยุค ยุคก่อนหน้าผม ยุคผม และยุคเด็กรุ่นถัดไปที่เขาต้องโครตเก่งแน่ เพราะอนาคตเราไม่รู้ว่าต้องเจอกับวิกฤตอะไรอีก ดั่งนั้นผมว่า ความสุขและความคิดเท่านั้นที่ทำให้เราอยู่รอดได้แบบยั่งยืน

@SGseagames Жыл бұрын

ตอนนี้ลาออกจากงานประจำที่มีรายได้และสังคมแบบที่เราพอใจเนื่องจากตัดสินใจกลับมาอยู่ดูแลพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด ไม่อยากเสียใจที่ไม่ได้ทำตรงนี้ แต่ก็ต้องเผชิญปัญหามากมายทั้งความคิด รายได้ การใช้ชีวิต ที่แตกต่างกันระหว่างกรุงเทพกับต่างจังหวัด พยายามสู้และปรับตัวอยู่ ค่อนข้างยากเลยทีเดียว😢 #missiontothemoon

@relaxeveryday1249 Жыл бұрын

ถ้าเมื่อใดที่เราไม่ต้องทำงานเพื่อเงิน เมื่อนั้นเราจะพบความสุขที่แท้จริง

@ruttana111 Жыл бұрын

ไม่ได้เป็น Sandwich Generation ไงครับ ถ้าลองเวลา โดนทวงค่าเทอมลูก หรือ หรือ ลูกบอกหิวข้าว มันไม่กล้าลาออก ง่าย ๆ หรอกครับ อีกอย่าง ประเทศเรามันไม่ได้ มีเงินให้ มากมาย ตอนว่างงานนะครับ

@supajeez5106 Жыл бұрын

เราทำงานประจำมาเป็นเวลาทั้งหมด 7ปี 26วัน ทำที่เดียวโดยไม่เคยเปลี่ยนงาน จนวันหนึ่งมันเกิดความเบื่อสะสมเราลาออกและไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศสักพัก ตอนนี้ใช้ชีวิตฟรีแลนซ์ เรารู้สึกว่าเราอยากเที่ยวเมื่อไหร่เราสามารถทำได้เลย มีเวลาทำอย่างอื่นได้เยอะมาก ตอนนี้เรารู้สึกกลัวการกลับไปทำงานมากหากวันหนึ่งมีความจำเป็นต้องกลับไปทำงาน

@ddnote 4 ай бұрын

เราวัยจะเลข 3 กลาง ๆ แล้วค่ะ ตั้งแต่ทำงานมาก็รู้สึกไม่มั่นคงอยู่แล้ว ใจก็โหยหาอยากลาออกนะ แต่ไม่รู้จะทำไรดี ตอนนี้ไม่สนตำแหน่งหรือเงินเดือนเลย อยากได้ผลตอบแทนเป็นเวลามากกว่า 😅

@tanjaoklomssatsun8790 Жыл бұрын

อยากทำอะไรก็ทำ รับให้ได้ทุกผลของมันก็พอ YOLO : ขอบคุณที่มาแชร์เรื่องราวดีๆนะคะ

@Rhino-vn7gw Жыл бұрын

ทำงานประจำมาตั้งแต่อายุ16 ค่ะ งานใกล้บ้านไกลบ้าน กลางวันกลางคืนทำหมด รู้สึกมาตลอดว่าใช้ชีวิตเพื่อทำงานให้คนอื่นส่วนชีวิตตัวเองหลงทางไปเรื่อยๆจริงๆ ตอนนี้อายุ24 ทั้งป่วยกายป่วยจิต การทำงานหนักเก็บเงินที่ผ่านมาแม่งไม่มีความหมายเลย ตอนนี้ทำฟรีแลนซ์ลองรับงานที่ตัวเองก็ไม่เคยทำไม่มีประสบการณ์ เงินไม่มั่นคงแต่ได้ประสบการณ์ใหม่ องค์ความรู้ใหม่ ผู้คนใหม่ๆ ตอนนี้เพิ่งเริ่มก็รู้สึกดีหวังว่าจะไม่ต้องไปใช้ชีวิตแบบเดิม เพราะมีงานประจำก็ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตมั่นคงหรือมีอิสระทางการเงินเลย #missiontothemoon

@poysian9610 4 ай бұрын

ตอนโควิด แล้วโดนเลิกจ้างต้องออกจากงาน งานที่ก่อนหน้านั้นเราก็ไม่ค่อยมีความสุข สังคมก็toxic แต่ไม่กล้าพอ เพราะกลัวเป็นคนว่างงาน ที่บ้านก็ไม่สนับสนุนให้ออกบอกมีงานทำก็ดีแล้ว แต่พอออกงานมาจริงมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น เราเปลี่ยนงานใหม่ได้และมีโอกาสได้ลองทำอะไรอย่างอื่น มีช่วงเวลาที่ได้หยุดพักคิดกับตัวเอง ถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เราคงติดแหงกกับที่ทำงานเดิมไปอีกนาน ระหว่างเงินกับเวลา เราก็เลือกเวลาค่ะ เงินไม่ต้องเยอะ อยากมีเวลาใช้ชีวิตของตัวเอง

@PHYSICS_LEK Жыл бұрын

ถ้าเราสามารถทำในสิ่งที่ชอบแล้วสิ่งนั้นมันเลี้ยงชีวิตเราได้ มันคงเป็นอะไรที่มีดีมากแน่ๆ ครับ #missiontothemoon

@dissarinkoki5043 Жыл бұрын

YOLO หรือ โยโล่ เคยได้ยินในสมัยก่อนประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว ณ ตอนอายุนั้นไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก กลับมาตอนนี้ได้มายินในช่อง mission to the moon หลังจากไม่ได้ฟังนาน ตอนนี้รู้สึกอยากดำเนินชีวิตแนวคิดให้ได้แบบนี้เลยครับ #missiontothemoon

@dharmajotiem2212 Жыл бұрын

จริงครับ อะไรก็ได้ที่ตัวเองมีความสุขหลายคนเลือกที่จะเสี่ยง

@temmerrang3726 Жыл бұрын

พูดถึง secret life of Walter Mitty แล้วคิดถึงเลยคะ ดูแล้วเหมือนได้เติมไฟในตัว ชอบหนังเรื่องนี้มากๆเลย เราประทับใจเพลงประกอบด้วย ภาพก็ดี ❤❤

@hks-vf6pb Жыл бұрын

9:35 อายุแตกต่างกันการเจริญเติบโตไม่เหมือนกันเรื่องความเชื่อไม่เหมือนกัน❤❤❤จึงควรหาช่องทางวางแผนในชีวิตด้วยตนเองค่ะ❤❤❤

@P-Supattra Жыл бұрын

อยู่ในยุคที่ต้องการความสำเร็จและมั่นคงในหน้าที่การงาน แต่ด้วยปัจจัยทุนนิยมทำให้สู้ต่อลำบาก รายได้น้อย ภาระงานที่มากเกินไป จึงอยากหาความสุขในการทำงานที่รายได้เหมาะสม(อาจไม่มั่นคงเท่า) เป็นความอึดอัดใจและสับสนในความต้องการของวัยจริงๆค่ะ ใจอยากลาออก รอเจอสิ่งที่ดีกว่าค่ะ ♥ ขอบคุณที่แชร์ความคิดนะคะ ตรงใจมากๆเลยค่ะ คนรุ่นเก่าไม่ค่อยจะเปิดใจยอมรับความคิดคนรุ่นหนูเลย

@forzajuve3199 Жыл бұрын

YOLO มาหลายปีละ ตั้งแต่ช่วงโควิด ปลดหนี้หมด ไม่เอาแล้วความทุกข์ จากนี้ไปจะขอใช้ชีวิตแบบมีความสุข

@tanata2346 Жыл бұрын

จริงๆ ก็ไม่ได้มีความสุขกับงานที่ทำเลย (ทำมา 15 ปี) ตั้งแต่จบมา เพราะตอนนั้นก็ไม่รู้จริงๆว่าอยากทำอะไร แต่ก็ทำเพราะผลตอบแทนดีมาก แต่สุดท้ายก็ไม่มีความสุขเลย วางแผนจะออกมาทำได้ซักระยะหนึ่ง แต่ก็มีเหตุให้โดนออกจากงานจากสภาวะ เศรษฐกิจ เลยต้องออกมาก่อนแผนที่วางเอาไว้ ทีนี้พอออกมาก็ตั้งใจไว้ละว่าจะไม่กลับไปทำงานสายงานเดิมอีก ยอมรายได้ลดลงจากเดิม 80% ขึ้นแต่ก็ยอม เพราะแลกกับหลายๆสิ่งที่เสียไป (สุขภาพ, ความเครียดทางจิตใจ, ชัวิตส่วนตัวที่สูญเสียไป) แต่ก็ต้องบอกว่า ผมไม่มีหนี้และครอบครัว ผมเลยเลือกทางนี้ได้ เพราะฉะนั้น มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่เลือกแบบนี้ได้ครับ เพราะปัจจัยและเงื่อนไขของแต่ละคนก็จะต่างกัน

@อักษรสิริปวีณกุล Жыл бұрын

ชีวิตเดียว สุขเดียว แต่ตลอดชีวิต ขอบคุณครับ

@VoraphonH Жыл бұрын

ผมว่า YOLO เป็นแนวคิดที่ดีแต่ไม่ใช่ในทุกๆสถานการณ์ในชีวิต การที่เราเลือกจะทำในสิ่งที่เราชอบหรือรักเป็นเรื่องที่ดีมากๆต่อตัวเรา ขอแค่สิ่งที่เราเลือกที่จะทำไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน คนเราอาจจะมีบางช่วงเวลาในชีวิตที่ไม่สามารถเลือกทำในสิ่งที่เราอยากทำได้ แต่เราควรจะวางแผนชีวิตไว้และบอกกับตัวเองเสมอว่ามันจะเป็นสิ่งที่เราทำเพียงชั่วคราวและสิ่งที่เราทำอยู่ถึงแม้เราจะไม่ชอบมันแต่มันจะพาเราไปถึงจุดที่เราสามารถทำสิ่งที่เรารักได้ เพราะฉะนั้นเราควรมองหามุมดีๆและสนุกกับทุกอย่างที่เราทำเสมอ บางอย่างเราอาจจะไม่ชอบมันเพราะเราไม่เคยคิดที่จะมองหามุมดีๆและสนุกจากสิ่งที่เราทำอยู่ก็ได้ #MissionToTheMoon

@wasuntarasananwai448 Жыл бұрын

ขอบคุณมากค่า ชอบความเห็นของคุณมากค่ะ😊😊

@davidpatham8723 Жыл бұрын

ผมคนนึงที่ลาออกมาจากงานที่มั่นคงมาก มาทำธุรกิจส่วนตัว เพราะเรื่องเวลาและความสุขของตัวเองและครอบครัว หากแต่ธุรกิจส่วนตัวไปไม่รอดก็จะกลับไปหางานประจำทำเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเหมือนเดิม ตรงไปตรงมา

@HDJut-f2p Жыл бұрын

ที่สำคัญคือ เราต้องแยกให้ออกว่า สิ่งที่เราเลือกคือ ทำให้เรากล้าทำในสิ่งที่สำคัญกับเรา (ที่อยากทำ) หรือ เป็นการเอามาหนีความจริง ที่เราไม่อยากอยู่ หรือเปล่า? #missiontothemoon

@phasinphuangphi8641 Жыл бұрын

ผมเคยฟัง YOLO ของพี่เมื่อหลายเดือนที่แล้ว ฟังแล้วชอบมาก ตั้งเป็นคติประจำใจเลยครับ #missiontothemoon

@chdescarte Жыл бұрын

ผมก็เริ่มคิดเหมือนกันครับ ตั้งแต่วูบจากงานหนัก แต่ผมชอบโควท you only die once. You live everyday. มากกว่าครับ😊

@เอกรัตน์อุทธี Жыл бұрын

ขอบคุณครับ

@kamonlapoochoosang1762 Жыл бұрын

มันก็คือความจริงที่เรามีชีวิตแค่ครั้งเดียว ผมก็ตื่นมากับความคิดว่าอยากลาออกๆทุกๆวัน แต่งานไม่ได้หาง่ายเลย ออกไปแล้วไม่มีงานรองรับแล้วชีวิตที่มีอยู่ครั้งเดียวมันจะไปต่อยังไง ทุกวันนี้ก็เดือนชนเดือนแล้ว เนี่ยแหละครับโซ่ตรวนของคนที่เกิดมาเป็นคนชนชั้นล่าง #missiontothemoon

@natchanathlimpichai5975 Жыл бұрын

พออายุ40มีอาการ lost ค่ะ ยังรักงานอยู่ค่ะ แต่มีอาการBurn out

@rungrotlim7427 Жыл бұрын

YOLO ก็เป็นเพียงคำที่ใช้เพื่อเป็นเหตุผลให้ตัวเอง กล้ามากขึ้น เพราะมนุษย์ต้องการเหตุและผลในการตัดสินใจ ทำอะไรบางอย่าง (คหสต) คน YOLO ลักษณะเด่นคือ มักจะเลือกในทิศทางที่สร้างความพึ่งพอใจให้ตนเองเป็นหลัก โดยประเมินผลกระทบว่าตนเองรับได้ แม้ว่าจะเป็นไปในทางลบก็ตาม ข้อเสีย ผมมองว่าไม่มีนะ ถ้ายอมรับผลจากการกระทำของตนเองได้ แต่นั่นแหละ พอมันมีผลด้านลบ มันเป็นความเสี่ยงจากปัจจัยที่เราควบคุมมันได้ไม่ดีเอง หรือ ไม่ได้เลย

@g38jsr Жыл бұрын

yolo ต้องมีเป้าหมายชัดเจนด้วย ไม่ใช่การอยากทำอะไรตามใจตัวเอง ถ้า yolo ไม่มี target/purpose ก็เหมือนไม้หลักปักขี้เลน หาแก่นสารอะไรไม่ได้ครับ #MissionToTheMoon

@nusarasomboon6929 Жыл бұрын

เนื้อหาดีมากค่ะ ขออนุญาติแนะนำนอกเรื่องหน่อยนะคะ เงาจอคอมมันสะท้อนเข้าที่แว่นตา ดูขัดๆตาค่ะ เลยต้องฟังเสียงอย่างเดียวค่ะ

@tptp3064 5 ай бұрын

ได้ข้อคิดเยอะเลยครับ

@petchmaneeduangta5228 Жыл бұрын

ใช่ค่ะลงเครื่องมาต่อทำงานเลย ไม่ได้นอน1วัน1คืนที่สหรัฐ

@203pattanachod5 Жыл бұрын

ตรงกับที่คิดเลยครับ คนยุคนี้เป็นแบบนี้จริงยุคหน้าก็แบบหน้าเจนใครมัน เสียอย่างเดียวหลายคนวางแผนได้ไม่ดีโดยเฉพาะบริหารการเงิน คนรอบข้างมีแต่คนปล่อยกู้ กับคนทักมายืม บริหารไม่เก่งแต่กล้าได้กล้าเสียในงาน

@neemalu Жыл бұрын

เป็น Retiree มา 6 ปีแล้วตั้งแต่อายุ 48 เหตุผลเพราะทำงานจนเครียด+ร่างพัง ดีที่ทำงานมา 26 ปีรับบำนาญได้แล้ว ตอนนี้ชีวิตดีขึ้นมากไม่เครียดเลย

@oumlum2244 Жыл бұрын

แต่งานผมทำแล้วมีความสุขดี มีเวลาแต่ไม่อยากลาออก แต่จะทำอยู่ได้นานแค่ไหนแค่นั้น แต่สุดท้ายต้องลาออกอยู่ดี 💔

@PirawitJatuprayun Жыл бұрын

ขอสักครั้งนึง...ในชีวิต...😊😊😊

@jennenthong3043 Жыл бұрын

ความสำเร็จอาจเป็นคนละเรื่องกับความสุข หลายคนหลงโยงมันเข้าด้วยกัน เมื่อไปถึงจุดหมายแล้ว ก็อาจพบว่ายังไม่มีความสุข

@thirarotepathaweeruamchat1437 Жыл бұрын

ก่อนจะ yolo ช่วยค้นหาตัวตนให้เจอก่อน ซัก 70-80% ก็น่าจะพอไหว อย่าเอาแต่ความอยาก และ ตามกระแส เพราะเราไม่เหมือน และ ใครก็ไม่เหมือนเรา ... แต่ถ้าหาเจอแล้ว มั่นใจ แล้ว ลุยเลยครับ !!!😊😊😊

@Kasip-y4e Жыл бұрын

ทุกมีสิทธิ์เติบโต แต่ไม่ควรเห็นแก่ตัวเวลาจะลาออก คนเรามันยังคบกันได้อีกนานไม่ว่าฐานะเพื่อนร่วมงานทหรือคนรู้จักกัน #MTTM

@นันทวัฒน์โสนน้อย Жыл бұрын

ผมเคยทำงานอยู่ในรัฐวิสาหกิจ กฟผ แห่งหนึ่ง ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร เป็นแค่ลูกจ้างธรรมดาๆ โครตอึดอัดไม่มีความสุข เห็นการคอรัปชั่นกินกันเป็นทอดๆ จดซื้อจัดจ้าง แบบว่าเชี้ยย แม่งขนาดนี้เลยหรอวะ ลาออกแม่งเลย ตอนนี้มาขับรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ ไม่ต้องวุ่นวาย มีความสุขมาก มีเวลาว่างทำธุรกิจที่2ควบคู่กันไป มีเป้าหมายในชีวิต มีความหวังทุกวัน มันโครตดีย์ อนาคตธุรกิจเติบโต ก็จะลาออกจากการขับรถอีกที😁😁 ไม่เคยรู้จักแนวคิดYolo พอฟังแล้วอ่าวนี่กูนี่หว่า555 ขอบคุณที่ผลิตคอนเทนท์ดีนะครับ #MissionToTheMoon 🤟🏼🤟🏼

@supkornpookapun Жыл бұрын

Motto นี้น่าจะพูดไม่หมดรึเปล่าครับ น่าจะเป็น You only live once and sustainable รึเปล่า เพราะถ้า live once but last แค่ only 1 year แล้วชีวิตที่เหลือจะอยู่ยังงัย แต่สุดท้ายก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วย ว่าตัวเราอยู่ได้ แฟนเราอยู่ด้วยได้ ครอบครัวเราอยู่ด้วยได้ สัดส่วนในชีวิตคนเราน่าจะสุขมีเปอร์เซ็นต์น้อยกว่าทุกข์มั้ยครับ คงต้องเดินสายกลางๆ เอาที่มีทุกข์น้อยกว่า จะได้มีสุขมากขึ้น Yeah, you only live once, so make your living to make your life happy, too.

@pladmhu Жыл бұрын

thank

@silvermoonknight Жыл бұрын

#Yolo ต้องใช้ให้ถูกสถานการณ์ และไม่เอามันมาเป็นข้ออ้างในการทำตามใจตัวเองแบบไร้ความรับผิดชอบ และเมื่อทำไปแล้ว ไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ก็ต้องอยู่กับมัน และไม่ไปโทษคนอื่นค่ะ ส่วนตัวเป็น gen Y ที่อยู่กับคำว่า Yolo ในบรรดาเพื่อนรุ่นเดียวกัน ดิฉันเป็นคนที่เปลี่ยนงานบ่อยทุก 2-3 ปี เพราะต้องการค้นหาสิ่งที่ตัวเองทำได้ดี และชอบที่จะทำ เพราะต้องการมีความสุขกับการทำงาน และต้องการหาสถานที่หรือองค์กรที่ตัวเอง fit in แต่กับคนรุ่นปัจจุบันกลับพบว่าเปลี่ยนงานทุก 6 เดือน - 1 ปีเยอะมาก และเป็นในทางที่ไม่รับผิดชอบต่องาน พูดง่ายๆ คือพร้อมเท หากมีอะไรที่ไม่ถูกใจขึ้นมาสักเรื่อง และพร้อมที่จะกล่าวโทษว่าเป็นเพราะเพื่อนร่วมงาน นโยบายบริษัท etc ที่ทำให้เขาทำแบบนั้น ทั้งๆที่มันเป็นความพึงพอใจของตัวเอง ทั้งพนักงาน และบริษัทต่างมีสิทธิ์ในความพึงพอใจ หากพนักงานไม่ชอบก็แค่ลาออก หรือบริษัทก็คือให้ออก แต่ทุกการตัดสินใจ ควรอยู่บนความรับผิดชอบและสามัญสำนึก ไม่ใช่การเอาแต่ใจ

@Vandyke0147 Жыл бұрын

2-3:ปีเปลี่ยนงานนี้น่าจะบูมเมอร์ไม่ก็เจนเอ็กซ์

@silvermoonknight Жыл бұрын

@@Vandyke0147 ถ้า boomer กับ gen X ทำงานกันยาว ไม่เปลี่ยนเลยแบบ 10 ปี loyalty สูงค่ะ

@BDpodccast Жыл бұрын

การใช้ชีวิตแบบมีเป้าหมาย มันมีความหมายของชีวิตอยู่ในนั้นแล้วคับ

@sirinuchkeawsuwan5764 Жыл бұрын

ทำงานที่ล่าสุด 20 ปี กำลังก้าวหน้า งานมั่นคง แต่สูญเสียความสุข ออกจากงานตอน 45 เพื่อมาทำ freelance วัยนี้เงินยังสำคัญ แต่ชีวิตที่เหลืออยู่สำคัญกว่า และเชื่อว่าวัยนี้สามารถสร้างชีวิตได้ยังไม่แก่เกินไป การลาออกจึงไม่ได้เกิดจากอารมณ์ แต่ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างเดียวแล้ว จะครบ 1 ปีแล้วสำหรับการลาออก สิ่งที่ได้เจอคือความทุกข์ ความสุข และเข้าใจโลกได้อย่างลึกซึ้ง สิ่งที่ได้คือความคิดอย่างเป็นระบบและซับซ้อนมากขึ้น และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ตัดสินใจไม่เคยคิดว่าผิดเลยจริงๆ มันคือการตัดสินใจที่ถูกแล้วต่างหาก😊

@surassawadeesuntharasaj9419 Жыл бұрын

YOLO = You Only Live Once ชีวิต คือ การหาประสบการณ์ดิ่งลึก ตราบใดที่ยังไม่ตายไปจากโลกนี้ ก็ยังมีโอกาสจะได้ทำสิ่งต่างๆ ได้อีกต่อไป ทั้งที่เคย และยังไม่เคยทำ ทั้งที่ชอบ และไม่ชอบ งานก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หากทำความสุขให้ก็ดีกว่า ทำแล้วทุกข์ แต่ถ้าหาที่ชอบ และให้ความสุขด้วยไม่ได้ การมีรายได้ ก็ดีกว่าไม่มี แล้วค่อยเก็บเงินเอาไปใช้อย่างอื่น ที่ทำให้เกิดสุข ไม่ได้ทำงานที่ชอบ ก็ไม่เป็นไรหรอก ใช่ว่าทุกคนจะหาได้ เจอ คนที่ชอบ ก็เหมือนกัน ถ้าได้เจอก็ดี งานจะไปได้ดีกว่า ไม่ต้องพูดถึง ชีวิตส่วนตัว ที่สำคัญที่สุด งานจะหนัก ลำบากแค่ไหน หากช่วยให้คนรอบตัวมีความสุข ก็เป็นงานที่ ทำได้ แต่ถ้าไม่มี อะไร ดี สักอย่าง ก็ หาใหม่ ไปข้างหน้า ดีกว่า อยู่กับที่ เดิมๆ คิดแบบเดิมๆ ไม่ได้ตรง กับผู้เขียนในคลิป นะคะ Secret life of Walter Mitty ดูแล้ว อยากไปเที่ยว เลิกทำงานไปเลย ^^ แต่ ขนมเค้ก คุณแม่ กับกระเป๋าสตางค์ นี่ ผูกเรื่องมาจนถึงตอนจบได้แบบ โอ้ว... 🙀 #MissionToTheMoon

@ด.ญ.กนกรัตน์แป้ง Жыл бұрын

ตอนนี้จะให้แม่ลาออกจากงานเพราะทำงานกับพวกผิดศีลข้อ 2 กับข้อ 4 คนพวกนี้คือคนที่เหมือนไม่ใช่คน คนพูดไม่รู้เรื่องออกค่ะสบายใจดี

@dwhyng Жыл бұрын

You live everyday... It literally YODO..."You Only Die Once"

@pandastaff Жыл бұрын

นับวันแนวคิดชีวิตเดียวจะยิ่งเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้วยังมีเรื่องlying flatเข้ามาด้วย และการทุ่มเพื่อให้บริษัทเติบโตไม่มีประโยชน์อันใดในเมื่อหาคนแทนได้ตลอดเวลา มันเชื่อมถึงกันได้หมดจะพาไปสู่การตั้งคำถามต่อสังคมที่อยู่ในที่สุด

@LamoonTea-c3h Жыл бұрын

เป็นอย่างงี้มาตั้งแต่เริ่มทำงาน ชีวิตก็ลำบากนะ แต่ความสบายใจมันล้นเปี่ยม

@Me-hl3lp Жыл бұрын

คิดกับการลาออกทุกชั่วโมงการทำงาน มีเวลาทบทวน ออกไปทำไม มีรายได้เสริมไหม ทรัพย์ระหว่างวันมีพอหรือยัง ถามตอบตัวเองได้หมด แล้วนั่งทำงานต่อ พยายามกำหนดชีวิตข้างหน้า

@TheYeebud Жыл бұрын

รู้สึกว่าตัวเองมีแนวคิดแบบนี้และใช้แนวคิดนี้ดำเนินชีวิตมาแล้วซักพัก อยากได้อะไรก็ซื้อ แบบที่มันไม่ได้ลำบากตัวเอง สิ่งไหนจะทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้นก็ซื้อเลย ส่วนงานที่ทำอยู่เป้นงานลูทีนที่คิดไว้แล้วว่าไม่มีวันเจริญเติบโตไปกว่านี้ รายได้ก็ไม่มากแต่เพื่อนๆในออฟิศที่อยู่ด้วยกันก็มีความสุขสนุกสนามทุกวันที่มาทำงาน และคิดว่าตัวใช้ตรรกะและเหตุผลในการดำเนินชีวิตพอสมควรเลยไม่ทนกับอะไรที่มันไม่มีเหตุผล เช่นความงี่เง่าของหัวหน้า หรือการกระทำเบียวๆของคนในออฟฟิศ ก็จะโดนเราฟาดกลับเสมอ คนไม่ชอบหน้าเราก็คงมี แต่ก็บ่ได้สนใจ ตราบใดที่เราคิดว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ได้ไปเบียดเบียนใครและมันมีเหตุผล คนที่เขาไม่ชอบเราปัญหามันก็อยู่ที่เขาไม่ใช่เรา ทุกวันที่มาทำงานก็มีความสุขดีเป็นตัวตึงในออฟฟิศ แต่ก็คิดว่าซักวันคงโดนไล่ออก 555 #missiontothemoon

@TR-shaunjin Жыл бұрын

YOLO เป็นหลักคิดให้ใช้ชีวิตให้ดี โดยขึ้นกับความหมายของคำว่า”ดี”ในบริบทไหนครับ

@roonglove Жыл бұрын

คิดว่า You only live once ไม่ได้เหมาะกับทุกคนค่ะ เหมาะสำหรับคนที่บริหารชีวิตตนเองได้ดี เพราะรายได้ไม่มั่นคง โลกนี้มันเหมาะสมแล้วที่จะมีคนทั้งสองแบบคือคนที่อยู่ในระบบ(ไม่ลาออก) และนอกระบบ ส่วนตัวฉันขอเลือกความสุขของตนเอง และถ้ายังทำงานในระบบแล้วมีความสุขก็คงไม่ลาออกแน่ๆ #MissionToTheMoon