ร้านสุลตาน่า ฮาลาล บางกอกน้อย กรุงเทพฯ | เรื่องเด็ดเอ็ดตะโร | 12 ก.ย.66 (1/3)

รายการ เรื่องเด็ดเอ็ดตะโร สัปดาห์นี้ พาไปกินของอร่อยกันที่ ร้านสุลตาน่า ฮาลาล บางกอกน้อย เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ จากนั้นพาไป ส่องเบื้องหลังความสดใหม่ของอาหารทะเล ก่อนมาถึงผู้บริโภค ปิดท้ายด้วยช่วงของเด็ดเอ็ดตะโรกับ วิสาหกิจชุมชนวัยหวาน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ติดตามทั้งหมดได้ในรายการ
#เรื่องเด็ดเอ็ดตะโร #AmarinTV34

[@atnighttoday9758]

😊😊😊🎉🎉🎉

[@อุฝุฟวยอุฝุฟวยโอสาด]

ฮาลานแท้ต้องใสหมู

[@fonfon6742]

ถ้าเป็นคนมุสลิมไม่ต้องจ่ายค่าตราฮาลานเลย ..ถ้าเป็นคนศาสนาอื่นต้องจ่ายค่าตรวจหมู ..ศาสนาไหนๆไม่มีใครเค้าทำกันคุณนักข่าวคิดเห็นยังไงคะ .... .ต้องไปตั้งเงื่อนไขเก็บตังค์คนอื่นไม่ดีเลย .. ที่เป็นไก่ก็ต้องเอาคนอิสลามทำพิธี ที่เป็นกุ้งหมึกหอยผักผลไม้ก็ต้องเอาคนอิสลามไปตรวจเก็บค่าตรวจ สินค้าทุกอย่างพี่เค้าขอมีส่วนค่าการตลาดหมดทุกอย่างเลย .. เราไม่เคยแบ่งแยกถ้าคุณจะขายสินค้าอิสลามให้คนพุทธคริต์เต๋าขงจื๊อคุณต้องผ่านการตรวจสอบของคนศาสนาพุทธคริสต์ฮินดูก่อน ต้องจ่ายค่าตรวจมาก่อนเราถึงจะอนุญาติให้ขายให้คนของเราซื้อกิน ..ขนาดสายไม่กินเนื้อชาววีแก้นเขายังไม่ทำอะไรแบบนี้ เรียกว่าใช้ศาสนาหากินผ่านตรางฮาลานได้มั้ยคุณนักข่าว หัวจะปวด .ขนาดน้ำเปล่าก็ยังจะต้องฮาลาน น้ำเปล่ามันจะไปมีหมูปนได้งัย เว่อมาก

[@meee-21]

ไม่มีใครบังคับให้ขอตราฮาลาล ในระดับอุตสาหกรรม โรงงาน ถ้าผู้ประกอบการต้องการขายสินค้าให้กับผู้บริโภคที่เป็นมุสลิมก็จำเป็นต้องขอ แต่ถ้าผู้ประกอบการเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องขายสินค้าให้กับผู้บริโภคมุสลิม ก็ไม่ต้องขอตราฮาลาล การขอตราฮาลาลในระดับโรงงานอุตสาหกรรมไม่ว่าผู้ประกอบการจะเป็นพุทธหรือ มุสลิม ก็ต้องขอตราฮาลาลเช่นเดียวกัน ถ้าคิดว่าจะทำให้ขายสินค้าได้มากขึ้น แต่นี่เป็นร้านของชาวบ้านมุสลิมทั่วไป ไม่ใช่เจ้าของกิจการโรงงานอุตสาหกรรม คนที่ไปกินเค้าอาศัย ความเชื่อใจในฐานะมุสลิมด้วยกัน คนที่ไปกินก็สามารถเห็นกรรมวิธีการทำได้ และรู้จักเจ้าของร้านได้ แต่ถ้าผลิตภัณฑ์จากโรงงานไม่มีใครแจ้งว่าผู้ประกอบการนับถือศาสนาอะไร ในไทยผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ต่างๆ99.99 เปอร์เซ็นต์เป็นพุทธ มุสลิมเป็นเพียงผู้บริโภค ดังนั้น ผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินหรือกำไร ธุรกิจการค้าขาย ผู้ที่ได้ผลประโยชน์จริงๆและสามารถส่งสินค้าไปขายในประเทศมุสลิมได้ ก็คือผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นมุสลิม เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่การเอารัดเอาเปรียบอย่างที่ชาวพุทธบางคน บางกลุ่มเข้าใจกัน

[@fonfon6742]

@@meee-21 คิดว่าไม่เหมาะสม เล่นไปตั้งเงื่อนไขอาหารศาสนา ศาสนาอื่นไม่มีนะคะแบบนี้ ถ้าคริสตร์พุทธ้เค้าตั้งเงื่อนไขบ้าง มันจะวุ่นวายขนาดไหน .. แบ่งแยกเพื่อเก็บเงินก็เท่ากะบใช้ศาสนาหากินป่ะค่ะ แค่ไม่มีหมูดูฉลากถามแม่ค้าแค่นี้ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกอะไรขนาดนั้น มันเหมือนคนเห็นแก่ตัวอ่ะค่ะ ของตัวเองขายให้คนอื่นแบบฟรีสไตล์ พอครอื่นจะขายให้ตัวเองต้องเก็บตังค์ ต้องขอเข้าไปวุ่นวายแอบดูสูตรเค้าแบบตีเนียน .. มองว่ามันไม่แฟร์ค่ะ ศาสนาต้องไม่แสวงหาผลกำไรสิคะถึงจะถูก ยกตัวอย่างน้ำเปล่า มันจะมีหมูปนเหรอคะถามจริงๆ ผลประโชน์หรือกำไร ถ้ามุสลิมจะซื้อเพราะมันอร่อยเค้าก็ซื้อกินป่ะคะ ไม่เกี่ยวว่าต้องมีการันตีอนุญาติ ถ้าสมมุติสินค้านี้อร่อยมากแต่ไม่ขอฮาลานเพราะสิ้นเปลือง แต่ส่วนผสมคือไม่มีหมูเค้าก็แถลงฉลากก็ได้หรือเปล่าละคะ จะไปทำเป็นขอเข้าไปวุ่นวายอ้างเพื่อขายคนมุสลิม ..ดูมันเว่อๆหัวหมอหลอกเก็บต๋งอ่ะค่ะ .. ศาสนาต้องบอกคนของศาสนาว่าอย่าไปหาเบียดเบียนคนอื่นสิคะถึงจะถูก อย่าไปหาใช้เงื่อนไขศาสนาหลอกเก็บตังค์คน

[@Yummy-jb2fw]

@@meee-21ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ และเห็นด้วยอย่างยิ่ง❤❤

[@MeMo-u3o]

แล้วใครบังคับให้ไปขอละ

[@fonfon6742]

@@MeMo-u3o ไม่บังคับแต่ควรคิดได้เองว่าไม่ควรใข้ศานามาหากินแบบนี้ ใช้ความเชื่อหาผลประโยขน์ เพราะมันเหมือนบังคับอยู่กรายๆ ไม่มีศาสนาไหนเค้าทำแบบนี้ เอาตามจริงอาหารมุสลิมควรโดนแบนจากตลาดด้วยซ้ำเพราะทำนิสัยเห็นแก่ตัว ถ้าศาสนาอื่นเขาทำบ้าง อ้างเป็นอาหารของศาสนาต้องผ่านการตรวจสอบจากศาสนา ก็จะเกิดการแบ่งแยกสร้างความขัดแย้งอย่างชัดเจน เหมือนระบบการศึกษา ธุรกิจองค์กรต่างๆ มุสลิมเอาแต่ใจตัวเอง ไม่สามรถอยู่ร่ามหับคนอื่นได้ ใส่เสื้อผ้าแบบเพื่อนไม่ได้ขอแบ่งแยกเป็นโรงเรียนมุสลิม เข้าไปองค์กรณ์ไหนก็ต้องให้เขายอมตัวเอง อยากจะแตกต่างจากเพื่อนคนอื่น โชว์เเหนือว่าเป็นมุสลิมอยากเด่นอยากมีอภิสิทธิ มันเหมือนคนไม่เคารพคนอื่นเอาแต่ตัวเองเกินไปอ่ะค่ะ .. .ถ้าจะเรื่องเยอะน่าจะไปอยู่ตาลีบันให้แล้วๆไปนะคะ พื้นที่ของพระเจ้าดุดันเต็มกราฟ อย่ามาอยู่เมืองพุทธที่มีแต่วัดเลยมันจะปวดใจเปล่าๆ