รู้ทุกข์แจ่มแจ้ง :: หลวงพ่อปราโมทย์ 7 ก.ค. 2562 (ไฟล์ 620707B ซีดี 82)

ขันธ์ 5 คือรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ย่อลงมาก็คือ รูปธรรมกับนามธรรม ที่รวมกันขึ้นมาเป็นตัวเรา
ตัวนี้คือตัวทุกข์ แต่พวกเราไม่เคยเห็นว่าตัวนี้เป็นตัวทุกข์
เราเห็นว่าร่างกายนี้ทุกข์บ้าง สุขบ้าง
เราไม่ได้เห็นว่าร่างกายคือทุกข์
ทุกข์มาก กับทุกข์น้อย เราไม่เห็น
แต่เห็นว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์บ้าง เป็นสุขบ้าง
เราไม่เห็นว่าจิตใจคือตัวทุกข์
แต่เราเห็นว่าจิตใจนี้ทุกข์บ้าง สุขบ้าง
มันถึงเวียนว่ายตายเกิดไม่เลิก
อวิชชายังอยู่ เรียกว่าไม่รู้ทุกข์
เมื่อภาวนาไปถึงจุดหนึ่ง จะเข้าใจ
หัวโจก คือตัวจิตผู้รู้ จิตต้นกำเนิดนี้เอง
เราภาวนาจนวางๆๆ ตัวอื่นมา จนเข้ามาที่จิตผู้รู้นี้
มันวางรูป ตอนที่ได้พระอนาคามี
นามธรรมอื่นๆ มันก็วาง ไม่สนใจ
มันสนใจแต่จะถนอมรักษาตัวจิต จะให้บริสุทธิ์หลุดพ้น
แล้ววันใดที่ปัญญาแก่กล้า
เห็นว่าตัวจิตผู้รู้ตัวนี้คือตัวทุกข์
มันจะวางตัวจิตผู้รู้ลง
ตอนที่วางกาย ก็เพราะเห็นว่ากายคือตัวทุกข์
ตอนที่วางจิต ก็เพราะเห็นว่าจิตคือตัวทุกข์
ทุกข์เพราะไม่เที่ยง ทุกข์เพราะถูกบีบคั้น ทุกข์เพราะบังคับไม่ได้
พอเห็นความจริงอย่างนี้แล้ว เรียกว่ามีวิชชา
ทำลายอวิชชา คือ ความเห็นผิด
ว่าจิตนี้เป็นสุขบ้าง เป็นทุกข์บ้าง ที่จริงคือทุกข์
มันจะไปลงประโยคที่พระพุทธเจ้าบอก
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรตั้งอยู่
นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับไป
พอเรารู้ทุกข์แจ่มแจ้ง จิตก็ไม่ยึดถือในตัวจิต
ไม่ยึดตัวจิตผู้รู้ ก็ไม่ยึดอะไรในโลกแล้ว
จิตผู้รู้เป็นศูนย์กลางของชีวิตจิตใจ
ชีวิตจิตใจของเราก็เป็นศูนย์กลางของจักรวาล
เวลาเราดูจักรวาล ก็ดูไปจากตัวเรานี้เอง
จุดที่เป็นแกนกลางของชีวิตจริงๆ คือตัวจิตผู้รู้นี้เอง
หมดความยึดถือตัวนี้ ก็คือปล่อยขันธ์ 5
ขันธ์ 5 เป็นผลผลิตของจิต
จิตที่เลิศที่สุด คือจิตผู้รู้
จิตที่มีกิเลสลึกซึ้งที่สุด คือจิตผู้รู้
เป็นจิตที่ดีเลิศที่สุดด้วย เลวเลิศที่สุดด้วย อยู่ในตัวเอง
ก่อนที่เราจะมาถึงตรงนี้
เราต้องภาวนาให้มีจิตผู้รู้ก่อน แล้วค่อยมาเรียนรู้มัน
จิตของเราเป็นผู้คิด ผู้นึก ผู้ปรุง ผู้แต่ง
มันไม่ใช่จิตผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
วิธีที่จะสร้างให้เกิดจิตผู้รู้ขึ้นมา ก็คือ มีสติรู้ทัน จิตผู้หลง
จิตผู้หลงไปคิด ไปนึก ไปปรุง ไปแต่ง
ทันทีที่จิตหลงไปคิด มีสติรู้ทัน
จิตผู้รู้จะเกิดขึ้นเอง จิตผู้หลงจะดับไปเอง
ฝึกบ่อยๆ หลงปุ๊บ รู้ปั๊บไปเรื่อย
สุดท้าย สมาธิมันก็จะเด่นดวงขึ้นมา
จิตจะเด่นดวงขึ้นมา มีสมาธิสมบูรณ์
สมาธิสมบูรณ์ ไม่ได้แปลว่าจิตไม่เคลื่อน
สมาธิสมบูรณ์มันเปลี่ยนสภาพจิต
จากผู้คิด ผู้นึก ผู้ปรุง ผู้แต่ง
มาเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน มาเป็นคนดู
ดูอะไร ดูความเกิดดับของจิต
มันจะเห็นว่าจิตผู้รู้เกิด แล้วก็ดับ
จิตผู้คิดนึกปรุงแต่ง เกิดแล้วก็ดับ
จิตที่ไปเพ่ง คือจิตปรุงแต่ง แต่ปรุงแต่งฝ่ายดี
จิตที่หลงไปนั้น เป็นปรุงแต่งฝ่ายชั่ว เป็นจิตปรุงแต่งเหมือนกัน
จิตผู้รู้ อยู่เหนือจากจิตปรุงแต่งพวกนั้น เป็นผู้รู้ ผู้ดู
เห็นว่าจิตผู้รู้ไม่เที่ยง จิตที่ไหลไปปรุงเเต่ง ก็ไม่เที่ยง
ดูไปเรื่อยๆ สุดท้ายปัญญาจะเกิด
จะรู้ว่าจิตทุกอย่าง กระทั่งจิตผู้รู้ก็เอาเป็นที่พึ่งพาอาศัยไม่ได้
เป็นของที่เกิดดับเหมือนๆ กัน จิตก็จะปล่อยวางจิต
-- พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม
7 กรกฎาคม 2562 ไฟล์ 620707B ซีดีแผ่นที่ 82
ติดตามข่าวสาร อ่านพระธรรมคำสอน และดาวน์โหลดไฟล์เสียง
เว็บไซต์ทางการ: dhamma.com
dhammat...
/ dhammadotcom
line.me/ti/p/~@...
ปฏิทินแสดงธรรม
www.dhamma.com...
แผนที่เดินทางไปวัด
goo.gl/maps/Ab...

[@chansykeophouvong6408]

โมทนาบุญสาธุสาธุค่ะหลวงพ่อ

[@อรอนงค์นิ่มสุวรรณ]

กราบสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ

[@เดือนเพ็ญวงมโนชันกิจ]

กราบสาธุค่ะ,ห

[@user-lt7sf8xd9m]

สาธุค่ะ

[@tassapolsutthinilnabkaew3388]

สาธุ

[@natanagritLK]

สาธุครับ น้อมกราบหลวงพ่อด้วยเศียรเกล้า🙏🙏🙏

[@wasana4630]

สาธุสาธุค่ะ

[@interinter4026]

กราบอนุโมทนา...สาธุค่ะ

[@สมคิดแก้มมา]

กราบนมัสการสาธุค่ะ

[@piraaey5396]

🙏🙏🙏

[@สุวารีย์แก้วประสงค์]

กราบสาธุค่ะ

[@toomkamin2892]

สาธุๆๆครับ

[@kookkikkidtima8231]

ขอน้อมกราบนมัสการหลวงพ่อผมเอามาฝึกรู้ฝึกดูก็ขอให้รู้แจ้งในทุกข์ในธรรมตามคำสอน สาธุ

[@warisarageiger7100]

สาธุ​ สาธุ​ สาธุคะ

[@jidno8242]

สาธุ์เจ้าค่ะ

[@TheEmpress56]

42:14 เหมือนดาบผ่าลงกลางใจที่สุด เฉียบขาดสมกับเป็นนักรบของพระพุทธเจ้าโดยแท้..สาธุ

[@endosung6697]

คลิปนี้ดีมากๆครับ สรุปคือเมื่อไหร่ที่"เรา"สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของจิต เกิดดับไม่ว่าทางด้านดี หรือไม่ดี "เรา"ที่มองสภาวะการเปลี่ยนแปลงอยู่ก็คือจิตผู้รู้นั่นเอง แต่"เรา"มันก็เกิดและดับอยู่ด้วยเช่นกัน จิตผู้รู้จึงเกิดและดับตลอดเวลาเหมือนกัน คือรับรู้บ้าง ไม่รับรู้บ้าง คนเราจึงต้องฝึกให้เห็นสภาวะของจิต และจึงจะเห็น"เรา"เป็นผู้สังเกตการเกิดดับของจิตและคนเราจึงจะเห็นการเกิดดับของ"เรา" "ผู้ใดเห็น"ธรรม"ผู้นั้นเห็น"เรา" ผู้ใดเห็น"เรา"ผู้นั้นเห็น"ธรรม"" "เรา"ก็คือจิตผู้รู้นั่นเอง และ"เรา"นั้นเกิดและดับ มันจึงเป็นทุกข์อีกตัวนึงเช่นกัน

[@endosung6697]

ศีลจึงสำคัญเพราะถ้าผิดศีลจิตใจก็จะฟุ้งซ่าน จิตใจฟุ้งซ่านก็จะทำสมาธิยาก เมื่อไม่มีสมาธิก็จะไม่เห็นจิต ไม่เห็นจิตผู้รู้ ขอให้ผู้ที่ไฝ่ที่จะบรรลุธรรม มองเห็นธรรม มองเห็นทุกข์ เกิดมาชาตินี้ยังมีธรรมให้เรียน ถือว่าเป็นบุญแค่ไหนแล้ว เห็นแต่สุข ย่อมไม่เห็นธรรม เห็นแต่ทุกข์ย่อมไม่เห็นธรรม โลกนี้ที่มีทั้งสุขทั้งทุกข์จึงเป็นโลกที่บรรลุธรรมง่ายสุด เป็นพระมีข้อเสียคือเห็นสภาวะจิตที่โลภโกรธหลงน้อย ส่วนคราวาสข้อเสียคือ ศีลกับสมาธิทำลำบาก การที่เป็นคราวาสที่มีศีลและสมาธิ ผมว่าเป็นจุดที่บรรลุธรรมง่ายสุด เพราะมีความไม่เที่ยงแห่งจิตให้รู้ให้เห็นในชีวิตประจำวันมากกว่า

[@endosung6697]

คำว่าทุกข์ทางโลกกับทุกข์ทางธรรมมีความหมายคนละอย่าง ทุกข์ทางโลกก็คือทุกข์ที่เราเข้าใจและเผชิญอยู่ทุกวัน ส่วนทุกข์ทางธรรมคือ"อะไรก็ตาม"ที่เปลี่ยนแปลงได้ มันคือทุกข์ทางธรรม เพราะมันทุกข์มันจึงพยายามเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเปลี่ยนจากสุขไปเฉย จากเเฉยไปทุกข์ จากทุกข์มาเฉย หรือเฉยไปสุข หรือสุขไปทุก หรือทุกข์ไปสุข นี่คือทุกข์ทางธรรมของจิต ส่วนของทางกายภาพมันเปลี่ยนตลอดเวลาอยู่แล้ว มันเลยทุกข์เสมอ วัตถุทุกอย่างล้วนเป็นทุกข์ ไม่เคยอยู่นิ่ง ไม่ว่าจะมองลึกหรือเล็กแค่ไหนมันจะเปลี่ยนสภาวะเสมอ ในทางวิทยาศาสตร์จะได้กล่าวไว้ว่า ศูนย์องศาสมบูรณ์มันทำไม่ได้ ทำได้แค่ใกล้เคียง ใกล้แค่ไหนก็แค่ใกล้เคียง ไม่มีใครทำได้ 0 องศา เพราะธรรมชาติมันไม่เปิดโอกาสให้เกิดขึ้น

[@parichartleela7323]

สาธุ สาธุ​ สาธุ🙏

[@1454-r8v]

นมัสการค่ะหลวงพ่อลูกอยู่มุกดาหารวันนี้29ส- ค62 วันพระขณะลูกนั่งกินข้าวตามองเห็นอาหารใจ มันโลภอยากได้ตัวรู้เห็นว่ามันโลภ

[@ไม่ยินดีไม่ยินร้าย]

สาธุ​