Рет қаралды 7,521
สวัสดีครับ วันนี้ Biztalk Gadget จะมา รีวิว Xiaomi Pad 6S Pro แท็บเล็ตที่เรียกว่าไม่ได้ตอบโจทย์แค่สายทำงาน แต่ยังใช้กับความบันเทิงได้ดีอีกด้วย ผมเองก็ได้เอามาใช้ระยะนึงแล้ว ยอมรับเลยว่าชอบหลายๆ อย่างที่เขาให้มา เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราจะมาพูดถึงภาพรวม ข้อดี และจุดสังเกต มาดูกันเลยครับ
เรามาเริ่มกันที่ภาพรวมตัวเครื่องกันก่อนนะครับ สำหรับขนาด ความยาวอยู่ที่ 278.70 มม. เกือบๆ 1 ไม้บรรทัด ความกว้างหรือความสูง 191.58 มม. และ หนา 6.26 มม. ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 590 กรัม
ถ้าถามว่าภาพรวมตัวเครื่องเป็นยังไง ผมยังมองว่าสิ่งที่เขาทำได้ดี คือความหนาของตัวเครื่อง ส่วนน้ำหนักส่วนตัวมองว่ายังมากไปนิดนึงสำหรับการพกพา หรือการถือใช้งานนานๆ โดยไม่ใส่เคส แต่ก็เข้าใจได้เพราะเจ้าตัวนี้ให้แบตเตอรี่มามากพอสมควรเลย ซึ่งผมเชื่อว่ารุ่นต่อๆ ไปเราอาจจะได้เห็นมันเบาลงกว่านี้
สำหรับหน้าจอ LCD 12.4 นิ้ว ตัวนี้เรียกว่าจัดเต็มเลยนะครับ ตั้งแต่ให้ความละเอียดมาที่ 3K 3048x2032 พิกเซล รีเฟรชเรต 144Hz ความสว่างสูงสุด 900 nits รองรับ Dolby Vision และ HDR10 และแน่นอนว่ามีโหมดถนอมสายตามาให้ด้วย
ลำโพงเจ้าตัวนี้เป็นสเตอริโอ แถมใส่มาถึง 6 ตัว อยู่ทางซ้ายและทางขวาอย่างละ 3 ตัว และยังรองรับ Dolby Atmos
สรุปหลังลองใช้งานในชีวิตประจำวัน การทำงานราบรื่นครับ หน้าจอถือว่าคมชัด และด้วยความที่จอใหญ่ แบ่งใช้งานเป็น 2 จอก็ยังสบายๆ แถมการแบ่งหน้าจอก็ไม่ยาก แค่แตะไปที่จุดสามจุดตรงกลางด้านบนจอ
ส่วนการดูคลิป ดูหนังต่างๆ ภาพก็ถือว่าคมทีเดียว ส่วนเสียงเปิดแค่ประมาณ 70% กำลังดีครับ ความคมชัดของเสียงถือว่าโอเคเลย แต่ถ้าเปิดสุดนี่มันดังและแหลมจนแสบแก้วหูเลยครับ ซึ่งก็ไม่แนะนำให้เปิดลำโพงดังเกินไป
ด้านประสิทธิภาพ ใช้ Snapdragon 8 Gen 2 RAM 8GB ROM 256GB ถ้าใช้งานทั่วไปตรงนี้ไม่มีปัญหาเลยครับ จะแบ่งจอข้างนึงทำงาน อีกจอดู KZbin ก็ทำได้แบบไม่มีอาการหน่วงหรือกระตุกเลย ส่วนการเล่นเกมหนักๆ เอาจริงๆ มันเล่นได้ครับ แต่จะมีสักกี่คนที่ซื้อแท็บเล็ตใหญ่ขนาดนี้ไปถือเล่นเกม เพราะมันเล่นยากครับ เพราะจุดด้อยที่แท็บเล็ตแอนดรอยด์ยังแก้ไขไม่ได้คือการเชื่อมต่อกับจอยเกม
แบตเตอรี่ให้มา 10000mAh ถือว่าให้มาเยอะมากๆ แต่ด้วยความที่หน้าจอใหญ่แบตเตอรี่ก็จำเป็นต้องใหญ่ตามไปด้วย สำหรับการชาร์จรองรับไฮเปอร์ชาร์จ 120W ซึ่งเขาเคลมว่าชาร์จเต็ม 100% ใน 35 นาที สำหรับหัวชาร์จ 120W และสายชาร์จเขามีมาให้ในกล่องแล้วนะครับ ไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม
นอกจากนี้ยังรองรับ Wi-Fi7 ซึ่งผมก็ไม่ได้ทดสอบนะครับ เพราะเราเตอร์ที่บ้านผมยังเป็นรุ่นโบราณอยู่เลย ซึ่งตรงนี้ก็ต้องรับยอมรับว่าทางเสียวหมี่ เขาใส่เทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาให้เลย, นอกจากนี้ยังให้ Bluetooth 5.3 และรองรับแท็ก NFC ด้วยครับ
ส่วนกล้อง ซึ่งปกติในแท็บเล็ตจะไม่ค่อยโฟกัสกัน แต่เจ้าตัวนี้ใส่กล้องหลังมา 50MP รูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.8 ใช้ถ่ายแบบ 2X ได้เลยนะครับ ไม่สูญเสียรายละเอียด และถ่าย VDO ได้สูงสุดที่ 4K 60fps ตรงนี้ให้มาแบบเกินไปจริงๆ ถ้าจะให้ยกเครื่องถ่าย VDO นานๆ น่าจะเมื่อยอยู่ครับ
ด้านกล้องหน้าให้มา 32 MP f/2.2 ถ่าย VDO สูงสุดที่ 1080P 30fps กล้องนี้หลักๆ ก็ใช้กับการ VDO Call เป็นหลก ซึ่งเขาก็ออกแบบกล้องหน้าไว้ในจุดที่เหมาะกับการนั่งประชุมออนไลน์ด้วยครับ
ภาพรวมของภาพถ่าย คือว่าได้คุณภาพที่ดีเลยครับ สีสันออกมาตรงปก ถ่าย Portrait ได้ดีระดับนึง ถ้านั่งๆ ทำงานอยู่แล้วต้องถ่ายรูปมาประกอบกับงานที่ทำ แค่ยกแท็บเล็ตขึ้นแล้วเปิดกล้องถ่าย จากนั้นก็เอาภาพไปใช้กับงานได้เลย ไม่ต้องโยนจากมือถือมาอีกต่อนึง
ภาพรวมสเปคก็ประมาณนี้ครับ เรามาดูอุปกรณ์เสริมที่มากับเจ้าตัวนี้กันบ้างครับ
สำหรับใครที่กำลังมองเล็งเจ้าตัวนี้อยู่ สิ่งที่จะต้องรู้เลยคือ มันมีอุปกรณ์เสริมที่เขาทำมาเพื่อรองรับเจ้าตัวนี้โดยเฉพาะ 3 อย่างคือ Touchpad Keyboard, Xiaomi Focus Pen Black และ Cover Blackช
เรามาเริ่มกันที่ Touchpad Keyboard กันก่อนครับ เพราะน่าจะเป็นอุปกรณ์เสริมชิ้นแรกที่คนทำงานมองหากัน
ด้านการออกแบบ ตัววัสดุถือว่าดูดีเลยครับ การใส่เข้ากับตัวแท็บเล็ตก็ง่าย แค่แปะเข้าไปเป็นแม่เหล็กเลยครับ และคีย์บอร์ดไม่ต้องชาร์จไฟ เพราะมันใช้ไฟจากแท็บเล็ตโดยตรง ซึ่งจะเห็นว่าเขาออกแบบจุดจ่ายไฟระหว่างตัวแท็บเล็ตกับเคสเอาไว้เป็นอย่างดี
ด้านการตั้ง ก็แค่ดึงเคสด้านล่างออกมาครับ แต่ก็จะต้องให้มุมมันรับน้ำหนักจอได้ถึงจากวางอยู่ คือจะตั้งให้มันตรงมากไม่ได้
ปุ่มกดต่างๆ อยู่ในเกรดเดียวกับคีย์บอร์ดพวกพรีเมียมโน้ตบุ๊ก คือสัมผัสการกดมันนุ่มมาก ส่วนทัชแพด ความแม่นยำของการเลื่อนอยูในระดับที๋โอเค แต่ถ้าใครที่เคยใช้แพดแบบมัลติทัชก็อาจจะรู้สึกขัดใจเล็กน้อย เพราะมันใช้งานแบบที่คุ้นเคยไม่ได้
มาต่อกันที่ Cover Black อันนี้เป็นเคสที่ตัดคีย์บอร์ดออกไปเพื่อลดน้ำหนัก และลดพื้นที่การวางแท็บเล็ต ซึ่งข้อดีก็คือมันเบาลงจริงๆ วัสดุก็ดูดี แต่จุดสังเกตคือมันตั้งได้แค่องศาเดียว
ส่วน Xiaomi Focus Pen Black ตัวนี้มาตอบโจทย์สายจด สายวาดเขียน ตัวปากกาก็ขนาดเท่ากับปากกาทั่วไป จับถนัดมือดีครับ ส่วนวิธีการเชื่อมต่อก็ง่ายๆ แค่เปิด Bluetooth และเอาปากกามาแปะไว้ด้านบนตัวเครื่อง จากนั้นมันจะ Sync ให้เลย
ซึ่งทางเสียวหมี่เขาก็ให้แอป Mi Canvas มาฟรีด้วย ช่วยให้สายจด สายออกแบบ ทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งโปรแกรมเองก็ตอบโจทย์การออกแบบได้ในระดับนึงเลย ไม่ต้องไปเสียตังซื้อโปรแกรมนอกมาใช้เอง
ก็ประมาณนี้ครับ สำหรับการ รีวิว Xiaomi Pad 6S Pro ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตที่จอใหญ่มากๆ เอามาใช้ทั้งทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง มีอุปกรณ์เสริมที่ซัพพอร์ตการใช้งาน และราคาเป็นมิตร เจ้าตัวนี้ถือว่าตอบได้ทุกความต้องการครับ ซึ่งตัวเครื่องเขาก็เปิดมาในราคา 18,990 บาท ส่วนอุปกรณ์เสริม ตั้งแต่ Touchpad Keyboard ก็ราคาแค่ 3,999 บาท Xiaomi Focus Pen Black ราคา 2,999 บาท และ Cover Black ราคา 1,499 บาท
#XiaomiPad6SPro #Xiaomi