"สัมมาทิฏฐิ เห็นอย่างไรจึงถูกต้อง?" และสนทนาปัญหาธรรมกับพระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต ครั้งที่ ๔๓

  Рет қаралды 6,465

Dr.V Channel

Dr.V Channel

Күн бұрын

Пікірлер: 13
@ชฎาปัตตะพัฒน์
@ชฎาปัตตะพัฒน์ 2 жыл бұрын
กราบสาธุๆๆค่ะ
@toung2788
@toung2788 2 жыл бұрын
กราบสาธุ สาธุ สาธุ
@sodsritom2238
@sodsritom2238 2 жыл бұрын
🙏🙏🙏
@puva1966
@puva1966 2 жыл бұрын
โลกจะงดงาม
@ครีมมี่-ร4ช
@ครีมมี่-ร4ช 2 жыл бұрын
ไม่ทันไลฟ์ค่ะ
@สุภารัตน์คําบัว
@สุภารัตน์คําบัว 2 жыл бұрын
กราบอนุโมทนาสาธุบุญด้วยเจ้าค่ะ
@pensrisomwathee1054
@pensrisomwathee1054 2 жыл бұрын
สาธุค่ะ
@koonyar5552
@koonyar5552 2 жыл бұрын
คุณย่า​กราบ​ขอบพระคุณ​พระอ.เป็นอย่าง​สูง​เจ้าค่ะและ​อนุโมทนา​บุญ​กับ​คุณ​หมอ​วี, ผู้ตั้งคำถามด้วยค่ะ.​ย่า​ก็ศรีธนชัยเรื่องปลวกค่ะ. "ไม่ซื้อกามให้ซื้อบุญแทน" วลีนี้น้อมรับไปใช้เจ้าค่ะ.กราบ​1​กราบ​2​กราบ​3.
@สวยๆ-ช4ญ
@สวยๆ-ช4ญ 2 жыл бұрын
สำหรับผู้มีปัญหาการฟังค่ะ
@สวยๆ-ช4ญ
@สวยๆ-ช4ญ 2 жыл бұрын
สัมมาทิฐิ คือ ความเห็นที่ถูกต้อง เห็นตามความเป็นจริงที่เกี่ยวกับเรื่องจิตใจของสัตว์โลกทั้งหลาย ว่าสัตว์โลกนี้ติดอยู่ในโลกแห่งการเวียนว่ายตายเกิด อยู่ในกามภพ รูปภพ และอรูปภพ ที่เรียกว่า สังสารวัฏ ดังนั้นความเห็นชอบที่ถูกต้อง แบ่งไว้เป็น 2 ระดับ ระดับทั่วไป คือ เรื่องของบุญ บาป และผลของบุญ บาป คือ นรก หรือ สวรรค์ ถ้าทำบุญก็จะได้ไปสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ถ้าทำบาปมากไปเกิดในอบายชั้นต่าง ๆ เหล่านี้เป็นความเห็นที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ชาวพุทธให้มีความเห็นแบบนี้ จะได้เห็นกฎของกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ดีชั่วผลไม่ได้อยู่ที่ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่ผลอยู่ที่ความสุขหรือความทุกข์ใจที่เวลาตายไปจะกลายเป็นอบายหรือกลายเป็นสวรรค์ขึ้นมา ถ้ามีความเห็นแบบนี้ความคิดก็จะคิดเราว่าไม่ทำบาปดีกว่าเพราะถ้าทำบาปแล้วจะไปเกิดในอบาย แล้วเราก็จะคิดว่าเราทำบุญดีกว่า เมื่อทำบุญแล้วเราก็จะไปเกิดในสวรรค์ ก็จะมีการกระทำที่ถูกต้องก็คือการรักษาศีลนั่นเอง สัมมาอาชีโว ตามมาด้วยความเพียร คือ ขยันทำบุญ ขยัน ละบาป และสัมมาสติ คือมีสติรักษาศีล รักษาการกระทำของเราให้ถูกต้อง ส่วนสมาธิยังไม่ขั้นสูง คือสงบจากการรักษาศีล จากการกระทำทีถูก นี่คือขั้นแรก ขั้นสูง คือ ให้เห็นว่าทุกข์ที่เกิดจากการเวียนว่ายตายเกิดนี้ เกิด แก่ เจ็บ ตายนี้ มีเหตุ คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา กายมีความอยากเสพกาม เสพรูปชาญ อรูปชาญ ก็จะทำให้ติดกายภพ ผู้เสพกามก็จะติดในกามภพ กลับมาเกิดในกามภพ ผู้เสพรูปชาญก็จะกลับมาเสพในรูปภพ คือยังไม่สามารถหลุดออกจากกองทุกข์ การเวียนว่ายตายเกิดได้ ถ้าต้องการให้พ้นความทุกข์แห่งการเวียนว่ายตายเกิด ผู้ปฏิบัติต้องปฏิบัติมรรค 8 ในระดับของผู้ปฏิบัติ ก็คือต้องรักษาศีลขั้นสูง คือมีความในอริยสัจ 4 เป็นความเห็นสัมมทิฐิขั้นสูง เห็นว่าทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นความจริง ทุกข์ที่เกิดจาก เกิดแก่เจ็บตาย เกิดมาจากเหตุตัณหาความอยากที่พาให้มาเกิดเรื่อยๆ เกิดแล้วต้องแก่ เจ็บ ตาย ถ้าอยากจะหยุดการเกิดแก่เจ็บตายก็ต้องหยุดต้นเหตุที่พาให้มาเกิด ก็คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา และเครื่องมือที่จะใช้ในการหยุดการเกิดแก่เจ็บตายได้ก็จะเป็นมรรค 8
@สวยๆ-ช4ญ
@สวยๆ-ช4ญ 2 жыл бұрын
มรรค 8 ก็จะแบ่งเป็น 2 ระดับ คือระดับผู้ครองเรือน ทำทานรักษาศีลภาวนา สำหรับนักบวช ใช้ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ฆราวาสต้องทำทานเพราะว่าใช้เงินทองไปในทางที่ผิดไปในทางที่จะไปสะสมให้เกิดการเวียนว่ายตายเกิดต่อไป เพราะจะเอาเงินไปเสพกาม ซื้อของต่าง ๆ ซื้อรูป เสียง กลิ่น รส ต่าง ๆ มาเสพ ทรงสอนให้เปลี่ยนวิธีซื้อกามเสพ มาซื้อบุญมาเสพแทน เพราะบุญให้ความสุขใจและความสุขที่จะไม่ติดกับการจะต้องกลับมาเกิดในกามภพ
@สวยๆ-ช4ญ
@สวยๆ-ช4ญ 2 жыл бұрын
สรุปคือให้มีสัมมาทิฐิในกฎแห่งกรรม และให้มีสัมมาทิฐิในอริยสัจจ 4 ถ้ารู้จักอริยสัจ4 รู้จักกฎแห่งกรรมก็จะถือว่า มีสัมมาทิฐิทางพระพุทธศาสนา เพราะรู้แล้วว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ทำบุญได้ไปสวรรค์ ทำบาปได้ไปอบายก็จะได้เลี่ยงการกระทำที่ไม่ต้องปรารถนา ไม่มีใครอยากจะมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานกัน แต่ทำไมถึงมีสัตว์เดรัจฉานมาเกิดเรื่อยๆ ก็เพราะว่ามีคนทำบาปกัน เพราะอวิชา ความหลง ความไม่รู้กฎแห่งกรรม ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ซึ่งสัมัยนี้เรามีคำสอนของศาสนา แต่ก็มีคนเยอะแยะไม่เชื่อกฎแห่งกรรมก็ยังทำกรรมกันอีก ก็ต่อไปต้องไปเกิดในอบายกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่คือเรื่องของสัมมาทิฐิซึ่งเป็นองค์ประกอบของมรรคที่สำคัญที่สุด เพราะจะเป็นผู้ที่นำขบวนการของการปฏิบัติไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ถ้ามีมิจฉาทิฐิไม่เชื่อกฎแห่งกรรมก็ไม่คิดที่จะทำไม่คิดล้างบาปไม่คิดจะทำคิดแต่จะทำบาป เมื่อทำบาปมันง่ายมันสนุก มันได้ของง่ายกว่าการไม่ทำบาป การทำบาปทำให้เราได้สิ่งที่อยากได้ง่ายกว่าการไม่ทำบาปนั่นเอง คนถึงทำบาปกันมากมายทุกวันนี้เพราะอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ อยากเสพกาม อยากได้สิ่งของต่าง ๆ บางทีเงินทองไม่มีก็ไปขโมย ฉ้อโกง หรือไปปล้น จี้ เพื่อให้ได้เงินทองมาซื้อสิ่งที่ตนเองอยากจะซื้อ นี่เป็นสาเหตุ เพราะมีมิจฉาทิฐิ ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ยังมีการทำบาปไม่ทำ คนที่มีสัมมาทิฐิก็จะเชื่อ กฎแห่งกรรม ก็จะไม่กล้าทำบาป จะทำแต่บุญ สัมมาทิฐิ กับ สัมมาสังกัปโป ความคิด กับ ความเห็น เราต้องเห็นก่อน เห็นว่าสิ่งนั้นดี ไม่ดี ถ้าสิ่งนั้นดีเราต้องไปเอาสิ่งนั้น เราเห็นว่าคนนี้ดีไม่ได้ เราก็จะคิดว่าคนนี้ไม่ดีเราไม่ควรคบกับเขา ทั้งสองข้อเป็นองค์ประกอบของปัญญา ซึ่งก็คือสัญญา กับ สังขาร นั่นเอง สังขารความคิดปรุงแต่งก็คือ สังกับโป ความเห็นก็คือสัญญา แต่ความเห็นของสัตว์โลกจะเป็นมิจฉาทิฐิ เป็นสัญญาที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เห็นว่าโลกนี้เป็น นิจจัง สุขัง นัตตา ทำอย่างไรให้มีสัมมาทิฐิมั่นคงขึ้น ต้องศึกษา และจดจำให้ได้ เหมือนการเห็นหนังสือ เห็นจดจำอริยสัจ 4 จดจำกฎแห่งกรรม และขั้นที่2 พยายามปฏิบัติตามทีเราจดจำไว้ ทุกครั้งที่จะทำบาปก็อย่าทำทำแล้วไปเกิดในอบายทำแล้วจะทุกข์ทำแล้วก็จะเห็นผล ความจริง ทำบาปแล้วใจไม่สบาย 14.35
@ชณวรรณมีคํานิตย์
@ชณวรรณมีคํานิตย์ 2 жыл бұрын
สาธุค่ะ
UFC 310 : Рахмонов VS Мачадо Гэрри
05:00
Setanta Sports UFC
Рет қаралды 1,2 МЛН
Une nouvelle voiture pour Noël 🥹
00:28
Nicocapone
Рет қаралды 9 МЛН