Рет қаралды 929,555
ลมเจ้าเอยลมพัดสะบัดโบก สนไหวโยกโยนตัวยั่วลมเล่น
กระซิบรักฝากใจให้ลมเย็น พัดสนเอนต้องมนต์รักที่ฝากมา
ใจอ่อนไหวโยนยั่วดั่งสายสน ที่ถูกมนต์พิศวาสปรารถนา
รักหลอกล้อดั่งลมรื่นชื่นอุรา สุขบางคราทุกข์บางครั้งดั่งสนไกว
สนต้องลม เป็นเพลงเก่าของสุนทราภรณ์ที่ประพันธ์คำร้องโดย เอิบ ประไพเพลงผสม และประพันธ์ทำนองโดย เวส สุนทรจามร
ต้นฉบับบันทึกเสียงร้องไว้เมื่อปี 2492 โดย มัณฑนา โมรากุล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) ประจำปีพุทธศักราช 2552 อดีตนักร้องหญิงคนแรกของวงดนตรีกรมโฆษณาการและนักร้องรุ่นแรกของวงสุนทราภรณ์
รวงทอง ทองลั่นธม เจ้าของรางวัลพระราชทานใบโพธิ์ทองคำจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2514 ในฐานะนักร้องผู้เผยแพร่ภาษาไทยได้ชัดเจนถูกต้อง และได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง (ร้องเพลงไทยสากล) ประจำปี พ.ศ. 2539
ได้นำ"สนต้องลม" กลับมาบันทึกเสียงร้องใหม่ จากนั้นยังมีเสียงร้องของศิลปินสังกัดวงสุนทราภรณ์หลายคนที่นำเพลงนี้ไปร้องรวมทั้งนักร้องรุ่นใหม่ๆด้วย
ป่าสนที่ขึ้นเป็นกลุ่มๆในสภาพอากาศเย็นๆบนภูสูงๆทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างภูกระดึง จะมีใบออกเป็นกระจุกๆละสองใบหรือสามใบนั้น คือสนสองใบหรือสนสามใบ ส่วนสนต้องลมตามเนื้อหาของเพลงนี้ น่าจะหมายถึงสนประดิพัทธ์ที่มีรูปทรงคล้ายสนทะเล แต่ต้นสูงชะลูดเป็นลำต้นตรงไม่แตกกิ่งก้านเกะกะ เนื้อไม้เหนียวและแข็งมาก ใช้ทำเสาเข็ม เสาค้ำยันในการก่อสร้าง เสากระโดงเรือ เสาโป๊ะ ทำฟืน และนิยมปลูกเป็นแนวกันลมหรือปลูกเป็นแถวเป็นแนวตามถนน สามารถตัดแต่งให้เป็นรูปต่าง ๆ หรือทำเป็นบอนไซได้ ซึ่งในอดีตเคยถูกนำมาทำเป็นไม้เรียวได้ด้วย