สวรส.จับมือศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข ยกระดับการแก้ปัญหา-พัฒนาระบบสุขภาพประชากรข้ามชาติ

  Рет қаралды 10

Meta8News Channel

Meta8News Channel

Күн бұрын

สวรส.จับมือศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข
ยกระดับการแก้ปัญหา-พัฒนาระบบสุขภาพประชากรข้ามชาติ
สถานการณ์การเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติและการย้ายถิ่นฐานของประชากรข้ามพรมแดนยังคงเป็นปรากฏการณ์
ที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดในหลายพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ความขัดแย้งทางการเมือง รวมถึงภาวะสงครามทั้งภายในและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยมีแรงงานข้ามชาติเดินทางมาจากประเทศอื่น
ในภูมิภาคเพื่อเข้ามาทำงาน ส่งผลให้มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ และมีอุปสรรคในการเข้าถึงบริการสุขภาพ ทั้งนี้ข้อมูลจากรายงานของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 มีแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ขออนุญาตทำงานในประเทศไทย จำนวน 3,084,852 คน โดยร้อยละ 75.5 เป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา ร้อยละ 15.5 เป็นแรงงานสัญชาติกัมพูชา ร้อยละ 8.7 เป็นแรงงานสัญชาติลาว และที่เหลือเป็นสัญชาติเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีผู้ติดตามแรงงาน เช่น สามี ภรรยา บิดามารดา บุตร ฯลฯ อีกร้อยละ 6.8 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด ซึ่งการทำงานร่วมกันในระดับภูมิภาคจะช่วยให้เกิดการยกระดับการแก้ปัญหา และพัฒนาระบบสุขภาพประชากรข้ามชาติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 - แผนงานสุขภาพประชากรข้ามชาติ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และแผนงานสุขภาพผู้อพยพระหว่างประเทศ Division of Global Migration Health program (TUC-DGMH) ภายใต้ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ด้านสาธารณสุข ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งสำคัญ เพื่อสนับสนุนและพัฒนาระบบสุขภาพประชากรข้ามชาติ (Migrants Health) ให้บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ตลอดจนให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ณ ห้องประชุมสานใจ 1/1 ชั้น 6 อาคารสุขภาพแห่งชาติ
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2 กล่าวว่า ไทยและสหรัฐมีความร่วมมือทางด้านสาธารณสุขร่วมกันมานาน โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ทำให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับโรคต่างๆ เช่น โรคเอดส์ โรคซาร์ส ไข้หวัดนก โรคเมอร์ส ฯลฯ ในช่วงที่ผ่านมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวประกอบด้วยยุทธศาสตร์ 4 ด้าน ได้แก่ 1) การพัฒนากำลังคน 2) การพัฒนาระบบสาธารณสุข 3) การพัฒนาโครงสร้างทางกายภาพ เช่น ห้องปฏิบัติการด้านโรคและภัยสุขภาพ และ 4) การบริหารจัดการโครงการโดยกระทรวงสาธารณสุข
จึงเชื่อว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้ระหว่าง สวรส. และแผนงานสุขภาพผู้อพยพระหว่างประเทศฯ (TUC-DGMH) จะทำให้เกิดการพัฒนาระบบสุขภาพของประชากรข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชากรข้ามชาติได้อีกทางหนึ่ง
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมามีความพยายามจากหลายหน่วยงานทั้งภาคสาธารณสุข ภาคแรงงาน ภาคความมั่นคงของประเทศ ภาคประชาสังคม เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และรักษาพยาบาลในกลุ่มประชากรข้ามชาติบนพื้นฐานแห่งมนุษยธรรม โดยไม่คำนึงถึงสถานะบุคคล เชื้อชาติ และศาสนา
เห็นได้จากข้อมูลในปี 2566 มีประชากรข้ามชาติเข้ารับบริการสาธารณสุขในสถานพยาบาลของรัฐ จำนวน 1.94 ล้านคน
เป็นผู้ป่วยนอก 1.69 ล้านคน ผู้ป่วยใน 0.25 ล้านคน ด้าน สวรส. ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพประชากรข้ามชาติ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและองค์การอนามัยโลก ค.ศ. 2022-2026 (WHO-RTG Country Cooperation Strategy: CCS) และมีการดำเนินงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศมาโดยตลอด จึงจัดให้มีบันทึกความร่วมมือกันในครั้งนี้ ระหว่าง สวรส. และแผนงานสุขภาพผู้อพยพระหว่างประเทศฯ (TUC-DGMH) ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่จะช่วยกันพัฒนาองค์ความรู้ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคติดต่อในกลุ่มประชากรข้ามชาติ เพื่อให้เกิดระบบสุขภาพที่เหมาะสมและเป็นธรรม ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งในระบบการบริหารจัดการด้านสุขภาพสำหรับกลุ่มประชากรข้ามชาติ ซึ่งนับเป็นการขับเคลื่อนในระดับภูมิภาคที่คาดว่าจะส่งผลให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
Ms.Barbara Knust, DVM, MPH Director, Division of Global Migration Health Program, THE THAILAND MoPH - U.S.CDC COLLABORATION (TUC-DGMH) กล่าวว่า แผนงานสุขภาพผู้อพยพระหว่างประเทศ ภายใต้ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข มีการทำงานร่วมกับพันธมิตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นระยะ
เพื่อพัฒนาระบบสุขภาพประชากรข้ามชาติ และป้องกันโรคติดต่อในประชากรที่มีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ ซึ่งการทำงานร่วมกันภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้เกิดการเสริมสร้างและขยายขีดความสามารถในการขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพประชากรข้ามชาติ และนำไปสู่การพัฒนาระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

Пікірлер
I'm Excited To see If Kelly Can Meet This Challenge!
00:16
Mini Katana
Рет қаралды 30 МЛН
Советы на всё лето 4 @postworkllc
00:23
История одного вокалиста
Рет қаралды 4,8 МЛН
Пранк пошел не по плану…🥲
00:59
Саша Квашеная
Рет қаралды 7 МЛН
@juanchinbrodie #comedia #humor #juffec #felipecharry #amigos
0:15
Felipe Charry
Рет қаралды 19 МЛН
ToRung short film: 🙏save water💦
0:24
ToRung
Рет қаралды 111 МЛН