ตายไปไม่ตกต่ำ :: หลวงพ่อปราโมทย์ 27 พ.ค. 2562 (ไฟล์ 620527 ซีดี 82)

Рет қаралды 62,753

Dhamma.com

Күн бұрын

Пікірлер: 50

@Wichai05 6 ай бұрын

น้อมกราบพระอาจารย์ขอรับ🙏🙏🙏

@thidadharmasakti4066 2 жыл бұрын

🙏🙏🙏 กราบหลวงพ่อด้วยเศียรเกล้า

@wicheinrachmuang3895 4 жыл бұрын

กราบนมัสการหลวงพ่อครับ.. ฟังหลวงพ่อเทศน์เกือบทุกคืนเลยครับ.. หลับแล้วฝันดีเสมอครับ

@sasithonbenjapak 10 ай бұрын

กราบสาธุค่ะ🙏

@เดือนเพ็ญวงมโนชันกิจ 3 жыл бұрын

กราบสาธุค่ะ,หลวงพ่อ

@ศันสนีย์ฟอยทิค 4 жыл бұрын

กราบสาธุสาธุคะ

@thaicl999 5 жыл бұрын

ลูกขอน้อมกราบสาธุ ได้ฟังได้ทำความเข้าใจ..ได้ปฏิบัติ.และถ้าทำได้คงเป็นบุญของลูกอย่างมหาศาล..สาธุๆๆๆๆขอให้ลูกถึงพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเถิด

@สุทัศน์แซ่เต็ง 4 жыл бұрын

กราบนมัสการหลวงพ่อท่านครับผม สาธุธรรม สาธุ สาธุ

@พงศ์ยุพาณลําพูน 4 жыл бұрын

สาธุค่ะ

@NaJorn 3 жыл бұрын

กราบขออนุญาตครับผม 🙏🙏🙏 เวลาตาย ทำอย่างไร 21:45

@rattidang7376 Жыл бұрын

น้อมกราบสาธุค่ะ

@midnight1816 5 жыл бұрын

สาธุ สาธุ สาธุ ขอขอบพระคุณธรรมะดีๆ จากหลวงพ่อ และขอบคุณแอดมินที่นำมาลงด้วยครับ ขอให้หลวงพ่อและแอดมินมีสุขภาพที่แข็งแรง ช่วยเผยแผ่ธรรมะดีๆอย่างนี้ไปนานๆนะครับ...

@maisiliphone7482 5 жыл бұрын

น้อมกราบสาธุในพระธรรมคำสอนของ หลวงพ่อเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

@thimsiri222 5 жыл бұрын

เป็นการละสังขารที่งดงามและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่ยังอยู่ครับ...........สาธุ.....:))

@boonsriyodsuwan2818 5 жыл бұрын

อนุโมทนาสาธุค่ะ

@jook184 5 жыл бұрын

กราบหลวงพ่อปราโมทย์เจ้าค่ะ

@imyour2010 5 жыл бұрын

กราบครูบาอาจารย์

@พุทธรักษาศรีมุข-ส3ฒ 5 жыл бұрын

น้อมกราบ..พระอาจารย์เจ้าค่ะ

@บ่าวอุดรพาเที่ยวพาเลาะ 5 жыл бұрын

น้อมกราบหลวงพ่อสาธุสาธุสาธุครับ

@sukji1050 5 жыл бұрын

สาธุ🙏🙏🙏

@suwannakumin2890 5 жыл бұрын

สาธุๆๆครับ

@คาราเมล-ฌ4ร 5 жыл бұрын

กราบสาธุๆๆ🙏🙏🙏

@JRDPTW 5 жыл бұрын

ขอบพระคุณสำหรับธรรมทานครับ (^/|\^)

@kunkan9777 5 жыл бұрын

กราบสาธุค่ะ

@simonns7645 5 жыл бұрын

สาธุ สาธุ สาธุ

@toomkamin2892 5 жыл бұрын

สาธุ.สาธุ.สาธุ..ครับ

@TripLaos 5 жыл бұрын

ສາທຸສາທຸ ชอบมากเลยครับผม

@chalermchaiwattanawongpitu7196 9 ай бұрын

Sadhu 🙏🙏🙏🙏

@sengphachanh3380 2 ай бұрын

🙏🙏🙏

@montananum 3 жыл бұрын

/ค่อยๆฝึกไป แล้ววันหนึ่ง เราจะไม่กลัวความตายนะ/ คนจำนวนมากนะ เวลาจะตายเนี่ย จะมานึกได้ว่ายังไม่ได้ทำดี เรื่องโน้นก็ยังไม่ได้ทำ เรื่องนี้ก็ยังไม่ได้ทำ อยากจะทำมันทำไม่ได้แล้ว มันสายเกินไปแล้ว เพราะงั้นความดีนะ ทำตั้งแต่วันนี้เลย อย่างขณะนี้เราทำความดีได้ เรามีสติ รู้เนื้อรู้ตัวอยู่ “เมื่อไรมีสติ เมื่อนั้นมีความดีนะ” จิตเป็นกุศลทันทีเลยถ้าเรามีสติ เมื่อไรขาดสติ เมื่อนั้นชั่วทันทีเลย อกุศลมันจะเข้ามาตอนขาดสติ เพราะงั้นเราพยายามรู้เนื้อรู้ตัวไปเรื่อยๆ รู้ตัวได้แล้วก็ค่อยๆดูไป กายอยู่ส่วนกาย ใจอยู่ส่วนใจ ค่อยๆแยกไป ความรู้สึกทั้งหลายก็อยู่ส่วนความรู้สึก ไม่ใช่กาย อย่างความสุขนี้ไม่ใช่ร่างกาย ความสุขไม่ใช่จิตใจนะ แยกออกจากกายแยกออกจากใจ ใจเป็นผู้รู้ผู้ดูไป เดินปัญญาเรื่อยๆไปนะ ถ้าเราเดินปัญญาได้ ได้ธรรมมะ ได้โสดาฯได้อะไรเนี่ย เรามีความปลอดภัยนะ ว่าเราจะไม่ไปเกิดในอบายแน่นอน จะต้องอยู่ในสุคติภูมิ เป็นมนุษย์เป็นเทวดาอะไรอย่างนี้ได้เป็นแน่นะ แต่ว่าถ้าเราก็มีความชั่วที่เราสะสมมา เราไม่ได้ทำแต่ความดี ความชั่วเราก็ทำ อันนั้นถึงจะเป็นโสดาบันฯนะ ไปเกิดใหม่เนี่ย กรรมชั่วก็ยังตามมารังควานได้ ไม่ใช่พระโสดาฯสบายทุกองค์ บางองค์ก็เกิดในตระกูลต่ำนะ เป็นทาสเขาอะไรอย่างนี้นะ บางท่านเกิดมาถูกทำร้าย ถูกทำร้ายก็มีนะ ขนาดเป็นพระอรหันต์แล้วกรรมชั่วก็ยังตามให้ผลได้ ไม่ใช่หนีได้นะกรรม หนีไม่ได้ อย่างพระพุทธเจ้าเราว่าท่านดีที่สุดแล้วนะ ท่านก็ยังมีกรรมชั่วให้ผลท่าน อย่างท่านต้องถูกคนด่าเนี่ยก็มีกรรมของท่านนะ ท่านจะต้องเจ็บป่วยจนถึงกับถ่ายเป็นเลือดนะ ก็มีกรรมของท่าน ท่านบอกไว้หมดเลยนะว่าตัวนี้ เกิดจากกรรมอะไรๆ ท่านก็บรรยายได้ พวกเราไม่รู้หรอกว่าอันนี้มันกรรมตัวไหน งั้นที่ดีที่สุดนะ พิพากษาตัวเองได้ รู้เลยว่าตัวเองนี้มีความดีเยอะนะ ถ้ารู้ตัวเองว่าดีเยอะล่ะ มันจะไม่กลัวตายนะ ไม่กลัว ความตายเกิดขึ้น นอนดูร่างกายมันตาย คนที่ความดีเต็มร้อยคือพระอรหันต์ งั้นเวลาพระอรหันต์จะนิพพานนี้ พระอรหันต์จะเบิกบาน เพราะว่าตัวทุกข์คือตัวร่างกายนี้มันกำลังจะตาย ตัวทุกข์มันตายนะไม่ใช่ตัวดีตาย เนี่ยค่อยๆฝึกไป แล้ววันหนึ่งเราจะไม่กลัวความตาย เวลาเห็นความตายเกิดขึ้นนะ จิตจะเบิกบานนะ อย่างหลวงพ่อนะ ตอนเตี่ยหลวงพ่อตาย ประมาณปี ๒๗ มั้ง นานนักหนาแล้ว เตี่ยหลวงพ่ออายุ ๖๐ นิดๆเอง เป็นเบาหวานแล้วต่อมาเป็นโรคไต ไตวายก็ตาย ตอนที่ตายหลวงพ่อก็ไปยืนดูอยู่นะ จิตใจของหลวงพ่อเบิกบาน ไม่ใช่เบิกบานว่าได้มรดกนะ ไม่มีมรดกอะไรหรอก แต่ว่าใจมันเบิกบานมันเห็นว่าชีวิตนี้ มันต้องเป็นอย่างนี้แหละ มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะงั้นใจนี้ไม่หวั่นไหวนะ กระทั่งคนที่เรารักตายไปก็ไม่หวั่นไหวใช่ไหม หรือยังหวั่นไหวอยู่? ถ้ายังหวั่นไหวอยู่ ไปฝึกอีก ยังฝึกไม่พอนะ ค่อยๆฝึกไป . หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แสดงธรรม ณ วัดเขาดินวนาราม วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ระหว่างนาทีที่ ๒๘:๐๑ - ๓๒:๒๖

@HJ-pv6rk 5 жыл бұрын

สาธุครับ

@คณินจันทร์ดาเรือง 5 жыл бұрын

สาธุๆๆๆๆ

@darkdargon09 5 жыл бұрын

ขอบคุณครับ

@สุปรียาแววศรี-ว6ป 5 жыл бұрын

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

@ไม่ยินดีไม่ยินร้าย 5 жыл бұрын

สาธุ

@phanitpicha 5 жыл бұрын

🙏🏻🙏🏻🙏🏻

@montananum 3 жыл бұрын

/ฝึกตัวเองให้ได้ ตั้งแต่ก่อนที่จะตาย/ ปัญญามันเป็นความรู้ถูก ความเข้าใจถูกนะ มันคล้ายๆมันเป็นจุดที่มันคลิก มันปิ๊ง!ขึ้นมา มันเข้าใจขึ้นมา ตรงที่มันเข้าใจนะ มันชั่วแวบ!เดียวเท่านั้นเองนะ เหมือนอย่างเราคิดอะไรที่ยากๆ เราทำงานเราคิดอะไรที่ยากๆเนี่ย คิดๆคิดตั้งนานแหนะ จุดที่เข้าใจ มันแวบ!เดียวมันเข้าใจนะ เข้าใจในชั่วขณะเดียวเท่านั้นเอง งั้นปัญญาจริงๆไม่ยืดเยื้อเท่าไรหรอกนะ อาศัยมีสติระลึกรู้กายรู้ใจของเราไปเรื่อยๆ มีจิตตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดู ไม่ใช่ผู้คิดผู้นึกผู้ปรุงผู้แต่ง แต่ใจเราเป็นผู้รู้ สติระลึกลงในกาย ใจเป็นผู้รู้ไม่ใช่ผู้คิดเนี่ย มันจะเห็นเลยกายไม่ใช่เรา เพราะความเป็นเราเกิดจากความคิดนะ ความเป็นเราเกิดจากความคิด ไม่ได้มีจริง งั้นการที่เรามีจิตเป็นผู้รู้อยู่ ไม่ใช่ผู้คิดเนี่ย พอสติระลึกลงไปที่ใด มันจะเห็นไตรลักษณ์ได้ แต่ถ้าจิตเราไม่เป็นผู้รู้นะ หลงคิดทั้งวันเลย กระทั่งคิดเรื่องไตรลักษณ์ สติระลึกรู้ลงไป ก็ไปคิดอุตลุดเลยว่ามันเป็นไตรลักษณ์ อันนี้ไม่ใช่ ไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริง เป็นปัญญาระดับปัญญาจากการคิดเอา ยังล้างกิเลสไม่ได้ ปัญญาที่แท้จริงจากการภาวนานะ มันปิ๊ง!เดียวนะ จิตใจมันจะสว่างไสวขึ้นมา ไม่ต้องบรรลุมรรคผลหรอก เวลาปัญญาเกิด เกิดความรู้ความเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา ในธาตุขันธ์กายใจของเรานี้ ใจมันจะสว่างขึ้นมานะ พระพุทธเจ้าถึงสอนบอกว่า “แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี” อย่างตอนกลางคืนนี้ไม่มีพระอาทิตย์ เวลาใจมันเข้าใจอะไรสักอย่างหนึ่งขึ้นมา มันสว่างไสวขึ้นมานะ มันสว่างขึ้นมาได้เอง ยิ่งตอนเกิดอริยมรรคนะ จะสว่างมาก พวกเทพพรหมเนี่ยจะสัมผัสได้ เหมือนอยู่ๆก็มีแสงสว่างจ้า วาบ! เดียว วาบ!เดียวนะ ไม่สว่างยาวๆนะ มันวาบ!เดียว เขาก็จะตื่นเต้นนะว่า มีพระอริยบุคคลเกิดขึ้นแล้ว อีกองค์หนึ่งแล้ว พวกเทวดาที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา เทวดาชั้นจาตุม จาตุมหาราชก็จะดีใจ ตะโกนโหวกเหวกกันนะว่า มีพระอริยะเกิดขึ้นอีกองค์หนึ่งแล้ว เทวดาที่สูงขึ้นไปก็จะได้ยินก็จะบอกกันต่อๆต่อไปนะ โลกธาตุก็สะเทือนสะท้านหวั่นไหว ด้วยเสียงสาธุการของพวกเทวดา เนี่ยเวลาที่ปัญญาเกิด มันชั่วขณะเดียวเท่านั้นเอง แล้วถ้ามันเป็นปัญญาระดับโลกุตระ อย่างเวลาเกิดอริยมรรคทั้งหลาย อริยมรรคมี ๔ ครั้งนะ เวลาเกิดเนี่ย มันกระเทือนโลกธาตุ พวกคนที่จิตไวๆก็รู้สึก บางทีรู้สึกเหมือนแผ่นดินไหวขึ้นมานะ ภาวนาอยู่รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว ตอนที่จิตตัวเองมันล้างกิเลสลงไป บางทีรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยง!เลยนะ สว่างวาบเลย จริงๆมันสว่างอยู่ที่จิตนะ ฟ้าไม่ได้มาผ่าจริงหรอก คนทั่วๆไปมันก็ไม่รู้ไม่เห็นนะ ครูบาอาจารย์ท่านบอกไอ้พวกมีตาเหมือนตาไม้ มีหูเหมือนหูกระทะ คือสัมผัสอะไรไม่ได้เรื่องหรอกนะ เพราะงั้นพวกเราพยายามฝึกนะ ฝึกตัวเองให้ได้ ตั้งแต่ก่อนที่จะตาย ค่อยๆภาวนาไปทุกวันๆนะ จิตใจมันจะมั่นคงเด็ดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ . หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แสดงธรรม ณ วัดเขาดินวนาราม วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ระหว่างนาทีที่ ๑๗:๒๘ - ๒๑:๔๓