ตะลึง! สื่อนอกเผย UN คาดรายได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา-ลาว พุ่งสูงครึ่งหนึ่งของ GDP ประเทศ

หลายคนที่ติดตามข่าวสารของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจจะเคยสงสัยว่า ทำไมการจับกุมอาชญกรชาวจีน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจต้มตุ๋นทางออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซนเตอร์ รวมถึงการช่วยเหลือเหยื่อ จึงมักจะเกิดขึ้นในเมียนม่า ที่ล่าสุด ได้มีการจับกุมชาวจีนที่กระทำผิด ไปแล้วมากกว่า 40,000 คน ทั้งๆที่องค์การสหประชาชาติหรือ UN ได้เคยออกมาเปิดเผยว่า มีเหยื่อที่ทำงานให้กับแก๊งอาชญากรเหล่านี้ในกัมพูชา มากกว่า 1 แสนคน ในเมียนม่า มีมากกว่า 120,000 คน 2 ฐานที่ตั้งสำคัญระดับโลก ของแก๊งคอลเซนเตอร์จีน แต่ข่าวการจับกุมในกัมพูชา กลับมีน้อยมาก และการจับกุมแต่ละครั้ง ก็เป็นจำนวนหลักสิบ หลักร้อยเป็นส่วนใหญ่ รายงานล่าสุดจากสื่อต่างประเทศ ที่อ้างอิงการให้ข้อมูลของหน่วยงานในสังกัดขององค์การสหประชาชาติ ได้ให้คำตอบกับเราในเรื่องนี้
ในบทความที่ถูกนำเสนอโดย Radio Free Asia ได้กล่าวถึง 3 ประเทศในอินโดจีน ได้แก่ เมียนม่า กัมพูชา และลาว ได้มีการให้สมญานามประเทศเหล่านี้ โดยเมียนม่า ถูกเรียกว่า เป็นรัฐแห่งยาเสพติด ในขณะที่กัมพูชาและลาว ได้รับฉายาว่า รัฐแห่งการต้มตุ๋น โดยสื่ดังกล่าวระบุว่า เผด็จการในเมียนม่าไปจนถึงเวียดนาม ไม่สามารถควบคุมการก่ออาชญากรรมในประเทศพวกเขาได้ ในปี 2023 นี้ โดยเนื้อหาในบทควาท เน้นไปที่เหตุการณ์และข้อมูลของ 3 ประเทศ ตามที่ได้เกริ่นไปข้างต้น
Radio Free Asia สะท้อนออกมาว่า ปี 2023 ถือว่าเป็นหนึ่งในปีที่มีแต่ปัญหา ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สงครามยังปะทุในเมียนม่า ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก นอกเหนือไปผู้เสียชีวิตของทางฝั่งทหาร และผู้ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการพม่า กลุ่มประเทศอาเซียน ล้มเหลวในการเจรจาให้มีการสงบศึก ทำให้รัฐบาลทหารพม่า มีท่าทีแข็งกร้าวมากกว่าเดิม นับตั้งแต่มีการทำรัฐประหาร ในต้นปี 2021 ซึ่งความวุ่นวาย และความรุนแรงในทางการเมือง ที่ถูกยกระดับขึ้นมา ทำให้เกิดอาชญกรรมมากขึ้นทั่วประเทศ จากรายงานการสำรวจการปลูกฝิ่น ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จัดทำขึ้นโดย สำนักงานว่าด้วยยาเสพติด และอาชญากรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC พบว่า เมียนม่า ได้กลับขึ้นมาเป็นประเทศผู้ผลิตฝิ่น รายใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว โดยพื้นที่การเพาะปลูก ได้เพิ่มขึ้นถึง 18% เป็น 47,100 เฮกตาร์หรือ 294,375 ไร่ ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่เท่ากับระดับสูงสุด ในปี 2013 ซึ่งมีพื้นที่มากถึง 53,000 เฮกตาร์ แต่ไฮไลต์ของเราวันนี้ คือเรื่องของกัมพูชาและลาว ที่ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับชาวไทยเป็นจำนวนมากเท่านั้น และยังเป็นเรื่องที่อาจจะคลายข้อสงสัยด้วยว่า ทำไมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูขา จึงมักจะอำนวยความไม่สะดวก ให้กับเจ้าหน้าที่จากประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย ในการเข้าช่วยเหลือ เหยื่อที่ถูกหลอก ให้เข้าไปทำงานกับแก๊งคอลเซนเตอร์ แม้ว่าบางคน จะสมัครใจเดินทางไปทำงานเองก็ตาม และเจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านั้น ก็ได้ดิบได้ดี ในรัฐบาลของนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของกัมพูชา บางคนเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา ตามที่ช่องของเรา ได้เคยนำเสนอไปแล้ว เมื่อหลายเดือนก่อน
ที่มา: www.rfa.org/en...
ติดตามช่องของเราได้ที่นี่ FaceBook / thailand.theworld