ทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษ (Special relativity)︱Sophia Podcast EP.3

Рет қаралды 19,149

Amarinbooks

Күн бұрын

Пікірлер: 40

@werashine277 Ай бұрын

ชอบการ อธิบายของ อ. มากครับ เปรียบเทียบได้เข้าใจง่าย❤

@Amarinbooks Ай бұрын

จริงค่ะ ทำให้เรื่องยากๆ เข้าใจง่ายมาก💕

@adison-in3xe Ай бұрын

มาถูกทางแล้วครับ เรื่องน่าสนใจมากๆ ทำต่อไปนะครับ สู้ๆ

@Amarinbooks Ай бұрын

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ รอคลิปต่อไปได้เลยย

@ยุทธนาพรพิทักษ์ Ай бұрын

ชอบความรู้ผ่านการเล่าแบบนี้ ขอบคุณครับ

@Amarinbooks Ай бұрын

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ

@wahoobear6588 Ай бұрын

เคยเห็นสมการเวลายืนหด ที่ประตูห้องส้วม central ลาดพร้าว

@LoveAndLifeBites Ай бұрын

ผมตามไม่ทันครับ แต่ผมก็ฟังจนจบนะครับ ชอบมากครับ

@Amarinbooks Ай бұрын

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ติดตาม

@warathitsirilet9664 Ай бұрын

ตั้งใจรอคลิปนี้มากครับ

@Amarinbooks Ай бұрын

ขอบคุณสำหรับการติดตามมากๆ เลยนะคะ💗💗

@plawan00021 Ай бұрын

ไมค์มีนอยส์เยอะมากๆเลย พอดแคส อยากให้ทีมงานเน้นเรื่องคุณภาพเสียงนิดนึง เดาว่าเป็นการตั้งค่าที่ไม่สัมพันกันของกล้องกับไมค์นะ

@sayompooj4280 Ай бұрын

ชอบมากครับ

@Amarinbooks Ай бұрын

ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ🙏🏼

@sayompooj4280 Ай бұрын

EPหน้ามาวันไหนครับแอ๊ด@@Amarinbooks

@sarutino Ай бұрын

เพิ่งมาติดตามครับ ทำไมใช้ชื่อรายการ Sophia Podcast ครับ?

@nattapolpunpaen2539 Ай бұрын

ผมติดตามอัลเบิร์ตมานาน ตอนนี้ผมจำลองสิ่งที่กว้างใหญ่ที่สุดในจักรวาลได้แล้ว

@flytolek Ай бұрын

ตามมาจาก2EP ก่อนครับผม

@Amarinbooks Ай бұрын

ขอบคุณนะคะ ดีใจมากเลย😊

@redfanartist4393 Ай бұрын

อยากให้แปล Origin of Time ครับ ของศิษย์เอกฮอว์กิ้ง

@Amarinbooks Ай бұрын

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆ เลยค่ะ🙏🏼

@tiger-xc8sd Ай бұрын

มันมีมวลครับ เกาะกันเป็นผลึกมีส้มแดงน้าตาลขาวใสเปลือกนอกคล้ายอุกาบาต และเติบโตอยู่ตลอดเวลา"สามารถยืดอายุสิ่งมีชีวิตได้"ที่อยู่ใกล้ ครับ

@เทอดชนถนอมวงศ์-ม5ฏ 14 күн бұрын

ความรู้ทางฟิสิกส์เราได้มาจากชาวตะวันตกทั้งสิ้น ต้นกำเนิดของวิชาอยู่ที่ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งสมมุติหรือจินตนาการ ความไม่เข้าใจเกี่ยวกับเวลา แสง แรงโน้มถ่วง ทำให้การจินตนาการผิดไปด้วย ผู้เริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับจักรวาลก็คือบาทหลวงบิ๊กแบง ไอสไตน์คิดอยู่ในกรอบของบิ๊กแบง ในเมื่อบิ๊กแบงมิได้เกิดขึ้นจริง ส่งผลให้ไอสไตน์ผิดทั้งหมด แต่กรอบความคิดของไอสไตน์เกี่ยวกับความสัมพันธภาพนั้นยังใช้ได้ แต่ต้องเปลี่ยนเนื้อหาความสัมพันธภาพพิเศษเป็น "สิ่งของสองสิ่งอาจมีความสัมพันธภาพพิเศษต่อกันได้"

@swangleewatanakarn7701 Ай бұрын

มันเรียกพิเศษเพราะ มันเป็นเพียงกรณีเฉพาะ ของกรอบอ้างอิงเฉื่อย เอาจริงๆกฎนิวตันข้อแรกก็นับเป็นกรณีพิเศษของกฎข้อที่สองได้ ถ้ามองว่าเป็นเคสที่พิจารณาความเร่งเป็นศูนย์

@VK99.209 Ай бұрын

ถ้าผมโดนเวี่ยงเป็นวงกลม แสงเด้งอยู่กับที่ ืแสดงว่าผมจะเห็นความยาวของสิ่งที่มัน เด่งมันต้องหดลง

@สังข์วาลย์เฉลิมเชื้อ-ฐ1ม Ай бұрын

ใช้นวัตกรรมของควันตำสิคับเป็นมิตกับสิงแวดร้อม😅😅😅😅😅

@สังข์วาลย์เฉลิมเชื้อ-ฐ1ม Ай бұрын

นิวออนคือรังสี

@SatianPanyajarern Ай бұрын

Einsteinพยายามรวมแรงทั้ง4ที่จะนำไปสู่การคิดค้นทฤษฎีสรรพสิ่ง แต่เขาก็ต้องมาตายเสียก่อน และยังทิ้งคำถามไว้ก่อนตายว่า มนุษย์เกิดมาเพื่ออะไร แท้จริงแล้ว ทฤษฎีสรรพสิ่งคือ ทฤษฎีสัมพันธภาพสิ่งตรงข้าม ซึ่งพระพุทธองค์ทรงคิดค้นทฤษฎีดังกล่าวนี้เมื่อกว่า2500ปี ดังนั้นจึงขอเล่าเรื่องย่อเกี่ยวกับพระพุทธองค์ทรงค้นพบทฤษฎีดังกล่าว ดังต่อไปนี้ ในสมัยโบราณ กษัตริย์ทุกพระองค์ในโลกรวมทั้งพระพุทธเจ้าจะต้องเรียนรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นภาคบังคับ สำหรับวิทยาศาสตร์นั้น ได้แก่ ดาราศาสตร์ ดังนั้นในยุคของชาวเมโสโปเตเมียที่ย้อนไปประมาณ6,000ปี ซึ่งมีความรู้ทางด้านดาราศาสตร์จนสามารถทำปฏิทินให้เราใช้มาถึงปัจจุบันนี้ ส่วนคณิตศาสตร์นั้น เช่น ตรีโกณมิติ เลขาคณิต พิชคณิต แคลคูลัส คุณร่วมมากหารร่วมน้อย เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งเท่าที่มีหลักฐานการค้นพบคณิตศาสตร์ดังกล่าวนี้มีมาตั้งแต่ประมาณ400ปีไปจนถึงประมาณ6,000ปี อย่างไรก็ตาม สมัยอียิปต์โบราณประมาณสองพันปี ซึ่งฟาโรห์พระองค์หนึ่งถึงกับทรงถามราชครูว่า ทำไมคณิตศาสตร์ถึงเรียนยาก และสมัยอินเดียโบราณกว่าพันปี ซึ่งพราหมณ์คุปตะใช้ตรีโกณมิติคำนวณหาระยะทางที่แม่นยำระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม พระพุทธองค์ทรงเอาความรู้ทางดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานนำไปสู่การคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า ทฤษฎีสัมพันธภาพสิ่งตรงข้าม ดังนั้นจึงมีการค้นพบศิลาจารึกของพระพุทธองค์ ซึ่งเป็นศิลาจารึกเหตุผลเกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่ แท้จริงแล้ว ศิลาจารึกดังกล่าวนี้คือ ทฤษฎีสัมพันธภาพสิ่งตรงข้ามนั่นเอง ซึ่งนำไปสู่ความรู้เรื่องจิตเชิงวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า โปรแกรมจิต นอกจากนี้แล้ว พระพุทธองค์ทรงคิดค้นเรื่องเอกภพเชิงคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า เวลาไร้ขีดจำกัดและเวลามีขีดจำกัด อย่างไรก็ตาม ความรู้เรื่องจิตเชิงวิทยาศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการทางจิตเชิงคณิตศาสตร์ตามทฤษฎีสัมพันธภาพสิ่งตรงข้ามเพื่อบรรลุเวลาไร้ขีดจำกัด ดังนั้นในที่สุดแล้ว พระพุทธองค์สามารถคิดค้นกระบวนการทางจิตดังกล่าว เรียกว่า การทำสมาธิ ซึ่งในที่สุดแล้ว พระพุทธองค์บรรลุกระบวนการทางจิตดังกล่าว กล่าวคือ พระพุทธองค์บรรลุเวลาไร้ขีดจํากัดนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่บรรลุเวลาไร้ขีดจํากัด สำหรับศาสนาพุทธเรียกอีกนัยหนึ่งว่า ผู้ที่บรรลุนิพพาน ส่วนศาสนาฮินดูเรียกอีกนัยหนึ่งว่า ผู้ที่บรรลุอมตะ ดังนั้นจึงขอตอบคำถามไอสไตน์ว่า มนุษย์เกิดมาเพื่อที่จะบรรลุอมตะนั่นเอง ทั้งนี้เพราะว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่มีศูนย์รวมระบบกลไกเซลล์ประสาทสลับซับซ้อนถึงขีดจำกัด ดังนั้นมนุษย์สามารถเข้าถึงกระบวนการทางคณิตศาสตร์เพื่อการทำสมาธิ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็จะทำให้รู้ว่า การทำสมาธินั้นมิใช่เรื่องง่าย แต่การทำสมาธิในปัจจุบันนี้คือ การทำสมาธิที่เป็นไปมิได้โดยสิ้นเชิง

@Amarinbooks Ай бұрын

ขอบคุณที่จะมาร่วมแชร์ความรู้นะคะ🙏🏼