VLOG EP318 เพราะอะไรลำโพงถึงพังจากการใช้งาน?

[@yo2k278]

เปิดโลกมากเลยครับ...ความรู้จากคนรู้และมีประสบการณ์จิง ขอบคุณมากครับ...เป็นกำลังใจให้...ทำสิ่งดีๆอย่างนี้ต่อไปนะครับ

[@ttasac]

ขอบคุณครับ อย่าลืมกดไลค​์ Facebook Page ของผมด้วยนะ

[@คุนชายอะไรก้ได้]

สอบถามหน่อยระหว่างเล่น2ทางกับ3ทาง ต่างกันอย่างไร

[@manginoonvariety532]

สุดยอดจริงๆครับ เข้าใจง่ายมากๆ

[@jijii37]

ว่าด้วยเทคนิค ล้วนๆ เข้าใจง่าย เข้าใจมากขึ้น ขอบคุณ

[@ttasac]

ยินดีย์ครับ

[@PS-ph1xd]

เรื่องแบบนี้แหละครับที่คุยกับใครก็ไม่เข้าใจ​ ทุกวันนี้ก็ เลยต้องมาFCคุณโตนี่ไง แลัวพากันท่องอวกาศในโลกความถี่

[@ttasac]

พงค์สุริศ ศรีวิจิตกร เสียงเดินทางในอวกาศไม่ได้นะ

[@วิทยาตุ้มทอง]

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆคับ

[@ttasac]

วิทยา ตุ้มทอง อย่าลืมกดไลท์ Facebook pages ของผมด้วยนะครับ

[@2011luckyim]

เจอบ่อยครับ ตามซ่อมเก็บขี้จากคนที่ไม่มีความรู้ เนื่องจากทำไมค์หอน

[@ttasac]

บุญช่วย เกิดผล ถ้าระบบจัดการอย่างถูกต้องโอกาสขาดแทบไม่มีเลย

[@user-qt5ry4bz2h]

Decoder dac 5.1 ไช้แทนซาวกาดต่อไมเข้าคอมได้มั้ยคับ ละถ้าไช้สายไม usb ต่อเลยกับผ่านซาวกาดเสียงต่างกันมากมั้ยคับ

[@ttasac]

K๑ DAC คือขาออกอะ ยกเว้นแต่มีรูเสียบไมค์ ถ้าเป็นหัว 3.5mm เหมือนกับ soundcard มันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับ

[@FACEBOOKSURGICALMASK]

สุดจริงๆๆฮ่ะ

[@dogaudy5743]

เยี่ยมครับ

[@อ้อฟอ้อฟ-ย3ฌ]

ได้ความรู้มากเลยครับ

[@ttasac]

อ้อฟ อ้อฟ กดไลท์ Facebook pages ของผมหรือยังครับ

[@praewnalin7991]

กดติดตามแล้วนะครับอาจาร์ย

[@ttasac]

งั้นต้องกดไลค์ Facebook Page ของผมแล้วล่ะ

[@surasiri117]

สอบถามครับ ผมขอยกตัวอย่างลำโพงรุ่นนี้ www.bowerswilkins.com/home-audio/603 ซึ่งจาก spec ระบุ amplifier power อยู่ที่ 30-200watt 8ohm ไม่ได้ระบุเป็น power handling ค่าเดียวแบบที่คุณโตยกตัวอย่างครับ ที่ผมสงสัยคือ ถ้าเราเอา amp 30,40 watt ไปขับจริงๆ มันจะไหวเหรอครับ

[@PJSOFT]

อยู่ที่การใช้งานครับ ในบ้านทั่วๆไปวัตต์เดียวก็ลั่นห้องแล้วครับ ลำโพงทั่วๆไป Sensitivity วัตต์นึงดังอย่างน้อย 80-90 dB ดังประมาณเสียงคนตะโกนหรือเสียงเลื่อยโซ่เลยครับ เพราะฉะนั้น 40 Watt นี่ก็ลั่นซอยแล้ว แต่ถ้าคิดว่ามีโอกาสได้ใช้นอกสถานที่หรือในห้องจัดเลี้ยง ก็ควรหันไปใช้แอมป์วัตต์สูงๆแทน หรือไม่ก็ซื้อไว้ทั้งสองตัวครับ....

[@ttasac]

อยู่ที่ประเภทของสัญญาณที่เราปล่อยออกลำโพงครับ ถ้าปล่อยแค่สัญญาณทดสอบที่มี Dynamic Range แคบเช่น Pink Noise หรือ Sine Wave แนะนำให้ใช้ภาพขยายกำลังต่ำไว้ เพราะ power handling ลำโพง จะลดลงเนื่องจากเกิดความร้อนต่อเนื่อง แต่ถ้าปล่อยสัญญาณที่ Dynamic Range สูงกว่านั้นเช่นดนตรี ก็สามารถใช้แอมที่กำลังเพิ่มขึ้นได้ครับ

[@surasiri117]

โอ้ว เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณทั้งสองท่านครับ

[@aoodaoody6064]

แอมที่วัตน้อยกว่าสามารถทำให้ลำโพงที่มีวัตมากกว่าขาดได้ คือถ้าแอมไปถึงค่าวัตต์โปรแกรม(×2)ซึ่งก็จะมากกว่าลำโพง และเปิดไปซักพักนึงจนวอยระบายความร้อนไม่ทันจึงขาดใช่ไหมคับ

[@ttasac]

ใช่ และสถานการณืนั้นเกิดจากคุณถีบจน Clip ครับ

[@napakerdpao6969]

สุดยอดครับ

[@ttasac]

ไลค์ Facebook Page ของเราหรือยางง

[@boronn888]

ใช้งานจริงแค่ 15 wattsก็พอเพียง ไม่ต้องมากไปถึง100 Watts หรือมากกว่าครับ ฟังดูก็รู้ ดูอาการสั่นถ้าเพี้ยนจนผิดปกติ ทั้งกรวยและเสียงก็ลดเสียงลงเท่านี้ก็ปลอดภัยครับ หูคือตัววัดอย่าไปวิชาการมากจนเว่อร่

[@ttasac]

แต่อย่าลืมว่าอุปกรณ์เหล่านี้สร้างขึ้นมาด้วยทฤษฎีวิทยาศาสตร์ หูของมนุษย์ได้รับการวิจัยออกมาแล้วว่าเป็นเครื่องมือชี้วัดทางคุณภาพที่มีความคลาดเคลื่อนสูงสุด ในฐานะที่ผมทำมาหาเลี้ยงชีพในอุตสาหกรรมเสียงมืออาชีพ ถ้าพวกผมใช้แค่หูฟังอย่างเดียวก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ในงานเสียงมืออาชีพบางทีใช้กันจนถึง 10,000 หรือ 20,000 วัตต์เลย แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะดังหรือค่อยเกินไป และถ้าพิจารณาจากวิทยาศาสตร์อย่างตรงไปตรงมา ผมไม่สนใจกำลังทางไฟฟ้ามากไปกว่าความดังและความครอบคลุมที่มันสร้างขึ้นมาได้ครับ ดังนั้นสิ่งที่ผมทำไม่ได้เว่อร์เกินความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว อุปกรณ์ชิ้นใดสร้างขึ้นมาจากทฤษฎีวิทยาศาสตร์ก็ต้องใช้วิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบย้อนกลับและประเมินเชิงปริมาณและคุณภาพเสมอ ผมไม่ล่ะหลวมแค่ใช้หูทำงานหรอกครับ

[@boronn888]

ถูกต้องไม่ใช่ถูกใจ เสียงถูกต้องตามธรรมชาติของต้นกำเนิดเสียง ไม่ต้องเติมสีสันให้มันเพี้ยนแล้วบอกว่าถูกใจ ใช้เครื่องมือมีระดับวัดสเป็คเหมือนกัน100% ทุกรายการแต่ทดสอบฟังดัวยหูเสียงต่างกันคนละเรื่อง คนส่วนมากยังสับสนไม่รู้ว่าเสียงดีคือ? ที่จริงคือถูกต้องมากกว่าถูกใจครับ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกเรื่องครับ

[@ttasac]

@@boronn888 1. อะไรก็ตามที่ออกจากลำโพงไม่มีทางถูกต้องตามธรรมชาติของต้นกำเนิดเสียงอยู่แล้วครับ เพราะต้นกำเนิดเสียงแต่ละอย่างมีโครงสร้างทางกายภาพไม่เหมือนกัน ลำโพงประกอบไปด้วยขดลวด, แม่เหล็ก, โคน ฯลฯ มัน Colour หรือทำให้เสียงผิดเพี้ยนไปจากเดิมตั้งนานแล้ว ไม่มีทางเหมือนต้นกำเนิดได้อย่างแน่นอน (และลำโพงไม่ได้สร้างทุกความถี่พร้อมกันอีกด้วย) 2. การเติมสีสันจะทำกันในฝั่งศิลปะในงานเสียงมืออาชีพนั่นคือกระบวนการ Mixing&Mastering แต่ถ้าพูดกันถึงฝั่งวิทยาศาสตร์จ๋าคือคนปรับจูนระบบเสียง ไม่เคยมีการเปลี่ยนสีสันของระบบเลยแม้แต่น้อย มีแต่เพิ่ม/ลดความดังของแต่ละความถี่และเวลาของการมาถึงเท่านั้น ถ้าระบบเสียงมีบุคลิกอุ่นหนาหวานหรือพุ่งฟังสนุกขนาดไหน ในตอนท้ายมันก็ยังเป็นแบบนั้น ดังนั้นผมจึงใช้เครื่องมือในการรีดประสิทธิภาพระบบออกมาให้สูงสุด ใช้หูไม่ได้ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางรู้เลยว่าระบบจะเสี่ยงต่อความเสียหายขนาดไหน ระบบเสียงมืออาชีพจะต่างกับลำโพงบ้านก็ตรงนี้แหละ 3. เครื่องมือวิทยาศาสตร์เป็นฝั่ง "ถูกต้อง" ไม่ใช่ "ถูกใจ" เพราะสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปหาตัวแปรต้น, ตัวแปรตาม และตัวแปรควบคุมได้ตลอดเวลา ส่วน "ถูกใจ" จะใช้หูทดสอบก็ไม่ได้ว่าอะไร ถึงแม้เครื่องมือปัจจุบันจะสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ถึงบุคลิกเสียงของลำโพงหรืออุปกรณ์บ้างแล้วก็ตาม 4. ระบบที่ดีต้องมีค่าชี้วัดเป็นรูปธรรมด้วยอุปกรณ์และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตรงตามประสงค์ของการใช้งาน มักจะเสียงดีด้วยการฟังเสมอ ไม่มีผู้ผลิตรายใดจงใจผลิตสินค้าที่ benchmark ออกมาด้วยเครื่องห่วยแตกสิ้นดีแล้วเอามาขายราคาแพงเพราะเสียงดีหรอกครับ แบบนั้นเขาเรียกว่า "ฟลุ๊ค" เช่นหูฟัง in-ear ยี่ห้อนึงที่ขายกันแค่ 199 บาทแต่เสียงดีเท่ากับหูฟังตัวละสองพันเป็นต้น 5. ของที่สร้างขึ้นมาด้วยกระบวนการและทฤษฎีวิทยาศาสตร์ ต้องถูก benchmark ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ก่อนเสมอ เพราะมันคือสิ่งประดิษฐ์ ส่วนจะใช้แล้วรู้สึกดีหรือไม่ ก็อยู่ที่คนใช้ครับ

[@boronn888]

@@ttasac รู้สึกว่าอัตตาสูงมากยึดติดวิทยาศาสตร์ขึ้นสมองซีกซ้ายจนลืมสมองซีกขวาไปเลย ถูกหูคือนานาจิตตัง มันก็สรุปไม่ได้ว่าเสียงดีคือ? ถูกต้องมันง่ายคงเข้าใจผิดมั้ง ก็เทียบกับเสียงจริงสิครับ ลองเล่นเบส กลองฉาบจริงไม่ผ่านเครื่องเสียงเทียบกันได้เครื่องมือจะมาเทียบได้ไงถ้าไม่ใช้หูมนุษย์ ผมใช้หูฟัง SONY MDR E 484 30 ปีกว่าแล้วเสียงธรรมชาติขั้นเทพความไว 108 dB/mWความถี่เสียง 8-27000Hz ซับวูฟเฟอร์อาย ตัวหูฟังทำจากเซรามิค นี้คือเสียงจริงครับเล็กนิดเดียวก็ดังได้เท่าของจริง เทียบได้กับ B&W 805/801 /Matrix3 ฟังกับ No 39 /No33 Mark Levinson เสียงแทบไม่ต่างกันดังพอกัน ถ้าเอาวิทย์กายภาพมาอธิบายไม่ง่ายนะครับ สำหรับผมใช้สติปัฏฐาน4(พลังสติ)มี่ติดตัวมาแต่เกิดไม่ต้องฝึกเพราะด้วยบุญบารมีครับ จนเข้าถึงพุทธะ(ผู้รั..) ฟิสิคส์ทางกายภาพล้าหลังพุทธมากกว่า2000ปีเขารู้กันทั่วโลก ผมคันพบนวัตกรรมด้วยพลังสติหลายรายการทั้งที่ความรู้ฟิสิกส์มัธยม ทั้งอืเล็คทรอนิกส์และไฟฟ้า ค้นพบพลังงานฟรีรถไฟฟ้าไร้แบต power amplifier.. และอีกหลายรายการ พุทธะคือญาณหยั่งรู้ครับ ถ้าไปยึดติดแต่วิทยาศาตร์มันก็จบตรงนั้นยากที่จะไปต่อ ที่สำคัญต้องใช้กาลามสูตร10ข้อก่อนที่จะเชื่อ นวัตกรรมได้จากจินตนาการแล้วปล่อยวางทุกอย่างจะมาเองครับ

[@SA-te7ye]

@@boronn888 แล้วทำไมหลายๆคนฟังเพลงเดียวกัน เวลาเดียวกัน บางคนบอกว่าเพราะบางคนบอกว่าไม่เพราะ จะเอาอะไรมาตัดสินว่าเสียงที่ปรับออกมาดีหรือไม่ดี อาจเป็นเพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ความสามารถของการได้ยินไม่เท่ากัน คุณบอกว่าดีแต่คนอื่นบอกว่าไม่ดี คุณบอกว่าไม่ดีแต่คนอื่นบอกว่าดี เอาไงดีทีนี้สรุป เสียงมันดีหรือไม่ดีกันแน่ ถ้าคิดว่าหูฟังดูก็รู้ละ ว่าไงท่านหลอด

[@ArphichayaTuysanwong]

จารมีเฟสไหมครับ

[@ttasac]

กดค้นใน Facebook ว่า totingtongaudio ได้เลยครับ

[@难符小白虎]

แวะมาทักทาย​ 😄​

[@ttasac]

ยูจีน เมืองน่าน ทักๆๆ

[@saharatsrusajoe6192]

ความร้อนทำลายทุกอย่างในลำโพงจริงๆเลยคับ

[@ttasac]

ส่วนใหญ่ที่ลำโพงพังก็เพราะเหตุผลนี้แหละ

[@วัฒนาฉัตรนําภู]

เสียดายลำโพงPAชั้นดีมือสองจากต่างประเทศเอาเข้ามาในนี้​ ส่วนใหญ่วงดนตรีPAบ้านเราทำเจ๊งหมดเพราะไม่มีความรู้

[@ttasac]

ผมเห็นต่างนิดนึงอะ คือลำโพงราคาแพงมักมาพร้อม Controller ซึ่งโรงงานได้ปรับจูนให้รีดประสิทธิภาพลำโพงได้มากที่สุด แต่เวลาเอามาขายมือสองมักไม่ค่อยมีเพราะระบบเสียงหนึ่งระบบอาจมีลำโพงหลายร้อยใบแต่ Controller ตัวเดียว อีกสาเหตุคือคนไทยเห็นว่า Controller แพงเลยไม่ได้ซื้อมาก็มีครับ

[@สุรชัยมะโฮง]

@@ttasac า​64,900? บ

[@nuttichatclassdchanal4549]

Fcพี่โตครับ

[@ttasac]

Nuttichat Kumma ต้องกดไลท์ Facebook pages ของผมแล้วล่ะ

[@savymodify0105]

fcครับผม

[@ttasac]

Savy Love งั้นต้องกดไลท์ Facebook pages ของผมแล้วล่ะ

[@silavong1960]

จัดเจน

[@ttasac]

sila vong ต้องไลท์เพจ Facebook ของผมแล้วล่ะ

[@54321abcd]

มันต้องมีคนคิดแย้ง แต่ก็เรื่องของเค้า

[@ttasac]

วรินทร แก้วบุญฤทธิ์ ใช่ ๆ ท้ายสุดเจ้าตัวต้องตัดสินใจเอง

[@jansaenaudio2112]

พังเพราะความไม่รู้ คนที่รู้และเจ้าของเครื่องที่เก่งๆ หรือเจ้าของเครื่องระบบใหญ่ๆ เวลาใช้งานของจะไม่ค่อยพัง...จะพังก็เพราะอุบัติเหตุ หรือเหตุสุดวิสัย

[@อัสวินดิจิตอล]

ใช่ครับ เรื่องสุดท้ายที่คุณโตยกมาพูดคือ C ที่ใช้อนุกรมกับเสียงแหลม เรื่องนี้ถกกันไม่ลงจริงๆ ต่างคนต่างมีเหตผล ของตัวเอง ว่าเราตัดครอสไปแล้วจะมาคร่อม C อีกทำไม ส่วนคนที่คร่อม C ก็บอกว่า กันขาดมั่งล่ะ เสียงกลมกล่อมมากขึ้นล่ะ บลาๆๆๆๆ แต่ผม เอาแบบบ้านๆ ถึงตัดครอสแล้วก็ยังคร่อม C เพราะบางงานลูกน้อง ถอดสายลืมลดโวลลุ่มหน้าแท่น ผล ดอก 750 ขาดกระจาย (ว๊อยแท้ด้วย) บางงานแหลมเสียงครอกๆแครกๆก็ขยับสายเอาดื้อๆตรงมิกซ์หน้าเวที กระชากทีแหลม ขาดกระจุย พอเอา C ใส่ แทบไม่ขาดจากอุบัติเหตุดังกล่าวเลย

[@ttasac]

อัสวิน ดิจิตอล ที่ไม่ขาดนั่นเป็นเพราะว่าตัวเก็บประจุที่คร่อมลงไปมันก็คือ hi-pass filter อีกชั้นไงครับ

[@ttasac]

ส่วนใหญ่แถมไม่พังเลยเพราะผู้ผลิตเค้าคิดมาให้แล้ว แต่พวกเราหลายคนก็งบไม่ถึงที่จะซื้อของระดับนั้นซึ่งเข้าใจได้

[@jackgooo5944]

ปรมจารย์นี้หว่า

[@ttasac]

Jack Gooo ผมทำงานแล้วใช้เป็นประจำครับ