VLOG EP483 บ่นลูกค้า "ทำไมไม่ให้โอกาสคน?"

เป็นการเจรจาต่อรองที่ลึกล้ำที่สุดที่ "โต ติงต๊อง" เคยพบเคยเจอ
.
---
ถ้าชอบสิ่งที่เรานำเสนอ กรุณาทำดังนี้
1. Share Video ตอนนี้ออกไปให้มากที่สุด เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
2.Subscribe KZbin Channel "โต ติงต๊อง" สามารถ Search ใน KZbin ได้เลยย
3. Like Facebook Page ของเราเพื่อติดตาม Video ที่จะออกทุก ๆ สองวันได้ที่ / totingtongaudio
4. โทรหาเราได้ที่ 085-803-8791 หรือ เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ www.productionthai.com
---
ต้องการพัฒนาตัวเองในสายงานโปรดักชั่นไหมล่ะ? ถ้าใช่สามารถดูคอร์สสัมมนาของ “โต ติงต๊อง” ได้ที่ www.productionthai.com/คอร์สสั...
---

[@studio7173]

จริงของพี่นะ เเต่วิธีสื่อสารพี่นี้เเสบจริงๆนะ 555555 // รักพี่นะพี่โต

[@jippujibbiiz1860]

FCบ่นลูกค้าครับ

[@surachatsompoi7202]

เป็นเรื่องที่น่าสนใจครับ ...

[@annoprakdee3345]

ติดตามครับคุุุุณโต

[@E22YRB]

นี่แหละครับคือ NGO ของจริง การต่อรอง ทักษะการพูด น้ำเสียงที่ใช้สุดยอดมาก ยิ่งกว่าพวก life coach อีก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรือทุกองกรณ์กรครับ ผมเจอแต่แบบพูดง่ายๆ อะไรก็ได้ พอไหมไม่พอบอกพี่ได้ เที่ยงกินอะไรเลือกมา เย็นกินอะไรดีช่วยออกความคิดหน่อย ถามน้องๆในทีมเลย บางงานหิ้วขนม น้ำมาฝากอีก

[@row3625]

8:15 เป็นเทคนิคหลอกล่อง่ายๆ key ก็คือ "ถ้าไม่ทำให้ผม คุณจะรู้สึกผิด" แน่นอนว่า คนโดยปกติไม่อยากรู้สึกผิด เลยมักจะทำตามสิ่งที่เขาเสนอให้ แต่ว่าการที่เทคนิคนี้ไม่ได้ผลกับคุณ แสดงว่าคุณทำงานโดยยึดถือหลักการและมองความเป็นจริงได้ เทคนิคนี้เลยใช้ไม่ได้ผล

[@nontawatpimsanthia8233]

ขอชื่นชมคุณโตครับว่าคุณโตเป็นคนที่ออกเสียงอักขระได้ชัดท่อยชัดคำมาก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เท่าที่ติดตามดูมามีแค่สองคำที่อยากให้คุณโตแก้ไขออกเสียงให้ถูกต้องครับ อันแรกคือคำว่าปกติ คุณโตมักจะออกเสียงว่า ปก-ติ ซึ่งการออกเสียงที่ถูกต้องของสองคำนี้ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน และที่คนใช้กันทั่วไปมีสองแบบคือ ปก-กะ-ติ และ ปะ-กะ-ติ ครับ อันที่สองคือทุกคำที่มี ท. อยู่ในคำนั้นด้วยครับ คุณโตมักจะออกเสียง ช. นำท. เสมอ เลยครับ อยากให้แก้ไขด้วยครับผม สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณโตที่ให้ความรู้ดี ๆ เสมอมาครับ ขอบคุณครับ

[@ttasac]

คำว่าปรกติและปกติผมใช้เป็นประจำและจะไม่เปลี่ยนให้เป็นอย่างอื่น เพราะผมไม่ได้ทำให้ถูกหลักภาษาไทย แต่ทำเพื่อให้ตัวเองซึ่งติดอ่างและมีพังผืดเกาะเส้นเสียงสามารถพูดต่อได้โดยที่ไม่เค้นลำคอจนเกินไปครับ ตรวจสอบเรื่อง "ท" เป็น "ช" แล้ว สรุปเกิดจากรูปปากผมที่ผ่อนไม่ให้ลมเข้าไมโครโฟนครับ และถ้าฟังดี ๆ ยังเป็น "ท" อยู่ ช่องปากและคอแต่ละคนจะทำงานหนักเบาต่อการสะกดพยัญชนะบางหรือสระบางตัวแตกต่างกันครับ

[@nattho2387]

@@ttasac ของผมติดอ่าง(แบบแท้ๆ)ก็เป็นครับ มีปัญหากับ น. ณ. ป. และ อ. ให้พูดชื่อที่นำหน้าด้วยตัวอักษรเหล่านี้นี่เหงื่อตกทุกที มีพังผืดที่ใต้โคนลิ้น แลบลิ้นได้เต็มที่เหมือนลิ้นจุกปาก ไม่สามารถกระดกลิ้นพูด ร. ได้ สังเกตคนใกล้ตัวที่ปกติ ทุกคนจะแลบลิ้นยาวได้เลยริมฝีปากล่างกันทุกคน...ซึ่งของผมแลบได้ยังไม่พ้นช่องปากเลย

[@zightdavansia9713]

เสียดายแฮะ ประสบการณ์เหล่านี้ เขียนเป็นหนังสือไม่ได้ ไม่งั้น ประโยชน์จะเกิดขึ้นมากมายกับอีกหลายคนเลยครับ คุณคือ อาจารย์พิเศษได้เลยล่ะครับคุณโต นับถือความรู้ ความสามารถครับ

[@ttasac]

เขียนได้ แต่ต้องรัดกุมมาก ไม่งั้นโดนฟ้องตายห่า

[@zightdavansia9713]

@@ttasac จริงครับ มันคือการพาดพิงเสียมากเลยทีเดียว แต่ "ถ้าไม่พูดว่าใคร" นั้นก็ไม่ถือว่าพาดพิงนะครับ เนื่องจาก "กว้างเกินไป" อาญา ถ้าจะเอาผิด...ต้องเฉพาะเจาะจง

[@channel.400]

สอนให้รู้ว่า ต้องคุยให้เรียบร้อยก่อนจะเซ็นสัญญา

[@PhattaArt]

ไอ้พวกที่ชอบพูดโน้มน้าวใจคนอื่นนี่โครตเกลียดเลย นึกว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ แต่หาความตรงไปตรงมาไม่ได้ นักขายหรือเซลล์ต่างๆที่ชอบใช้เทคนิคเยอะๆพูดหลอกคนให้คล้อยตามนี่ไม่ได้แดกกหรอก

[@daddydoooo]

NGO แต่อยากเอาเปรียบคนอื่น 😂😂

[@seribhinthusuttinant99]

คู่ค้ารายนี้เชี่ยวชาญเทคนิคการเจรจาแบบ NGO จริงๆด้วย

[@b.a.k.ch.1273]

ทำไมสะใจเวลาพี่พูดว่าเจอกันในศาล555

[@ttasac]

ตอนพูดนี่อย่างลุ้นนะ กูต้องจ่ายค่าทนายอีกหรือเปล่าหว่า... ถ้าเป็นไปได้ตกลงนอกศาลให้จบดีกว่า เพราะเปลืองทั้งเงิน, เวลา และสภาพจิต

[@b.a.k.ch.1273]

@@ttasac อยากได้เจ้านายแบบพี่ คำว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คือวลีประทับใจเลยคับ

[@user-rf7xq3yj7v]

ต้องจิตแข็งพอสมควรเลย

[@sfnzero]

ผมนับถือคนที่มีสติตอบโต้มาก ผมอ่อนตรงจุดนี้ จึงโดนถูกเอาเปรียบเป็นประจำๆทุกวันจนถึงทุกวันนี้ มันเหนื่อยและแย่มากๆ ใจดีไม่เข้าเรื่องก็จะถูกเอาเปรียบเสมอๆ

[@Kino14153]

9:11 เเล้วจะเขียนสัญญาขึ้นมาทำเฮียไร 😅

[@ahobaka7413]

เม้น แรก ผ่าม!

[@suphawit007]

9:50 เพราะเขาพยายามหลอกล่อคุณพยายามคุยเขาไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการครับ ซึ่งผมว่าก็ดีแล้วที่ คนที่ดูนิสัยไม่ดีจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการไม่งั้น คุณโตติงต้องคงเสียเปรียบไปกับคนแบบนี้

[@nuttavut2528]

🤎

[@bikenoker5022]

ผมเลิกรับงานใน กทม และ เรื่องมากวุ่นวาย รับงานวัดตามบ้านนอกดีกว่า เหนื่อยแต่สบายใจ คนจ้างไม่หัวหมอ

[@ttasac]

อยากให้มองเป็นรายบุคคลไปนะ ใช่ว่ารับงานในกรุงเทพจะเจอแต่ลูกค้าแย่ ๆ เสมอไปสักหน่อย

[@armaadog]

แม่งโคตรแถสารพัดวิธีเลยครับพี่

[@ttasac]

ผมยอมใจเขาเลยครับ เมื่อก่อนเคยมีแผนจะเข้าคอร์สจิตวิทยาการพูด แต่เสียดายเงินและคิดว่าตัวเองแน่แล้วเลยไม่ได้ไป ครั้งนี้แหละเจอจัง ๆ เลยรู้ว่าเราช่างอ่อนหัดนัก

[@YuutaNatsukiOFFiCiAL]

คือแบบ "คืนเงิน ให้โอกาสทีมอื่นมาทำงานแทน" OMG ผมนี้เอียงคอแล้วอุทานว่า อิหยังวะ แบบนี้ได้ด้วยเหรอ

[@tanes4299]

Who r u number2?🙃

[@ttasac]

Who r u ?

[@tanes4299]

O..k.e...?🙃

[@MRwararit]

เกี่ยวอะไรละคนได้หน้าก็ NGO นิไม่ใช่ประกาศด้วยว่าได้การสนับสนุนจาก .............. พวกนี้โคตรเอาเปรียบเลย ไม่ใช่ว่าจะดี

[@djsaun_newgen]

น่าลำคานครับ พวกที่ไม่ทำตามCommand line กับพวกงานเซ้าซี้อยากได้แบบนู้น แบบนี้ อะครับ ปล. ความเห็นส่วนตัวอะครับ.

[@ttasac]

ขอแค่แฟร์พอ

[@watachinupok158]

ทีมอีก2ทีมเขาจะยอมไหม ทำงานเพิ่มขึ้น 12 ชม. จ่ายเท่าเดิม ตูไม่ยอมนะ55555

[@ttasac]

ใครจะยอม

[@bluebeblue861]

เป็นผมตอน หน้าจ๋อยมาขอจ่าย 25% ผมจะเพิ่มเป็น 40% เดี๋ยวนั้นเลย แล้วเชิ่ดทีนึง บอกว่า ข้อเสนอ 25% มันคือเมื่อ 2 วันที่แล้วครับ

[@ttasac]

ได้นะวิธีนี้ แต่ควรทำให้แนบเนียนที่สุด

[@nutkanok8860]

25% เลยเหรอ ผมรู้สึกเหมือนทางผู้จัดงานตั้งใจจะฟันเงินจากลูกค้า เพราะรู้อยู่แล้วลูกค้ามีเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเลื่อนงาน และด้วยเวลาน่าจะไปหาเจ้าอื่นไม่ทัน อีกทั้งได้เงินมัดจำมาอยู่ในมือแล้ว ก็เลยฉวยโอกาสนี้ คิดค่าใช้จ่ายเยอะเกินจริง ผมคิดว่าการให้ทีมงานมาก่อนเวลา ไม่น่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นขนาด 25% ของค่างานทั้งหมด (แถมคุณยังบอกอีกว่านี่ดีแล้วนะที่ไม่คิดถึง 50% โอแม่เจ้า) ผมไม่ได้บอกว่าคุณผิดนะ เพราะคุณอาจจะมองว่าทุกอย่างบนโลกนี้ต้องเถรตรงตามสัญญาไม่มีการยืดหยุ่นใดๆทั้งสิน ซึ่งมันก็ง่ายดี เน้นผลประโยชน์สูงสุดไว้ก่อนมันก็ดีกับองกรณ์ อย่างน้อยก็ในระยะสั้น แต่ถ้าเป็นผม เมื่อทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะเป็นงานบริการ ผมจะมองว่าเราเป็นพวกเดียวกันไว้ก่อน ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ผมก็จะให้คำแนะนำหรือช่วยหาทางแก้โดยที่ไม่เข้าเนื้อตัวเอง หากไม่มีทางแก้จริงๆผมก็จะคิดค่าใช้จ่ายตามจริง หรือคิดให้น้อยที่สุดโดยไม่กระทบต่อตัวเอง แต่จากคลิปนี้ผมไม่เห็นแม่แต่เพียงนิด ว่าคุณพยายามให้คำแนะนำหรือช่วยแก้ปัญหาใหลูกค้า ผมเห็นแต่ว่า ถ้าทำงานร่วมกับคุณ จะพลาดไม่ได้เลย ถ้ามีอะไรนิดนึงที่หลุดจากสัญญาไป คุณเป็นคนประเภทที่พร้อมจะหาประโยชน์สูงสุดจากความผิดพลาดนั้น โดยมีตัวสัญญาเป็นเครื่องมือ ซึ่งดูแล้วคุณน่าจะเชี่ยวชาญเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วย

[@ttasac]

1. งานบริการสายงานผมเขาคิดเป็น "คิว" คิวละกี่ชั่วโมงก็ว่ากันไป โดยซอยย่อยเป็นสามส่วนคือ ติดตั้ง-จัดงาน-รื้อถอน และต้นทุนที่แพงที่สุดไม่ใช่อุปกรณ์แต่เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ต้องหมุนเวียนทำงานวันละ 8 ชั่วโมงตามกฏหมาย บางคนยินดีอยู่ล่วงเวลาแต่บางคนไม่ ดังนั้นการจัดงานให้เร็วขึ้นจึงทำให้นัดหมายล่วงเวลาของลูกจ้างเปลี่ยนไป และต้องจ้างฟรีแลนซ์มาสวมแทน ซึ่งคำนวณแล้ว 25% อาจเพิ่มน้อยไปด้วยซ้ำ 2. สายงานที่ผมทำหากเป็นงานบริการจะมีผู้ให้บริการรายอื่นร่วมทีมอยู่ด้วยในใบเสนอราคาเดียวกันเพราะไม่มีใครมีอุปกรณ์ทุกอย่างครบวงจร เมื่อมีเลื่อนกำหนดจัดงานเจ้าภาพ (กรณีนี้คือผมเอง) ต้องคุยกับทีม (เรียกได้ว่าเป็น Outsource) เพื่อดูความเป็นไปได้และค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนไป 3. สำหรับงานนี้ 25% คือตัวเลขที่เหมาะสมเพราะทุกทีมรวมถึงผมด้วยต่างรับงานในวันนั้นไว้แล้ว ถ้าทำตามลูกค้าจะขาดคนติดตั้งและต้องรับ Freelance ขั้นต่ำหัวละ 1,500 บาทต่อวันเข้ามาทำแทนทั้งหมด 3. ส่วนเรื่องฉวยโอกาสแล้วแต่จะมอง เพราะระบบ "คิว" มันชัดเจนว่าเพิ่มคือจ่าย เลื่อนคือจ่าย ยกเลิกคือยึดมัดจำ ซึ่งเป็น Norm ของธุรกิจในระบอบทุนนิยม เพราะการเปลี่ยนแปลงมักทำให้อีกฝ่ายเสียโอกาสเสมอ 4. เอ้อแล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่า 25% ไม่ใช่คิดเพิ่มตามจริง ? คุณเคยเห็น Ledger ของผมเหรอถึงรู้ว่าผมฉวยโอกาส ? ต้นทุนแต่ละคนต่างกันและจากสาเหตุข้างต้นผมและทีมอาจเท่าทุนหรือขาดทุนบางส่วนจาก 25% นี้ก็ได้ 5. ส่วนการปฏิบัติตามสัญญาคือถูกต้องแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างยอมรับเงื่อนไขจึงลงนามในสัญญา การจะปรับเปลี่ยนตามอำเภอใจไม่ใช่สิ่งที่มืออาชีพพึงกระทำ เพราะการหยวนหลังจากทำสัญญาหากไม่ไตร่ตรองให้ดีอาจนำมาซึ่งการขาดทุนและรับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว 6. รักษาผลประโยชน์ส่วนตนก็ถูกเช่นกัน ไม่ได้ทำมูลนิธิหรือไม่หวังผลกำไร ถ้างานไหนได้ไม่คุ้มเสียผมก็ไม่ทำ 7. ส่วนประโยชน์จากการทำตามสัญญาอย่างเคร่งครัด สำหรับผมคือประโยชน์ระยะยาวเพราะตอนทำสัญญาเงื่อนไขทั้งหมดถูกพิจารณารอไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว คือความปลอดภัยทางธุรกิจทั้งทางแพ่งและอาญา 8. ผมไม่เคยมองว่าลูกค้าเป็นพวกเดียวกัน เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นมืออาชีพจนไม่จำเป็นต้องเกี่ยวเนื่องกันทางความรู้สึก การทำงานแบบมืออาชีพคือปฏิบัติงานตามที่ตกลงกันไว้ให้จบอย่างสวยงามและมีประสิทธิภาพ ต่างคนต่างทำงานในส่วนของตัวเอง แค่นั้น 9. หากลูกค้าเจอปัญหาผมจะให้คำแนะนำหรือวิธีแก้ไขต่อเมื่อได้รับการร้องขอและกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบชัดเจนเท่านั้น ผมจะไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยน ไม่อย่างนั้นต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลที่ตามมา แม้จะทำด้วยความปรารถนาดีก็ตาม 10. ความรับผิดชอบในโลกการทำงานมืออาชีพมาพร้อมเงินเสมอ เพราะการรับผิดชอบคือปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่คือการมอบหมาย และการมอบหมายนำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ 11. ถูกแล้วที่แต่ละฝ่ายซึ่งลงนามในสัญญาต้องระวังไม่ให้เกิดการละเมิดต่อกันและกัน มันคือการทำงานแบบมืออาชีพ ถ้าฝ่ายใดพลาดพลั้งอีกฝั่งพร้อมหาประโยชน์เสมอ แต่บริบทของการหาประโยชน์นั้นอาจเป็นประโยชน์ที่อีกฝ่ายพึงได้ หรือเป็นประโยชน์ที่ชดเชยสิ่งที่อีกฝ่ายเสียไปก็ได้เช่นกัน อย่ามองด้านเดียวว่าหาประโยชน์เพื่อเพิ่มผลกำไรสิ โลกนี้ไม่ได้มีแค่ขาวดำดีชั่วสักหน่อย 12. ผมเอาสัญญาเป็นเครื่องมือครับ ไม่เคยปฏิเสธ และถ้าคุณจะบอกว่าผมเชี่ยวชาญเพราะบังคับใช้เงื่อนไขอย่างเคร่งครัดล่ะก็... ผมนี่โคตรเชี่ยวชาญเลยครับ

[@theseries9992]

@@ttasac ผมได้อ่านแล้ว มันเป็นข้อมูลที่ดีมากเลยครับ คุณพี่!!

[@pandptv2765]

ฟรีแลนซ์มันไม่ได้มีงานตลอดนะคุณ รู้ไหมคนอื่นเค้าเสียโอกาสแค่ไหนถ้ามันมีงานอื่นเข้ามาแล้วไม่สามารถรับได้แถมการเข้างานก่อนตั้ง12ชม.เนี่ย เท่ากับทำงานฟรีๆเลยสิ เกิดคุณโตเค้ายอม เป็นผมบอกตรงๆว่าถ้าผมเป็นทีมซับคุณโตผมก็ไม่ยอมเข้างานก่อนตั้ง12ชม.โดยไม่ได้ตังค์แน่นอนน่าเกลียดเอาเปรียบเกิ้นน ปล.คุณรู้ดีเทล รู้สเกล รู้ค่าใช้จ่าย รู้หรอว่าทีมซับเค้ามีกี่ทีมที่เค้าต้องรับผิดชอบ คุณถึงบอก25มากไป การทีืคุณไม่แม้แต่จะรู้แล้วมาโมเมว่ามากน้อยไปเนี่ย แบบนี้เค้าเรียกมองในมุมเห็นแก่ตัวและเอาเปรีบบคนอื่นครับ คุณไม่น่าไปว่าคุณโตเค้าได้นะกรณีนี้ น่าบอกตัวเองมากกว่า ถึงผ่านมา2ปีแล้ว แต่เห็นเม้นเอาเปรียบของคุณแลัวอดไม่ได้จริงๆ