อานาปานสติ๑๖ขั้น

No video

อานาปานสติ๑๖ขั้น

Рет қаралды 2,120

Күн бұрын

มหาสติปัฏฐาน ㆍ เป็นหลักปฏิบัติธรรม
•°•🌿○•°•○•°•🌿○•°•○•°•🌿○•°•○•°•○🌿•°•○•°•○•°•○
สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่
ในหมู่ชนชาวกุรุ ชื่อ กัมมาสธัมมะ
ในกาลนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสเตือนภิกษุทั้งหลายว่า
"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ทนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก
(เป็นที่ไปของบุคคลผู้เดียว เป็นที่ไปในที่แห่งเดียว)
เพื่อความหมดจดวิเศษของสัตว์ทั้งหลาย
เพื่อก้าวล่วงซึ่งความโศกและความร่ำไร
เพื่ออัสดงดับไปแห่งทุกข์และโทมนัส
เพื่อบรรลุญายธรรม
(ธรรมที่ควรรู้ ธรรมที่ถูก คืออริยมรรค)
เพื่อกระทำพระนิพพานให้แจ้ง ทางนี้ คือ สติปัฏฐาน
(ธรรมที่เป็นที่ตั้งแห่งสติ) ๔ อย่างฯลฯ "
🚩 ส่วนอารมณ์ของ วิ ปั ส ส น าภ า ว น า
ไม่มีองค์บริกรรม ไม่ติดสมมติ ไม่ยึดถือวัตถุ
ไม่ใช้ภาษา เป็นองค์ภาวนา
ให้พิจารณา กายในกายเป็นภายใน
มีเบญจขันธ์ ๕ เป็นองค์ภาวนา คือ
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นปรมัตถ์อารมณ์ ซึ่งมีอยู่แล้วในบุคคลทุกๆ คน ทุกชาติทุกภาษา
จะต้องมีความรู้ ความรู้สึก และในความรู้สึกเหมือนกัน
เช่น มีสุข มีทุกข์ ดีใจ เสียใจ และมีการวางเฉย
ที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยเบญจขันธ์เสวยอารมณ์นั่นเอง
คือ เสวยอารมณ์ในธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม
ทำให้เกิดความสุขบ้าง ทุกข์บ้าง
ถ้าเบญจขันธ์เสวยอารมณ์ในทางจิต
เรียกว่า ธรรมารมณ์
ให้เกิดดีใจบ้าง เสียใจบ้าง หรือเฉยๆ บ้าง
ตามภาษาธรรมเรียกว่า โลภ โกรธ หลง
🪷✨️ท่านสาธุชน✨️🪷
คนเรามีเช่นนี้เหมือนๆ กัน มีอยู่ตลอดเวลา นาที วัน เดือน ปี หรือจนกระทั่ง เรา ตาย ไป ก็ ยัง ไม่ หมด ทุกข์ เพราะ ยังไม่ได้เจริญวิปัสสนาที่ถูกต้อง
ตามวิธีที่พระองค์แสดงไว้
เพื่อให้เวไนยสัตว์พ้นจากกองทุกข์
ท่านที่มีศรัทธาได้มีโอกาส เจริญวิปัสสนาแล้ว
ก็เป็นอันว่าท่านมีโอกาสที่จะพ้นจากกองทุกข์ไปได้
จึงขอเชิญชวนท่านผู้มีบุญมาสร้างปัญญาบารมีกัน
เพราะการเจริญวิปัสสนาเป็นทางที่ตรง เป็นทางลัด
🚩 ถ้า จะเปรียบ ส ม ถ ะ กับ วิ ปั ส ส น า
สมถะเหมือนคันธนู ส่วนวิปัสสนาเหมือนสายธนู
สายธนูตรงกว่าและลัดกว่า หรืออย่างน้อยๆ ก็นับว่า
ท่านมาสร้างเหตุ สร้างปัจจจัยให้ไปถึงพระนิพพาน
แม้ว่าในชาตินี้ยังไม่ถึงก็ยังเป็นปัจจัยในชาติต่อไป
🧘‍♂️ อาการเข้าสมาธิ 🧘‍♀️
วิธีปฏิบัติเบื้องต้นเมื่อมีสถานที่อันสบายแล้ว
ให้นั่งขัดสมาธินั่งตัวตรง เท้าขวาวางบนเท้าช้าย
มือขวาวางบนมือซ้าย หัวแม่มือชนกัน
เมื่อตรวจดูกายสำรวมดีแล้วหลับตาบางๆ
ดำรงสติไว้ให้เป็นปัจจุบัน ทำจิตให้สบาย
ด้วยการสูดลมหายใจเข้ายาว
เมื่อสูดลมหายใจเข้าสุดแล้ว
ให้หยุดลมหายใจไว้ภายในนิดหนึ่ง
แต่ไม่ถึงกับกลั้นลมหายใจ
เพื่อเป็นการฝึกจิตให้อยู่ภายใน
แล้วหายใจออกยาว ให้มีสติคอยระลึก
ในการเคลื่อนไหว ในทางหายใจเข้ายาว
ให้มีสติรู้ชัด พิจารณาการหายใจเข้ายาว
หายใจออกยาว ๕- ๑๐ ครั้ง
ทุกๆ ครั้งควรหยุดลมหายใจไว้นิดหนึ่ง
แล้วล่องเปลี่ยนลมหายใจเข้าสั้นออกสั้น
ให้ตั้งสติคอยระลึกที่ช่องจมูกทั้งสอง
สำรวมจิตให้มีความพอใจในกองลม
จนกว่าจะรู้แจ้งในกองลมทั้งปวง
ในทรวงอกของเราจะรู้สึกกายสงบระงับ
เราอาจจะมีอาการเกร็งตัว กายจะสงบนิ่ง
ลมหายใจเข้า ออกจะละเอียดอ่อนลง
จนเรากำหนดลมแทบไม่ได้
เหมือนลมหายใจเข้าออกหยุดไป
และจะมีกองลมผ่านซ่านไปในร่างกาย
จิตของเราขณะนั้น
มีความอิ่มเอิบเบิกบานอย่างบอกไม่ถูก
ตอนนี้ควรระวัง โดยมีสติสัมปชัญญะให้ดี
ระลึกอยู่ในปีติเสมอ
เมื่อเราตามระลึกลมหายใจพร้อมด้วยปีติเนืองๆ
ปีติ จะดับไป ความสุขจะขึ้นมาแทน
✨️⚜️ พระองค์ตรัสว่า ⚜️✨️
"เราเป็นผู้รู้แจ้งกองลมหายใจเข้า
เราเป็นผู้รู้แจ้งในกองลมหายใจออก
จิต ของเราจะเป็นสุขเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
อุปมาดังสระมีน้ำพุขึ้นกลางสระตลอดเวลา
ในสระนั้นจะไม่มีส่วนใดๆ ที่น้ำเย็นจะแผ่ไปไม่ถึง
คนที่เจริญอานาปานสติ ลมหายใจเข้าออกจะละเอียดยิ่งขึ้น กายและจิตย่อมมีความสุขยิ่งขึ้น ธรรมที่เป็นกุศล เราผู้เป็นนักปฏิบัติต้องให้รู้แจ้งในจิตสังขาร
เมื่อเข้าไปสงบระงับด้วยความเพียรที่ประกอบด้วย
ความรู้ระลึกในกองลมและจิตสังขารรวมกัน
จะต้องเป็นผู้รู้แจ้งเรื่องจิตวิญญาณ
จะทำให้ท่านหมดความสงสัย ทำให้จิตเกิดความบันเทิง
ด้วยการทำใจให้มัน หายใจเข้าออกให้จิตปลอดโปร่ง
แจ่มใส เราจะปล่อยจิตออกจากความยึดถือสิ่งต่างๆ
จนเกิด อนิจจานุปัสสี คือ เราพิจารณาอยู่เนืองๆ
ให้เห็นเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
จิตของเราย่อมคลายจากความยืดมั่นถือมั่น
•°•🌿○•°•○•°•🌿○•°•○•°•🌿○•°•○•°•○🌿•°•○•°•○•°•○
อ้างอิง:ธรรมะภาคปฏิบัติ วัดกระโจมทอง (น.๕๘-๖๒)
โดย:พระคุณอาจารย์พระอธิการสุทัศน์ โกสโล
จัดทำโดย สายธาราธรรม ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๐
งานวิปัสสนาจารย์ทั่วประเทศ .วัดกระโจมทอง
•°•🌿○•°•○•°•🌿○•°•○•°•🌿○•°•○•°•○🌿•°•○•°•○•°•○
#ราชสกุลนิลรัตน์_ณ_อยุธยา
เรียบเรียง:ภาพ-ข้อมูล
อ่านประกอบ
84000.org/tipi...