อาถรรพ์ ต้นกันเกราตายพราย

ณ บ้านดอนแก้ว อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ มีเกาะกลางหนองน้ำเล็กๆ ที่ซ่อนเร้นความลี้ลับและศักดิ์สิทธิ์ บนเกาะนี้มีต้นกันเกราต้นใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกว่า "ต้นกันเกราตายพราย" ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่ามีวิญญาณสิงสถิตอยู่
ในตำนานพื้นบ้านเล่าว่า เมื่อหลายร้อยปีก่อน ณ ที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดโบราณที่มีการบูชาต้นกันเกราเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา ผู้คนมักจะมาไหว้ขอพรและขอบคุณที่ต้นไม้ให้ร่มเงาและความอุดมสมบูรณ์ แต่วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์แปลกประหลาด พระเถระที่บูชาต้นกันเกราได้มรณภาพอย่างกะทันหันโดยไม่มีสาเหตุ หลังจากนั้นมีข่าวลือว่ามีวิญญาณของพระเถระผู้เสียชีวิตสิงสถิตอยู่ในต้นกันเกรา
ในทุกค่ำคืนของวันออกพรรษา ชาวบ้านจะรวมตัวกันบนเกาะเพื่อรอดูปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค แสงไฟสีส้มแดงที่ลอยขึ้นจากหนองน้ำ ความเชื่อเล่าว่าบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นจากการบูชาของต้นกันเกรา และเป็นสัญญาณที่วิญญาณในต้นกันเกราส่งมาให้ผู้คนได้ทราบถึงความโชคดีและความอุดมสมบูรณ์ที่กำลังจะมาถึง
ความลี้ลับของต้นกันเกราตายพรายยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หลายคนที่ได้มาไหว้ขอพรที่ต้นกันเกราในคืนวันออกพรรษามักจะกลับไปด้วยความโชคดี ไม่ว่าจะเป็นการได้งานใหม่ การค้าขายรุ่งเรือง หรือแม้กระทั่งการพบรัก ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นเพราะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในต้นกันเกราได้ประทานพรให้
เมื่อไม่นานมานี้ นักโบราณคดีได้มาค้นพบสิ่งที่น่าทึ่งบนเกาะกลางหนองน้ำ พวกเขาพบซากวัดโบราณที่ถูกปกคลุมด้วยพืชพรรณหนาแน่น และได้ขุดพบพระพุทธรูปและเครื่องประดับที่มีอายุหลายร้อยปี ซึ่งยืนยันถึงความเชื่อของชาวบ้านในตำนานที่เล่าขานกันมา
ปัจจุบัน เกาะกลางหนองน้ำที่มีต้นกันเกราตายพรายและปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต่างเดินทางมาเพื่อขอพร และเพื่อสัมผัสกับความลี้ลับและความศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงอยู่ในทุกค่ำคืนวันออกพรรษา
เรื่องราวของต้นกันเกราตายพรายและบั้งไฟพญานาคไม่เพียงแต่เป็นตำนานที่เล่าขานกันในหมู่ชาวบ้าน แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงความศักดิ์สิทธิ์และพลังลี้ลับที่ยังคงอยู่ในธรรมชาติและวิญญาณแห่งศรัทธา