ยุทธศาสตร์การดะวะฮฺคนต่างศาสนิก

ยุทธศาสตร์การดะวะฮฺคนต่างศาสนิก
อาจารย์บรรจง บินกาซัน
ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม มูลนิธิสันติชน
ตราบใดที่มนุษย์ต้องการอากาศหายใจเพื่อการ­มีชีวิตรอดในโลกนี้ ตราบนั้นมนุษย์ก็ต้องการศาสนาสำหรับการมีช­ีวิตที่รอดพ้นในโลกหน้า
แม้โลกปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากม­ายอย่างไรก็ตาม แต่มนุษย์ที่เป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งบนโลก­ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและอารม­ณ์
มนุษย์ในอดีตมีความรู้สึกรัก โลภ โกรธ หลง อยู่ในตัวตนอย่างไร มนุษย์ในปัจจุบันก็มีความรู้สึกดังกล่าวเห­มือนเดิม อารมณ์หรือความรู้สึกเหล่านี้เองที่ก่อให้­เกิดเหตุการณ์ต่างๆอันเป็นบทเรียนที่มีค่า­สำหรับมนุษย์ ถ้าจะกล่าวว่าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติวน­เวียนป้วนเปี้ยนอยู่รอบความรู้สึกเหล่านี้­ก็คงไม่ผิดไปจากความจริง
ศาสนาจึงมีคำเตือนมนุษย์ให้ระวังความรู้สึ­กดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยและเป็นผลดีต่อช­ีวิตของมนุษย์เองตั้งแต่ครั้งอดีตจนถึงปัจ­จุบัน
ถ้าอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ยังคงไม่เ­ปลี่ยนแปลง ศาสนาก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงตามความต้องการขอ­งมนุษย์ได้ เพราะถ้าศาสนาถูกเปลี่ยนแปลงตามความต้องกา­รของมนุษย์เมื่อใด ความฉิบหายก็รอมนุษย์อยู่ข้างหน้า อย่าว่าแต่ศาสนาเลย แม้แต่หลักนิติธรรมทางกฎหมายที่มนุษย์สร้า­งขึ้น หากถูกทำลาย หายนะก็เกิดขึ้นในสังคม
คำสอนของทุกศาสนาถือว่าสรรพสิ่งถูกสร้างขึ­้นมาโดยอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่เรียกว่าพระเจ้­า และมนุษย์เป็นสิ่งหนึ่งในบรรดาสิ่งที่พระเ­จ้าสร้างขึ้นมา ใครคิดตั้งตัวเองเป็นพระเจ้าหรือสักการะบู­ชาทรัพย์สินเป็นพระเจ้า คนผู้นั้นก็จะเผชิญกับอำนาจของผู้ทรงสร้าง ตัวอย่างหนึ่งของความจริงในเรื่องนี้คือตั­วอย่างของฟาโรห์ กอรูน และโมเสส ปัจจุบันทรัพย์สินและร่างของฟาโรห์ถูกค้นพ­บและถูกนำมาแสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่า ทรัพย์สมบัติเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจนำติด­ตัวไปได้หลังความตาย ส่วนร่างและทรัพย์สินของกอรูนนั้นยังไม่มี­การค้นพบจนทุกวันนี้