5 วิชาที่คนรุ่นใหม่อยากให้เลิกสอน จะมีอะไรบ้าง มาฟังกัน

[@panruetai.bs2370]

ประวัติศาสตร์ไม่อยากเรียน มิน่าเขมรมันเคลมวัฒนธรรมเด็กรุ่นใหม่ถึงไม่เคยออกมาปกป้อง มีแต่คนแก่ออกมาช่วยกันในโซเชียล

[@gybvlog]

กระบี่กระบองก็มีประโยชน์นะคะ เพราะเรานั่งเขียนนั่งอ่านเน้นใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กเยอะ มีไว้บริหารกล้ามเนื้อมัดใหญ่บ้าง จะได้บาลานซ์ บางรร.มีตังค์ก็เรียนเทนนิสค่ะ กระบี่กระบองต้นทุนน้อย เข้าถึงทุกชนชั้น

[@torchtorch1480]

ความคิดเรานะ 1.ประวัติศาตร์ ยังคงมีได้ แต่อย่าสอนแต่ให้จำอย่างเดียว สอนให้วิเคราะห์มากขึ้น แล้วเอามาประยุกต์เข้าปัจจุบัน 2. กระบี่กระบอง เลิกไปเหอะ >>> เปลี่ยนเป็นศิลปะป้องกันตัวแทนจะมีประโยชน์มากกว่า 3. พละ ต้องมี ต้องให้เด็กๆได้ออกกำลังกาย ที่เราเคยเรียนนะ ประถม เป็นการออกกำลังกาย กิจกรรมเน้นเล่น มีกีฬาพวก วอลเล่ย์ ว่ายน้ำ มัธยม เป็นกีฬาไปเลย ไม่เน้นเล่น พวก วอลเล่ย์ วิ่งแข่งประเภทต่างๆ กระโดดสูง เทนนิส เบสบอล etc. 4. พุทธศาสตร์ เลิก >> เปลี่ยนเป็น ศาสนาทั่วไป เปลี่ยนวิธีการสอน ไม่เน้นจำ เน้นบำเพ็ญประโยชน์ในชุมชน สร้างconnection คนในชุมชน สร้างความสามัคคีไม่ใช่แค่พุทธ 5. ลูกเสือ-เนตรนารี ไม่เลิก แต่เปลี่ยนวิธีการสอน สอนให้รู้จักการเอาตัวรอดในกรณีต่างๆ โดยเฉพาะ ไฟไหม้ อุบัติเหตุ สอนให้รู้วิธีการ cpr, การใช้ AED ช่วยชีวิต สอนการเอาตัวรอดถ้าอยู่ในน้ำ สอนวิธีการสื่อสารให้ข้อมูลเวลาโทรหา 191 / รถพยาบาล

[@lengmuangrod1524]

คิดเหมือนกันครับ

[@lengmuangrod1524]

แต่ควรเพิ่มวิชาที่ใช้ในการเป็นผู้ใหญ่ด้วย ความรู้ทางการเงิน กฎหมายเบื้องต้น บลาๆ

[@thanachaidurongkaveroj5944]

ผมเสนอแบบทดแทน 1.ประวัติศาสตร์โลกเชิงวิเคราะห์ 2.เปลี่ยนกระบี่กระบองเป็น กิจกรรมสร้างกีฬาใหม่ 3.พลศึกษาเป็นวิทยาศาสตร์การกีฬาเบื้องต้น 4.เปลี่ยนเป็น สหศาสนาและการอยู่ร่วมกัน 5.เปลี่ยนเป็นวิชาการเอาตัวรอดจากอันตราย 6.วิชาการเงิน

[@suncarnegie4747]

ประะวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนา ลูกเสือเนตรนารี พละศึกษา 4วิชานี้ ยังสำคัญครับ *จริงๆผมอยากให้เพิ่มวิชา เอาตัวรอดครับ จับปลา หาปู หาหอย มากิน เป็นสาขาของลูกเสือเนตรนารี

[@dhuwanon]

เหตุผลมาจาก AI การประเมินสัดส่วนของการเก็บไว้หรือตัดออกสำหรับวิชาแต่ละวิชานั้น อาจขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความสำคัญตามการพัฒนาทักษะในอนาคต ความพร้อมของครูผู้สอน และทรัพยากรในการสอน หากลองประเมินในลักษณะทั่วไป สัดส่วนการคงไว้และคัดออกในแต่ละวิชาอาจเป็นดังนี้: วิชาประวัติศาสตร์ เก็บไว้: 70% เนื่องจากวิชานี้มีความสำคัญในการสร้างความเข้าใจรากฐานทางสังคมและวัฒนธรรม คัดออกหรือลดบทบาท: 30% หากจำเป็นต้องปรับลดเนื้อหา ให้เน้นประวัติศาสตร์ที่เป็นประเด็นสำคัญแทนการเรียนรู้ทุกช่วงเวลา วิชาป้องกันตัวกระบี่กระบอง เก็บไว้: 40% สำหรับโรงเรียนที่มีทรัพยากรหรือความพร้อม คัดออกหรือลดบทบาท: 60% เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะและครูที่มีความเชี่ยวชาญสูง วิชาพละศึกษา เก็บไว้: 80% เป็นวิชาที่ควรเก็บไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพของนักเรียน คัดออกหรือลดบทบาท: 20% เนื่องจากบางโรงเรียนอาจเลือกให้จัดเป็นกิจกรรมเสริมมากกว่าเป็นวิชาบังคับ วิชาพุทธศาสนา เก็บไว้: 50% โดยแนะนำให้ปรับเนื้อหาเพื่อให้เป็นการเรียนรู้เรื่องจริยธรรมและสังคมเพื่อการอยู่ร่วมกัน คัดออกหรือลดบทบาท: 50% สำหรับโรงเรียนที่มีความหลากหลายทางศาสนา หรือให้เป็นวิชาศาสนาแบบเลือกเรียนตามความสนใจ วิชาลูกเสือและเนตรนารี เก็บไว้: 60% เนื่องจากเป็นวิชาที่ส่งเสริมทักษะการทำงานเป็นทีมและการเอาตัวรอด คัดออกหรือลดบทบาท: 40% สำหรับโรงเรียนที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากรและสถานที่ สรุปโดยรวม สัดส่วนการเก็บไว้จะอยู่ที่ประมาณ 50-80% สำหรับวิชาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ จริยธรรม และทักษะชีวิต ส่วนวิชาที่ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะอาจคัดออกหรือปรับลดลงมากกว่าวิชาอื่น

[@supanutireland8932]

ผมถามเด็ก เด็กคิดไกลจริงบางวิชาควรยกเลิก แต่…ผู้ใหญ่ชอบบังคับครับ บอกต้องมี แต่ไม่ถามเด็ก จากใจเคยเรียนผ่านมาหมด ไม่เรียนไม่เสียหาย ไม่แปลกที่ล้าหลังการศึกษาครับ

[@amigo339]

ทุกวิชาต้องถามเด็กก่อนครับ ว่าอยากเรียนรึเปล่า ... ไม่ต้องไปเสือกรู้ดีกว่าเด็ก ..... กรูก็เคยเรียนผ่านมาเหมือนกัน ... กรูไม่ชอบคณิตศาสตร์, วิทยาศาตร์ แม่มม ก็บังคับกรูเรียน ..... กรูชอบภาษาอังกฤษกับพละ แค่นี้ก็หากินได้สบายๆแล้ว .... วิชาการเงินส้นตรีนนั่น ก็ไม่ต้องเอามาสอนหรอก .. ถ่้ามีหัวคิดหน่อย ก็หาเงิน คุมเงินได้เองแล้ว ไม่ต้องโดนดิไอค่อนหลอกกันเป็นล้าน .... ไม่ต้องอวดรู้มาสอนกรู !++++

[@lovebunny5644]

สอนได้แต่อย่าสอบ