หมดยุคสัมภาษณ์ผู้บริโภคแล้ว บริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นทำวิจัยตลาดอย่างไร

หมดยุคสัมภาษณ์ผู้บริโภคแล้ว บริษัทใหญ่ในญี่ปุ่นทำวิจัยตลาดอย่างไร | innovative wisdom

Рет қаралды 44,071

Күн бұрын

Пікірлер: 42

@susosu6070 3 күн бұрын

ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ ที่เจอบ่อยๆ ยิ่งบริษัทใหญ่ ยิ่งไม่ค่อยฟังเสียงส่วนน้อยของผู้บริโภค เพราะอยากเน้นยอดขายที่ชัดเจนและจับต้องได้มากกว่า แต่ก็เคยเจอบริษัทญี่ปุ่น ที่ฟังเสียงเดียวจากกลุ่มลูกค้าของเค้า แล้วมาคิดแคมเปญ รีแบรนด์ตัวเองจนแบรนด์เค้ากลับมาฮิตได้อีกครั้ง ทัศนคติของผู้บริหารมีส่วนสำคัญมากในการทำการตลาดสมัยนี้ ขอบคุณอาจารย์ที่เอาเคสสนุกๆมาแบ่งปันนะคะ 🙏🏻

@miaothan5873 3 күн бұрын

ขอบคุณมากๆเลยค่ะอาจารย์ รบกวนอาจารย์ช่วยนำเรื่องราวอื่นๆในหนังสือ หรือการทำวิจัยตลาดแบบใหม่ๆที่ใช้ทุนน้อยมากเล่าอีกได้ไหมคะ กำลังหาข้อมูลเริ่มต้นทำธุรกิจค่ะ ขอบคุณค่ะ

@MacVer 3 күн бұрын

ขอบคุณความรู้จาก อ เกตุมากๆคับ เวลาที่ตันๆชอบบังเอิญมาเจอคลิป อ.เกตุ และก็จะมีทางแก้ความตันๆนั้นได้เสมอเลย ผมมีร้านคาเฟ่น้อยๆ และก็มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนคลับเฉพาะเมนูประเภทนึงอยู่พอดี กำลังคิดจะต่อยอดสินค้าประเภทนั้นอยู่ ตอนนี้ทราบแล้วคับว่าลูกค้าที่จะสอบถามเพื่อนำข้อมูลไปใช้คนนั้นคือใคร (มีแค่ 2 คนจากลูกค้าทั้งหมดทั้งมวล😊) ขอบคุณ อ. เกตุมากๆเลยคับ

@bigbikelover1709 2 күн бұрын

สรุปแล้ว ก็ยังต้องสัมภาษณ์ผู้บริโภคอยู่ดี 😊

@VPS709 3 күн бұрын

เนื้อหาดีมากเลยค่ะ อ.เกตุ นำไปปรับใช้กับทีม marketing น่าจะเข้าท่าเลย

@pacharawat 3 күн бұрын

ขอบคุณครับ มีประโยชน์และได้ไอเดีย สินค้าญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์ในตัวสินค้าสุด ๆ แต่ที่เสียดายคือกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ ที่ค่อย ๆ หายไป

@MrNiceGent 3 күн бұрын

การวิจัยมี 2 แบบคือเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ การทำสำรวจเป็นการวิจัยเชิงปริมาณซึ่งข้อมูลที่ได้ก็เป็นความคิดมาจากผู้คิดแบบสอบถามแล้วไปถามบุคคลทั่วไปเพื่อหาว่ามีใครคิดเหมือนกับเราไหม ส่วนที่นำเสนอในคลิปก็เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพคำถามก็เป็นการถามนำเท่านั้นแล้วจากนั้นผู้ถูกสัมภาษณ์ก็อาจจะเสนอให้ดีของตัวเองออกมาซึ่งจะเป็นมุมมองของผู้ใช้มากกว่ามุมมองของผู้สัมภาษณ์

@kritsadapongkrueathao4042 3 күн бұрын

อ.อธิบายได้น่าฟังมากครับ

@สหพรวิจิตเตชากร 2 күн бұрын

สินค้าที่ทำให้ผู้บริโภคสงบ.... ในโลกที่วุ่นวาย....

@nguenga 3 күн бұрын

เคส 1 และ 3 เป็นการตลาดแบบนิช ครับ เจาะจงกลุ่มเป้าหมายนั้นๆโดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำในปัจจุบัน

@BankThai 2 күн бұрын

หนังสือเล่มนี้มีแปลเป็นภาษาไทยไหมนะคะ อยากซื้อมาอ่านมากๆค่ะ

@สหพรวิจิตเตชากร 2 күн бұрын

สินค้าต้องค้นหาตัวลูกค้าพบ... อาจจะใช้เวลา ตั้งแต่สินค้าวางตลาด..มันจะยืนและค้นหาลูกค้าของเค้าจนพบ..... เช่น " เบียร์สำหรับคนล้มเหลว" " เบียร์สำหรับคนอกหัก". ชีวิตมันแย่โลกไม่เข้าข้างคุณ..เรารู้ว่าจะลุกขึ้นในไม่ช้า.. ก่อนที่จะไปต่อ..ดื่มก่อนเถอะเพื่อน!! Asahi /

@9kongkawee 3 күн бұрын

ขอบคุณมากครับผม

@MrMeasurement 3 күн бұрын

ชอบๆครับ

@Wsgorn Күн бұрын

ฟังสนุกมากครับ Lion:เอาความต้องการคนลูกค้าคนเดียวมาทำนิชมาร์เก็ต Suntory: ใช้ลูกค้าเป็นR&D หมายเลข2 Asahi: ใช้กลุ่มรอยัลตี้ของแบรนด์ มาช่วยกันพิชไอเดียให้ได้ แนวทางของการรีแบรนด์ 😊

@ER-sv1np 3 күн бұрын

คนไม่พูดความจริง แต่การกระทำ ปกติ โกหกยาก

@dreamimageclub 2 күн бұрын

ของ lion เพราะเป็นสินค้าอุปโภคทั่วไปที่คนเข้าใจพื้นฐานการใช้ระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งตลาดค่อนข้างกว้างมากอยู่แล้ว การที่ลงลึกไปที่จุดใดจุดหนึ่งอย่างชัดเจนมาก ๆ ย่อมทำให้คนถูกใจมาก ๆ ในคนบางกลุ่มในตลาดดังกล่าว ทำให้มันขายได้ สิ่งที่เราไม่รู้คือ มันดังมาก มันมากแค่ไหน และผลของคำว่าดังมากเกิดจากอะไร เพราะจากย่อหน้าแรกที่ผมเขียน ผมเชื่อว่ามันจะดังมากในคนกลุ่มหนึ่ง เพราะเขาทำตลาดเจาะจงมาก ๆ ความเชื่อของผมที่ทำให้มันกลายเป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จ และน่าจะดังมากในระดับที่น่าพอใจ เพราะการสื่อสาร การโฆษณา และความทำตาม ๆ กันในระดับหนึ่งของสังคมมนุษย์

@tjc261 3 күн бұрын

อาจจะทำไม่ได้กับทุกแบรนด์นะ และ ฟลุคขายดี ผลิต volum มากๆ ขายคนเดียวรึป่าว

@MozterpieceAA Күн бұрын

มันก็เป็นการทดลองอะล่ะครับ แค่บริษัทพวกนี้แค่มีเงินมาทดลองตลาดเยอะ ปังก็ไปต่อ แต่ตุยก็เงียบๆไว้ครับ 55555 แต่เขาทดลอง 10 เขาขอแค่1 ตัวไงครับที่ปัง

@rarinhealthresearch789 2 күн бұрын

เดี๋ยวนี้ผมถาม open Ai 😂😂😂 เพราะผู้ให้คำตอบจากแบบสอบถามไม่ค่อยพูดความจริงเนื่องจากความเกรงใจ

@myroom139vlog2 21 сағат бұрын

เนื้อหาน่าสนใจ แปลกใหม่ ดีครับ ติดตามนะครับรอตอนรอไปครับ

@nattikornphunyura9493 Күн бұрын

คิดถึงอาจารย์มากๆเลยครับ ผู้ที่ช่วยให้บริษัทผมผ่านพ้นวิกฤต😊

@Invisible__Woman 30 минут бұрын

คนเดียวนั้น สำคัญคือเลือกมายังไง

@wanneerata Күн бұрын

คิดถึงอาจารย์เกตุ ทำ clip บ่อยๆนะคะ

@teerincharoenanankit8924 22 сағат бұрын

ได้ความรู้ทุกคลิป ขอบคุณอาจารย์เกดครับ😊❤

@kittisukantho4572 Сағат бұрын

ช่องดีๆ แบบนี้ ผมสับตะไคร้รอเบยครับ

@suwantrimanaphan8638 3 күн бұрын

มีข้อเสนอแนะครับ คำว่า....brand มีคำศัพท์ไทยที่ใช้ว่า....ตรา ตราสินค้า หรือ ยี่ห้อ (ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว แต่ใช้กันมาตั้งนานแล้ว) ก็น่าจะใช้คำศัพท์ไทยแทนมากกว่านะ เช่นเดียวกันกับคำศัพท์อื่นๆ เช่น หีบห่อ หรือ packaging, การตลาด หรือ marketing เป็นต้น คนไทยชอบพูดภาษาไทยคำและภาษาอังกฤษคำ ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะมันดูเท่ดี หรือ ทำให้ผู้พูดดูมีภูมิรู้ และเก่งภาษาอังกฤษ คำศัพท์อังกฤษควรใช้แทนคำศัพท์ไทย ที่เป็นคำศัพท์เฉพาะ หรือ คำศัพท์เทคนิค หรือ คำศัพท์ทางวิชาการ หรือ เป็นคำศัพท์ไทยแล้ว จะฟังดูแปลกๆเข้าใจยาก เช่น solfware, hardware เป็นต้น แต่หากอยากจะพูดคำศัพท์อังกฤษจริงๆ ก็ควรพูดคำศัพท์ไทยก่อน และ พูดคำศัพท์อังกฤษเสริมต่อท้ายอีกทีนะครับ

@Ramirezz11 2 күн бұрын

Brand ในมุม Marketing มันไม่ใช่แค่เรื่องของ 'ตราสินค้า' ตราสินค้าเป็นองค์ประกอบหนึ่่งเท่านั้น เวลาเขาบอกว่าทำ brand มันเน้นไปที่การสร้างคุณค่า และ identity (ของพวกนี้มองเห็นกันไม่ชัด) มากกว่าแค่เชิงวัตถุที่่มองเห็นได้ชัดเจน

@thelyeracing537 2 күн бұрын

@@Ramirezz11ใช่ๆๆๆ แล้วการพูดถึงเรื่องทั้งโลกก็ผสมภาษากลางๆของโลกถูกแล้ว ถ้ายายเล่าเร่ืองสุนทรภู่ให้หลานฟังเน้นคำไทยนั่นใช่เลย ถถถ

@rapeepatsk2358 3 күн бұрын

ว้าวนี่คือ อาจารย์ คนเขียนมาโคโตะ Marketing นี่นา

@PhiraphonTunjaya 3 күн бұрын

ขอบคุณครับอาจารย์ เคยสงสัยแล้วก็หาข้อมูลเหมือนกันครับว่า ญี่ปุ่นเค้าทำ UX Design ยังไง เพราะเคยรับรู้มาว่าคนญี่ปุ่นมีความเป็นส่วนตัวสูงมากแล้วธุรกิจเขาหาข้อมูลมาแบบไหน วันนี้ได้เห็นเคสที่ชัดเจนมากขึ้นครับ