Рет қаралды 178,849
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางมายังประเทศไทย ใน 10 เดือนแรกของปี 2565 คือตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่จัดทำขึ้นโดย กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ในจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ชาวสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางเข้ามามากที่สุดเป็นอันดับ 8 ในปีนี้ โดยมีมาเลเซียนำโด่งมาเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยอินเดีย สิงคโปร์ ลาว เวียดนาม เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา กัมพูชา และเยอรมนี โดยมีชาวอเมริกันจำนวนทั้งหมด 283,211 คน ซึ่งในจำนวนนั้น 5 คนเป็นสมาชิกจากครอบครัว Wall ที่ประกอบด้วยพ่อแม่ และลูกๆอีก 3 คน ซึ่งพวกเขาได้เลือกเมืองไทย เป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับการหยุดพักผ่อน ที่ยาวนานรวม 9 สัปดาห์ แม้ว่าพวกเขาจะใช้เวลา 5 วันในดูไบ และแวะไปท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศ แต่เวลาส่วนใหญ่ คือการท่องเที่ยวและใช้ชีวิตในเมืองไทย ตั้งแต่เหนือจรดใต้ พร้อมประสบการณ์ดีๆที่พวกเขาได้ถ่ายทอดออกมา ผ่านทางช่อง KZbin ที่ชื่อ Yale Wall
ย้อนกลับไปเมื่อราว 10 กว่าปีก่อน เยลและออทัม ได้ตกลงแต่งงานกัน และใช้ชีวิตสมรสอยู่ด้วยกัน 5 ปีเต็ม ก่อนที่จะเริ่มตัดสินใจมีลูก ที่เกริ่นไป อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ ที่สามีภรรยาส่วนใหญ่ มักจะสร้างครอบครัว ด้วยการมีลูกๆเข้ามาเติมเต็มในชีวิต แต่พวกเขาทั้งสองคน คิดต่างไปจากคนอื่น ตรงที่ลูกของพวกเขา ไม่จำเป็นจะต้องเป็นลูกที่เกิดจากสายเลือดของตัวเอง และนั่นทำให้ความคิดที่จะรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของพวกเขาในขณะนั้น ก่อนที่ในภายหลัง พวกเขาทั้งสอง ตัดสินใจเลือกที่จะต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว ที่ไม่มีความผูกพันกันในทางสายเลือด แม้ว่าพวกเขาเอง ก็ไม่ได้มีฐานะที่ดีอะไรนัก แต่มั่นใจว่า สามารถเลี้ยงดูลูกๆได้ดี และนั่นทำให้ทั้งเบน ลูกชายคนโต ถูกรับมาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 2 ขวบครึ่ง ในขณะที่เอลลี่ และเคลลี่ ซึ่งเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน ได้ถูกนำมาเลี้ยงมาตั้งแต่ยังแบเบาะ ทำให้ลูกๆทั้งสามของครอบครัววอลล์ เป็นเด็กกำพร้าที่เยลและออทัม ให้การอุปากระเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กๆ ความคิดของการรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงให้เป็นเหมือนลูกแท้ๆของตัวเองของเยลและออทัม ได้สะท้อนถึงความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกแบบไม่มีเงื่อนไข มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด ที่มนุษย์สักคนหนึ่งพึงจะทำได้ แต่อย่างน้อย สิ่งนี้ก็ทำให้พวกเขาทั้งสอง แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ ที่โดยธรรมชาติมักจะคิดถึงตัวเองก่อน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของปุถุชน การมีพื้นฐานจิตใจที่ดีของพ่อและแม่ ย่อมส่งผลให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และก็เป็นสิ่งที่น่ายินดี ที่พวกเขาทั้งสองตัดสินใจเลือกเมืองไทยเป็นประเทศที่เขาต้องการมาเที่ยวกับลูกๆในระยะเวลาราว 2 เดือน หลังจากที่ต้องทำงานหนักกันมานาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เยลบอกว่า เป็นการสร้างสมดุลย์ที่ดี ระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิตกับสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา
การเดินทางมายังประเทศไทย ได้เริ่มขึ้นเมื่อราว 6 เดือนก่อน จากย่านอินเดียนาโปลิศ รัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางไปยังกรุงชิคาโก ก่อนที่จะขึ้นเครื่องไปลงที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จนมาถึงยังกรุงเทพฯ ประเทศปลายทางที่ครอบครัววอลล์ต้องการมาท่องเที่ยวและพักผ่อน เยลมีพื้นฐานในการถ่ายภาพวิดีโอและการตัดต่อที่ดี ทำให้เนื้อหาดูน่าสนใจมากกว่าปกติ เขาเผยว่า ในอีก 2 เดือนจากนี้ เขาจะตัดการติดต่อสื่อสารกับทุกๆคนที่เขารู้จัก จะไม่มีการตอบอีเมล์ ไม่มีการพูดคุยทางโทรศัพท์ หรือแม้แต่การส่งข้อความหากัน เพราะเขาและสมาชิกในครอบครัวจะใช้เวลาทั้งหมด ไปกับการท่องเที่ยวในโลกใหม่ ที่มีความแตกต่างในด้านวัฒนธรรมอย่างสิ้นเชิง จะมีก็เพียงการสื่อสารในทางเดียว คือการถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆที่ได้พบเจอ ผ่านทางช่อง KZbin ของเขา การพักจากทำงานอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง 12 ปี สำหรับตัวเขาเอง และ 17 ปี สำหรับออทัม คือสิ่งที่ถูกต้อง ที่พวกเขาควรจะต้องทำ
การนำเสนอของเยล จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับก่อนหลัง และเป็นการตัดต่อหลังจากที่ได้เดินทางท่องเที่ยวมาได้พักใหญ่ ทำให้ในบางวิดีโอ อาจจะมีการนำเสนอภาพประกอบของสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า 1 แห่งในคลิปเดียว ซึ่งเราจะนำเสนอเฉพาะเรื่องที่น่าสนใจเท่านั้น การเดินทางในภาพรวม ก็คงไม่แตกต่างจากการเดินทางของครอบครัวอื่นๆที่มีเด็กเล็กมาด้วยมากนัก ซึ่งเด็กทุกคนก็ดูตื่นเต้นและมีความสุขตลอดการเดินทางในทริปนี้ เยลเริ่มนำเสนอเชียงใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก พร้อมเปิดเผยเหตุผลที่เขาตัดสินใจเลือกเมืองไทยเป็นประเทศที่เขาต้องการเดินทางมา เหตุผลแรกเลยก็คือ ค่าใช้จ่ายที่ต่ำมาก อาหารก็มีราคาถูกมาก อยากจะทานอะไรก็ได้ทานเหมือนพระราชา ซึ่งไม่สามารถทำแบบนี้ได้ในสหรัฐอเมริกา สิ่งสำคัญก็คือ พวกเขาต้องการปลีกตัวออกจากการใช้ชีวิตที่เขาต้องเจออยู่ประจำในอเมริกา ต้องการมาดูให้เห็นกับตาว่า ชีวิตในอีกฝากฝั่งหนึ่งของโลก เป็นอย่างไร ผู้คนคิดอย่างไร มีความเชื่อแบบไหน และในฐานะที่เขาเป็นบาทหลวงในศาสนาคริสต์ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า ผู้คนในแถบนี้มีแนวทางในการนับถือพระเจ้าอย่างไร โดยเฉพาะในสถานที่ทางศาสนาอย่างวัดต่างๆที่เขากำลังเดินชมอยู่ ในท้ายคลิปแรกที่เขาเดินทางมาถึงเมืองไทย เยลและออทัมได้พูดถึงงานที่พวกเขาทำในสหรัฐอเมริกา ซึ่งออทัมบอกว่าเธอโชคดีมาก ที่เธอสามารถทำงานจากบ้านได้ ทำให้สะดวกในการทำงานแม้ว่าจะมีการเดินทางไปต่างประเทศก็ตาม ซึ่งแตกต่างไปจากงานของเยลโดยสิ้นเชิง เนื่องจากเขาทำงานเป็นบาทหลวง ที่เขาต้องใช้เวลาชั่วโมงครึ่งต่อวัน ในการอ่านคัมภีร์ไบเบิล ใช้เวลาสวดมนต์ราว 1 ชั่วโมงต่อวัน และงานอื่นๆ
ที่มา: / @yalewall