บางทีคนที่ช่วย cooper ก็คือตัว cooper ในอนาคต,อีกจักรวาลหรืออีกมิติก็เป็นได้ เพราะหนังมันไม่ได้สรุปว่าเป็นฝีมือใครจริงๆ ผู้กำกับอย่างคุณโนแลนเขาก็ฉลาดมากคือทำหนังแล้วปล่อยให้เราคิดจินตนาการได้หลายทาง
ผมอยากให้แอดลองวิเคราะห์หนัง 2001 Space Odessey เป็นหนังอวกาศที่น่าประทับใจมาก (คิดว่า..คงมีส่วนเป็นต้นแบบให้ interstellar ได้ศึกษาด้วย) เทคโนโลยีหลายอย่างจากในหนังที่มาก่อนกาลเอามากๆ ในยุคเดียวกัน หลายอย่างในหนังได้มาแล้วในโลกปัจจุบันอย่างเช่น Hal ซึ่งเป็น Ai ที่เราคุยได้แทบจะไกล้เคียงกับในหนังแล้ว
@ratchaneepornthammawattana6604Күн бұрын
Bulk being ก็ คือเผ่าพันธุ์นางเอกที่ไปสร้างโลกอีกดาวนึงจนวิวัฒนาการ มนุษย์ไปมิติที่ 5 ได้ แล้วย้อนอดีตมาช่วยพระเอก
@@Kyon-19ผมเข้าใจตามที่เเอดเล่าและที่แอดเม้นตอบท่านอื่นๆนะว่ามันเกิดขึ้นพร้อมกันหมด แต่ผมก็วาดภาพไม่ออกว่า they ไปถึงจุดที่เข้าถึงมิติที่5ได้อย่างไร และยังสร้างเทสแรคในมิติที่ห้าได้ยังไง
@SaharatLM10Күн бұрын
แล้วbulk being มันเกิดก่อนเกิดหลังอ่ะ เพราะ ก่อนที่จะมีเหตุการณ์นี้ ก็ต้องมี bulk being ก่อน แต่ก่อนที่จะมี bulk being ก็ต้องเกิดเหตุการณ์นี้ก่อน อารมณ์เหมือนประตูที่ส่งเสียงดังทุกครั้งหลังเปิด/ปิด และเปิด/ปิดทุกครั้งเมื่อได้ยินเสียงดัง จึงเกิดเป็นลูปเปิด/ปิดประตูไม่มีสิ้นสุด แต่คำถามคือ ใครเป็นคนที่ทำให้ประตูเปิด/ปิดคนแรก จนทำให้เกิดลูป? มนุษยชาติรอดได้ยังไงก่อนมี bulk? ผมเลยคิดว่า bulk ไม่น่าใช่คนในอนาคต แต่เป็นแค่คนอีกกลุ่มนึงในมิติอื่นที่ต้องการช่วยเหลือแค่นั้น ส่วน plot holes ก็แค่่ทำให้หนังมันสนุกขึ้นเท่านั้น พระเอกจะตายไม่ตายก็ได้
@Kyon-19Күн бұрын
ฟิสิกส์ของเรื่องนี้ ต้องตัดคำว่าก่อนหลังออกไปเลยครับ ไม่มีคำว่าก่อนหรือหลังในพจนานุกรม ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันเป็นจุดเดียว เวลาเรื่องนี้ไม่ได้เดินเป็นเส้นจากอดีตสู่อนาคต ไม่ได้เดินเป็นลูปด้วย แต่มันเป็นจุด ดังนั้นไม่เกี่ยวกับว่า bulk being เกิดขึ้นตอนไหน เพราะ bulk being สามารถแทรกแซงได้ทุกช่วงเวลา หรือจะพูดอีกอย่าง bulk being เกิดมาพร้อมกับ bigbang แล้ว
@vacharasakpechkul7690Күн бұрын
Bulk being หรือ They เป็นมนุษย์ในอนาคตอีกไกลมากครับ ที่สามารถเข้าถึงวิทยาการระดับ 5 มิติ และรับรู้มิติเวลาเป็นเชิงรูปธรรมจับต้องได้ครับ They ไม่ได้แก้ไขอดีต เพราะในหนังสื่อออกมาแล้วครับว่า “อะไรที่เกิดขึ้นแล้ว ก็คือเกิดขึ้นแล้ว แก้ไขไม่ได้” หรืออาจจะไม่ควรไปแก้ไข แต่สิ่งที่ They ทำคือ “ทำให้อดีตเป็นอย่างที่อดีตเป็น” ครับ They เป็นคนเตรียมการทั้งหมดตั้งแต่สร้างรูหนอน และทำให้คูเปอร์ได้ไปอยู่ในจุดที่สื่อสารกับเมิร์ฟและตัวคูเปอร์เองในช่วงเวลาต่างๆ ได้ เพราะถ้าไม่ช่วยคูเปอร์ให้ทำแบบนั้นได้ คูเปอร์จะไม่สามารถส่งข้อมูลของ Singularity ที่ TARS เก็บจากในหลุมดำส่งไปให้เมิร์ฟได้ เมิร์ฟก็จะไม่สามารถแก้สมการแรงโน้มถ่วงได้ มนุษย์ก็จะไม่สามารถอพยพออกจากโลกได้ มนุษย์ก็จะสูญพันธุ์ ก็จะไม่มี They ในอนาคตครับ ส่วนที่ว่าทำไม They ไม่สื่อสารกับเมิร์ฟโดยตรง อันนี้ผมคิดว่า มิติเวลา หรือเส้นเวลา เป็นของใครของมัน คือคนที่จะเข้าไปเห็นเส้นเวลาของเมิร์ฟได้ จะต้องเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับเมิร์ฟ ถึงจะเห็นเส้นเวลาของเมิร์ฟได้ครับ
@tx_lКүн бұрын
@@Kyon-19ผลมาก่อนเหตุ ได้ด้วยหรอ😂
@They96Күн бұрын
bulk being เกิดขึ้นได้เพราะพวกเขากลับมาช่วยคนในอดีต ถ้าไม่มาช่วยก็ไม่มีพวกเขา ทุกอย่างอยู่ในลูปด้วยกัน พึ่งพากัน ไม่มีอะไรเกิดก่อน
ที่ Cooper บอกว่า They คือ มนุษย์เราในอนาคต เป็นเพียงสมมติฐานของ Cooper อาจจริงหรือไม่จริงก็ได้ จริงๆ แล้วอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตในจักรวาลคู่ขนานที่พึ่งพา Event บางอย่างร่วมกับเรา เลยจำเป็นต้องมีเรา ก็เป็นได้มั้ย
@@theKaf-aเท่าที่ผมเข้าใจคือการที่ They เข้ามาเกี่ยวข้องกับอดีต คือไม่ได้ต้องการให้เส้นเวลาเปลี่ยนไปจากเดิมครับ แต่คือพยายามทำให้เส้นเวลาเส้นเดิมเป็นไปตามที่ควรจะเป็นมากกว่าครับ คือถ้า They ไม่มาเป็นตัวเชื่อมโยงให้เหตุการณ์ต่างๆ เชื่อมถึงกัน มนุษย์ก็จะสูญพันธุ์, เส้นเวลาที่เป็นอยู่ก็จะสูญสลายไป They ไม่เกิดขึ้น ผมมองเป็นเหตุและผลครับ ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไม่มี They ถึงต้องเข้ามาทำให้อดีตเป็นอย่างที่อดีตเป็นครับ 😊
Nolan แกตั้งใจสื่อเลยว่าคือเผ่าพันธ์มนุษย์เองที่ช่วยตัวเอง มันคือเรื่องราวการ สำรวจ ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธ์มนุษย์ แต่หลายคนยังไม่เข้าใจ ในหนัง บท Cooper ก็เป็นคนพูดเอง Don't you get it, Tars? They're not being, They're us.