Рет қаралды 90,013
พระกริ่งปวเรศ เป็นสุดยอดพระกริ่ง ที่มีคำถามและข้อสงสัยมากมาย ในเรื่องของจำนวนการสร้าง และพิมพ์ทรง ที่ยังคงเป็นปริศนาในกลุ่มนักสะสมพระเครื่องหลายๆ คน
มีจดหมายเหตุและราชกิจจานุเบกษา ในสมัยรัชกาลที่ ๔ และ ๕ มีการกล่าวถึงพระกริ่ง ครอบพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ ใช้สำหรับทำน้ำพระพุทธมนต์ในงานพระราชพิธีสำคัญ และยังกล่าวถึงพระกริ่งปวเรศได้อยู่ในความครอบครองของเจ้านายชั้นสูง ทั้งในเมืองหลวงและหัวเมือง รวมถึงหลังจากที่เจ้านายชั้นสูงจากในเมืองหลวง โอนย้ายไปตามหัวเมือง ทำให้พระกริ่งปวเรศมีการกระจายออกไปตามหัวเมืองต่างๆ หนังสือเล่มนี้เป็นที่รวบรวมข้อมูลและพิมพ์พระกริ่งปวเรศไว้ดีมากๆ เล่มหนึ่งนะครับ
โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นเจ้ากรมพิธีผู้จัดสร้างพระกริ่งทำน้ำมนต์นี้ขึ้นตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. ๒๓๙๓ จนถึง ๒๔๔๕ และหลังจากนั้นได้มีการถวายพระนามพระกริ่งทำน้ำมนต์นี้ ตามพระนามของผู้จัดสร้างหรือเจ้ากรมพิธีเป็น พระกริ่งปวเรศ และซึ่งถ้าเป็นพระกริ่งปวเรศที่สร้างในช่วงระหว่างปี ๒๓๙๓ ถึง ปี ๒๔๑๕ เราพอจะคาดคะเนหรืออนุมานได้ว่าสมเด็จพุฒาจารย์ โต อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการจ้ดสร้างด้วย
ดังนั้น คำถามที่ว่า พระกริ่งปวเรศ ที่สร้างโดยกรมพระยาปวเรศ จะมีการสร้างในจำนวนน้อยมากๆ หรือไม่นั้น พุทธศิลป์ เชิงช่าง เนื้อพระ ความเก่า และการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติจะเป็นสิ่งที่ตอบคำถามนี้ได้เองครับ
เรามาดูองค์พระกันดีกว่าครับ พระกริ่งองค์นี้เป็นพระกริ่งปวเรศ ซึ่งพิจารณารายละเอียดของพุทธศิลป์ในจุดต่างๆ และลักษณะของโค๊ตที่ตอกแล้ว คาดว่าเป็นพิมพ์ที่สร้างในปี ๒๔๑๑
โดยเราจะเริ่มต้นจากพุทธศิลป์และเชิงช่าง
ใครที่ยังไม่กดติดตาม ช่วยกดติดตามช่อง ๔ มีนา กดไลค์เป็นกำลังใจ ฟังจบแล้วฝากแชร์ออกไปเป็นธรรมทานด้วยนะครับ
๑ พุทธศิลป์และศิลปะการสร้างพระกริ่งปวเรศ เป็นงานช่างหลวง เพื่อให้เข้าใจง่าย ๔ มีนาของอนุญาตใช้คำทั่วไปในการพูดถึงนะครับ รายละเอียดต่างๆ ทั้งใบหน้า มือ ริ้วจีวร ไรผม ฐานบัว รวมถึงการตอกโค๊ต เป็นการสร้างและตกแต่งพิมพ์ด้วยช่างสิบหมู่อย่างปราณีต มีร่องรอยของเครื่องมือช่าง
๔ มีนามีตัวอย่างเครื่องมือช่างที่ใช้ในการแต่งพิมพ์และตอกโค๊ตให้ดูกันนะครับ ร่องรอยจะคมชัดและลึก ไม่ใช่การหล่อในพิมพ์
โซนเนื้อของพระกริ่งปวเรศที่พบ จะมี เนื้อแก่ทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อที่สร้างมากที่สุด คือเนื้อนวโลหะ
มีการปิดก้นองค์พระด้วย ทองคำ เงิน นาก และทองแดง
การใส่เม็ดกริ่งมีการเจาะก้น และเจาะข้าง มีการตอกโค็ต และโค๊ตลับไว้
บางองค์จะมีการแกะลายที่องค์พระและก้นองค์พระ มีทั้งที่มีรอยจารและไม่มี บางองค์มีการตอกหมุดทองคำ และ ๔ มีนาเคยพบพิมพ์สะดุ้งกลับ คือท่าทางของแขนทั้งสองข้างจะสลับกัน
เนื้อพระโดยรวมของพระกริ่งปวเรศจะมีความสมบูรณ์ ไม่ปรากฏรอยตามดหรือร่องตะไบลึกๆ
สำหรับองค์ที่ก้นหรือฐานองค์พระเป็นลวดลายต่างๆ จะเป็นการแกะลายด้วยเครื่องมือช่าง
มีบางปีที่มีการสร้างพระกริ่งปวเรศ พิมพ์พิเศษ และองค์ที่มีขนาดใหญ่กว่า มีพิมพ์ที่ลวดลายตามองค์พระ ซึ่งเราก็ต้องพิจารณาความปราณีตในการตอกลายควบคู่ไปด้วยนะครับ
ถ้าเป็นองค์ที่มีการตอกหมุดทองคำ ต้องเป็นทองคำแท้ ทำเป็นหมุดมีก้านแล้วตอกเข้าไปในองค์พระ ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ เจอรอยกาวหรือเป็นเหมือนจุดสีทองทำในพิมพ์นี่ต้องหนีเลยนะครับ
๒ ถัดมาเป็นเนื้อพระ
เนื้อพระส่วนมากจะเป็นเนื้อนวโลหะ คือโลหะตามสูตร ๙ ชนิด โดยสัดส่วนของทองคำ เงินและทองแดง อาจมีเพิ่มหรือลดได้ โดยจะแบ่งโซนได้เป็น
เนื้อนวแก่ทองคำ เนื้อพระจะออกสีส้มอมแดง ตามออกไซด์ของทองคำ
นวแก่เงิน เนื้อพระจะออกสีเงินปนสีเทาจากอ็อกไซด์ของเงิน
ถ้าเป็นเนื้อนวแก่ทองแดง เนื้อพระจะออกเป็นสีนาก หรือว่า Pink gold ที่เกิดจากทองคำผสมกับทองแดง
แต่จะมีที่เป็นเนื้อเงินล้วน และเนื้อทองเสตอร์ลิงค์ ที่มีทองคำแท้เป็นส่วนผสม ฐานเป็นเงินด้วยนะครับ
เนื้อพระกริ่งปวเรศจะมีความแกร่ง เพื่อให้เสียงกริ่งมีความดังและใส
พิธีการสร้าง จะหลอมนวโลหะ ๙ ชนิด และจารยันต์ ๑๐๘ นะปถมัง ๑๔ นะ ลบและถม ๑๐๘ ครั้งลงบนแผ่นนวโลหะ เมื่อได้องค์พระแล้วจึงมีการตกแต่งองค์พระ ใส่เม็ดกริ่ง ซึ่ง ๔ มีนาคาดว่าจะเป็นเม็ดเหล็กไหล แล้วจึงปิดก้นหรืออุดรูเจาะข้าง และตอกโค๊ต
เนื้อพระจะแกร่งตามสูตรนวโลหะ ผิวค่อนข้างเรียบ แต่ก็ต้องมีออกไซด์ของโลหะขึ้นทั่วทั้งองค์ตามธรรมชาติของอายุพระ และดูกระแสโลหะที่เป็นการหลอมรวมโลหะ ๙ ชนิดเข้าด้วยกัน
ให้ดูตามซอก หรือร่องลึกในจุดต่างๆ จะต้องมีความแห้ง จุดที่มีการสัมผัสบ่อยจะดูฉ่ำกว่า สำหรับพระอายุเป็นร้อยปี ความแห้งของ ๒ จุดนี้จะต้องต่างกัน
การปิดฐานหรือก้นองค์พระ รวมถึงรอยอุดข้าง เป็นการทำหลังจากขั้นตอนการหล่อองค์พระแล้ว การเชื่อมโลหะมักใช้โลหะที่มีจุดหลอมเหลวที่อุณหภูมิความร้อนต่ำกว่า เพื่อไม่ให้องค์พระเสียหายในระหว่างเชื่อมโลหะเข้าด้วยกัน ดังนั้นก้นหรือรอยอุดข้าง มักจะเป็นโลหะคนละชนิดส่วนมากจะเป็นนวกลับแดง คือแก่ทองแดงมาก
นวะกลับดำ คือแก่เงินมาก หรืออาจจะอุดก้นด้วยแผ่นเงินหรือทองแดงทั้งหมด ถ้าเป็นองค์พิเศษจะมีการปิดแผ่นทองคำทับอีกชั้น จุดสำคัญคือเราต้องดูความเรียบร้อยของรอบๆ รอยเชื่อมปิดก้น หรือรอบๆ แผ่นทองคำที่ปิดก้น บนพื้นฐานของฝีมือช่างหลวงเป็นสำคัญ ไว้มีโอกาสจะนำตัวอย่างมาให้ดูในคลิปถัดๆ ไปนะครับ
การดูกระแสโลหะในพระเก่า ค่อนข้างต้องการการดูและวิเคราะห์ของจริงเทียบกับพระโรงงานบ่อยๆ แต่จะง่ายขึ้น ถ้าเราตัดการวิเคราะห์พระเข้าข้างตัวเองออกไปก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ดูไปทีละจุด ทั้งพุทธศิลป์ ความปราณีตเรียบร้อย ความเก่าของเนื้อโลหะในแต่ละจุดตามอายุ
จากประสบการณ์ของ ๔ มีนา สิ่งที่สำคัญที่สุดในการหาพระกริ่งปวเรศ คือ แหล่งที่มา ครับ เนื่องจากเป็นพระสร้างในพระราชพิธีหลวง ไม่ได้มีการกระจายไปสู่คนทั่วไป ยกเว้นจะเป็นการผ่านมือมาหลายทอด