Рет қаралды 82,365
@4meena
#พระเครื่อง #พระสมเด็จ #พิมพ์ไกเซอร์
คำถามที่ว่า พระสมเด็จพิมพ์ไกเซอร์ มีจริงมั๊ย
ธรรมชาติและความเก่าขององค์พระจะเป็นตัวบอกความจริงครับ
จากบันทึกในหนังสือ สมเด็จโต ของอาจารย์แฉล้ม โชติช่วง และอาจารย์มนัส ยอขันธ์ ที่อ้างอิงบันทึกจากหลวงปู่คำ วัดอัมรินทร์ กล่าวถึงเนื้อพระและพิธีการสร้างสมเด็จพิมพ์ไกเซอร์ไว้ว่า
เนื้อพระ เป็นเนื้อผงวิเศษทั้ง ๕ ข้าวสุก กล้วย เกษรดอกไม้ ไส้เทียนบูชาพระพุทธ ดินอาถรรพ์
ตะไคร่ใบเสมา ไคลพระพุทธ ดอกไม้มงคล น้ำเซาะหินที่หยดในถ้ำ
ผงใบลาน ผงปูน เอามาผสมรวมกันแล้วตากให้แห้ง
เอาน้ำอ้อยเคี่ยวจนเป็นยางมะตูม ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใช้ผงดำโรยจนทั่ว แล้วนวดด้วยน้ำมันตั้งอิ๊วจนเนื้อไม่ติดมือ จึงเอาไปกดพิมพ์ เนื้อแห้งจะขาวอมเหลือง แข็งแกร่ง เหนียวและหนึกนุ่ม
พระพิมพ์ไกเซอร์นี้ซึ่งอันที่จริงพระพิมพ์นี้เป็นพิมพ์หน้าโหนก อกครุฑ เศียรบาตร ท่านเจ้าประคุณตั้งใจสร้างถวายพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕
ได้ทำการปลุกเสก ๓ เดือน แล้วแช่น้ำมนต์อีก ๗ วัน นำมาผึ่งให้แห้ง เก็บใส่พานไว้หน้าพระพุทธรูปบูชา แล้วเอาผ้ากราบปิดเอาไว้ และได้ถวายให้พระพุทธเจ้าหลวงก่อนการเสด็จประพาสยุโรป ในปีพ.ศ. ๒๔๑๓
แต่ครั้งนั้น เสด็จประพาสไม่ถึงยุโรป เสด็จประพาสแค่สิงคโปร์และชวา และได้ทรงเสด็จประพาสยุโรปอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ครั้งนั้นมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระสมเด็จที่พระพุทธเจ้าหลวงพกไว้ในกระเป๋าเสื้อ และได้เปล่งรัศมีออกมา พระเจ้าไกเซอร์จึงสนพระทัย และพระพุทธเจ้าหลวงได้ทรงถวายให้แก่พระเจ้าไกเซอร์เป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสยุโรป จึงได้มีการขนานนามพระพิมพ์นี้ว่า พระสมเด็จพิมพ์ไกเซอร์
เรามาพิจารณา พระสมเด็จไกเซอร์องค์นี้กันนะครับ โดยตั้งอายุพระอย่างน้อยประมาณ ๑๕๐ ปี พระผ่านการแช่น้ำมนต์ ไม่ผ่านความร้อนสูง เป็นการปล่อยให้เนื้อพระเซ็ตตัวตามธรรมชาติ
พุทธศิลป์
เศียรองค์พระกลมใหญ่เป็นรูปบาตร ไม่มีเกศ ใบหูโค้งมีติ่งยาว ลำตัวได้รูป หัวเข่ามนใหญ่ หน้าตักตรง
ประทับบนฐานบัว ๕ กลีบ อยู่ภายในซุ้มระฆัง ด้านหลังจะเรียบ
เนื้อพระ
พระองค์นี้เป็นพระใช้น้อย สภาพผิวค่อนข้างสมบูรณ์ เป็นโซนเนื้ออ่อน
เนื้อพระมีสีขาวอมเหลือง ลักษณะคล้ายเนื้อเทียน อาจจะเกิดจากการแช่น้ำมนต์ในพิธีการสร้าง
เนื้อพระมีความเหี่ยวเป็นลอนคลื่นทั่วทั้งองค์ สีของเนื้อพระดูเป็นจ้ำๆ อ่อนบ้าง เข้มบ้าง ผสมกันทั่วทั้งองค์ จากเนื้อพระผสมกับน้ำมันในเนื้อ
และในหลายๆ จุดมีฝ้าขาวคลุมผิว ปนกับคราบน้ำมันสะสมอยู่กับคราบฝุ่นและคราบหิ้งเก่าๆ แห้งๆ
การดูความเก่าของเนื้อพระสมเด็จ อายุมากกว่า ๑๕๐ ปี
ผืวพระต้องเห็นความเหี่ยว ไม่เรียบตึง มีแคลไซต์คลุมผิวใสๆ ทั่วไปได้ทั้งองค์ ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ ส่องเอียงๆ หรือแนวระนาบ จะดูง่ายขึ้น
เนื้อพระส่วนที่อยู่สูงจะแห้ง และนวลตา จากคราบปูนที่ผุดขึ้นมาบนผิว พร้อมกับความชื้นที่ระเหยขึ้นมาจากด้านใน จนมาแห้งอยู่ด้านนอก
และในส่วนที่อยู่ลึกลงไปจะมีความฉ่ำ สลับกันไปแบบนี้ ทำให้เนื้อพระแทบไม่มีจุดไหนเลยที่มีสีเรียบๆ สีเดียวในบริเวณหนึ่งบริเวณใด
ถ้าเป็นด้านหลัง ผิวส่วนมากจะแห้งไม่เรียบมันเงา และก็จะต้องมีความฉ่ำในร่อง ดังนั้นถ้าผิวพระแห้งทั้งหมดหรือฉ่ำทั้งองค์จะผิดธรรมชาติพระเนื้อผงหรือเนื้อปูนเก่านะครับ
ยิ่งถ้าเป็นพระแช่น้ำมนต์ หรือใช้ทำน้ำมนต์มา คราบฝ้าขาวและความฉ่ำในร่องอาจจะมากกว่าพระที่ไม่ได้แช่น้ำมา จุดนี้เป็นจุดสำคัญสำหรับการศึกษาพระสมเด็จนะครับ
สำหรับด้านบนผิวจะมีความใสเหมือนมีเปลือกคลุมผิว ให้ความรู้สึกเหมือนมองเห็นเนื้อและมวลสารในเนื้อข้างใต้ได้ แต่ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ มีพระสมเด็จ หรือพระเนื้อผงปูนหรือเนื้อผงยุคเก่ามากๆ ผิวพระจะมีคราบปูนแคลไซต์มากกว่านี้ บางองค์อาจคลุมผิวเกือบทั่วทั้งองค์ จนมองเห็นมวลสารได้ยากขึ้น ซึ่งต้องพิจารณาลักษณะของคราบ และมองหาจุดที่จะดูเนื้อมวลสารข้างใต้ และองค์ประกอบอืืนๆ นะครับ
และเมื่อเรามองดูที่รอยปริแยก ให้หารอยกระเทาะหรือหลุมเก่าๆ เราควรจะเห็นแคลไซต์ขึ้นในร่องและรอบๆ รอย โดยเฉพาะรอยแยก จะมีการยาตัวของเนื้อพระ เหมือนที่ว่าพระสมเด็จมีชีวิต ทำให้ดูไม่เป็นร่องแห้งๆ
พระสมเด็จส่วนมากต้องเห็นรอยที่มีก้นหลุมเก่าๆ ส่วนมากจะดูฉ่ำเพราะการรวมตัวของคราบน้ำปูนและน้ำมัน และรอบๆ ปากขอบต้องขรุขระเพราะมีคราบแคลไซต์รอบๆ ไม่ใช่ขอบใหม่คมๆ
ขอบข้างของพระสมเด็จ ไม่ควรจะคมเป็นสันรอบองค์โดยเฉพาะมุมทั้ง ๔ ด้านนะครับ
ส่วนรอยตัด ไม่ได้ใช้เป็นเกณฑ์เสมอไป เพราะร่องรอยเหล่านั้น ถ้าไม่ได้ชัดหรือลึก ปัจจุบันอาจจะเลือนเพราะถูกคลุมด้วยแคลไซต์ จนมองเห็นได้ยากครับ
มวลสาร
มวลสารที่พบ
ผงวิเศษ ลักษณะเป็นก้อนสีขาวๆ ดูเป็นจ้ำๆ ปนกับคราบน้ำมันอยู่ในเนื้อ
ผงใบลาน สีดำ ทั้งที่ดูเป็นเม็ดและเป็นเส้นขุยๆ
ก้อนมวลสารสีม่วง มีการกระจายตัวออกรอบๆ และก้อนแร่สีน้ำตาลแดงซีดๆ กร่อนๆ
ก้อนแร่สีขาวขุ่น และขาวใส คล้ายหินทราย หรือซิลิก้า
แร่สีส้มอมน้ำตาลแดง
มวลสารสีเหลืองนวลๆ และเหลืองใสๆ มีความเหี่ยวและกร่อน ทั้งเป็นมวลสารลอย และจมอยู่ในเนื้อ
มีมวลสารและคราบสีเขียวๆ แห้งและแข็ง น่าจะเป็นคราบตะไคร่ใบเสมา
ก้อนแร่สีดำ เงาๆ มีลักษณะมนๆ ดูมีความแกร่ง ลักษณะคล้ายเหล็กไหลไพลดำ
มีก้อนมวลสาร เป็นก้อนเหลี่ยมๆ ขอบมนๆ ติดแน่นอยู่
วิธีดูมวลสารเก่า
แร่หรือมวลสารต่างๆ ถ้าเป็นมวลสารลอย ที่อยู่บนผิว เราต้องสังเกตเห็นความกร่อนบนผิว มวลสารบนผิวก็ยังต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเกิดขึ้น ถ้ามวลสารที่เป็นแร่โลหะ ก็ยังต้องมีออกไซด์เกิดขึ้น หรือมีความหลากหลายบนผิวให้เห็น และเมื่อสังเกตรอบๆ ก้อนมวลสาร มักจะมีคราบแคลไซต์ และขอบก้อนมวลสารจะผสานรวมอยู่กับเนื้อพระเหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ดูเป็นการติดหรือฝังลงไป
พระแท้อาจจะไม่ได้หายากเท่าพระแพง ขอบคุณที่ติดตามรับชม ทุกการกดไลค์ กดแชร์เป็นธรรมทาน ทุกความคิดเห็นและกำลังใจดีๆ แล้วไว้พบกันใหม่ สุขกายสุขใจครับ