เรา...มีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า? | เจาะลึกคำสอนพระพุทธเจ้าเรื่อง 'ตัวตน' และ 'ภาษา

[@khaw_oadchatmongkol595]

ขอขอบคุณ กับจิ๊กซอว์ ตัวใหญ่ ที่คุณ มอบให้ หากใครเข้าใจ มีสติพอ จะเรียนรู้ อนัตตา ก็เริ่มวาง อัตตา

[@khaw_oadchatmongkol595]

ขอขอบคุณ

[@panopct2743]

การเข้าใจในธรรมที่ลึกซึ้ง เช่น กฎไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั่นต้องเกิดปัญญารู้แจ้ง(วิปัสสนาญาน) ซึ่งการจะเข้าถึงความรู้แจ้งนี้ได้ ก็ต้องเข้าใจ อริยสัจสี่ และอบรมมรรค8ให้เจริญ...ธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าเป็นไปตามลำดับ คือต้องฝึกสติสัมชปัญญะ อบรมจิตให้เกิดศิล สมาธิ และ ปัญญาไปตาม ลำดับๆ จิตหรือสติสัมปชัญญะ จึงมีกำลังเข้าไปรู้แจ้งความจริงของกายใจ กระทั่ง ปล่อยวางสิ่งที่ยึดมั่นหรือตัวตนที่หลงยึดกายใจลงได้...จิตอิสระ นิพพาน ส่วนการพิจารณา ไตรลักษณณื หรือ ความไม่มีตัวตนที่แท้จริงของขันธ์5 เรื่องนี้ มองในหลายแงุมุม จะมองว่าเป็นสมมุติหรือการปรุงแต่งทางภาษาก็ได้ มันแค่สมมุตินั่นแสดงว่ามันไม่มีจริง หรือมองในแง่ความเป็นธาตุคือ กายนี้เป็นที่ประชุม ดิน น้ำ ลม ไฟ ชั่วคราว ไม่นานก็ต้องแก่ เจ็บ ตาย ร่างกายเมื่อเอา ไปเผาก็เหลือแค่ธาตุดิน แล้วธาตุดิืนมีใครเป็นเจ้าของไหม คนทิ้งสิ่งปฎิกูลต่างๆลงดิน ถามว่าดิน รู้สึกไหม ไม่รู้สึกใช้ใหม่ นั่นแหละไม่มีตัวตนที่แท้จริง หรือส่วนของจิตใจ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน เกิดแล้วก็ดับๆๆๆ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ อนัตตาเช่นกัน หรือพิจารณา ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ของกายใจ หรือขันธ์5 ให้เห็นแจ้งได้ แต่อย่าลืมว่า จิตมีกำลังจะเห็นแจ้ง(วิปัสสนาญาน)ได้หรือเปล่า หรือแค่คิดๆๆแบบนี้ยังไม่รู้แจ้งความจริง แต่คิดเอา ไว้ก็ดีกว่าไม่คิดพิจารณา...

[@tanapatjantarak-im3lz]

ขอบคุณครับผม..ในทางจิตวิทยา คนเรามาตัวตนสามแบบ คือ 1.ตัวตนในอุดมคติ 2.ตัวตนที่เป็นจริง คือ ตัวตนที่คนอื่นมองเห็น 3.ตัวตนที่ตัวเองมองเห็น

[@siwaphol7323]

ทำไมตัวตนที่คนอื่นมองเห็นถึงเป็นตัวตนจริงของเราหละครับ เพราะแต่ละคนก็มองเราคนละแบบ บางคนมองเราเป็นคนอบอุ่นเข้าอกเข้าใจคนอื่น บางคนมองเราเป็นคนหัวร้อนไม่น่าคบ บางคนมองเราเป็นคนที่ดี บางคนก็มองว่าเราไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าความสัมพันธุ์ของเรากับคนที่มองเรานั้นเป็นแบบไหน

[@Area911]

สาธุ

[@homelessman3748]

​@@siwaphol7323น่าจะหมายถึง ตัวตนที่เป็นรูปธรรม หรือร่างกาย กระมังครับ😁

[@3200zoom]

ยอดเยี่ยมครับ ผมใกล้เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับผม ที่ผมคิดคือเป็นเส้น อดีตปัจจุบันอนาคต เราทำอะไรเส้นมันก็จะเปลี่ยนตามนั้น และแยกเส้นแตกแขนงไปอีก ตามที่เราคิดหรือเปลี่ยนอะไรบางอย่าง มันคือแผนที่ของตัวเราเอง และเราก็จะวนอยู่แบบนั้น คุณลองวาดเส้นของคุณตั้งแต่อดีตจนถึงอนาคตดูครับ มันจะวนอยู่ที่เดิม และจะมีเส้นที่แตกออกมาด้วยเหมือนรากต้นไม้ เมื่อเราคิด ผมอธิบายไม่เป็น

[@DaNa-mv6uk]

@@3200zoom ติดในความคิดไปทำไม ในเมื่อเราเดินเป็นเส้นตรง เกิด ระยะทางคือความ เจ็บ ตายคือเส้นชัย แค่ตรงไปจะไปซิกแซกให้ปวดกบาลทำไมครับ

[@Lifeisgoooood666]

ขอบคุณสำหรับคลิ๊ปดีๆมากเลยค่ะ อยากให้ใส่ subtitle ภาษาอังกฤษ จะได้แชร์ให้เพื่อนฝรั่งได้ด้วย ชอบมากค่ะ ใช้ภาษาอธิบายความสัมพันธ์ได้เข้าใจง่ายมากๆ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

[@Anbandoy]

ตัวตนที่เป็นกายเนื้อไม่มี สรรพสิ่ง ย่อมดับสลาย จะมีจิตที่เป็นพลังงาน+ตัวรู้คือวิญญาณ+สติที่จะไปกับเราทุกมิติ ในโลกคู่ขนาน จะสื่อสารข้ามมิติอย่างไร ก็อยู่ที่วิธีการ ของผู้ที่อยู่ต่างมิติ..

[@จตุรงค์รรรก]

สรรพสิ่งทั้งหลายเสมอกันสิ้นไม่ว่าสัตว์บุคคลเหล่าเขา

[@Knbvccxfghvvhjj56777]

ช่องนี้ไม่พลาดแน่นอน งานคุณภาพทุกชิ้น ขอบคุณมากมีสาระมากครับ

[@ชาญชัย-ฬ3ม]

ระเบิดพลังแห่ง"เราเป็นเรา"🌏🏳️‍🌈สุดยอดแต่เช้าเลย​ ขอบคุณคับแอด💜สุขภาพแข็งแรงคับ🎉

[@1ystyle]

อธิบายเชิง อุปมาอุปไมยได้ดีครับ เป็นพอดเเคช ที่ดีทีเดียว เหมาะสำหรับฟังสบายๆ กับพวกเริ่มศึกษา

[@thapaaneejittipan9478]

เรามาจากจักรวาล(ภพภูมิคือดวงดาวฯลฯในจักรวาลในนาม.และแสดงนามรูปในภพมนุษย์โลก.เรามาอาศัยเขาอยู่ในสถาวะธาตุ๔/ขันธ์/อายตนะ๑๒.เรา(จิตหนึ่ง)จึงต้องบำรุงรัษาเขาให้มีความเป็นอยู่ตามอัตภาพแก่เขา.เมื่อเราจากเขาไป(ภพฯลฯ)เราก็จะมีบุญกุศลเป็นเสบียงในการเดินทาง.ขอบคุณกายวิญญาน.ที่อนุเคราะห์จิตวิญญาน.สรรเสริญพระเจ้า___พระบิดา__พระบุตร___พระวิญญาน...Aman.

[@ฤๅษีเงินปรศุรามนันทโพธิัสัตว์]

ขอบคุณ ครับ ที่นำเสนอสิ่งดีๆ

[@johnlo397]

ตั้งแต่ฟังมา คลิปนี้ถือว่าดีสุดแล้วสำหรับผม อธิบายได้ดีถึงแม้ว่าจะจับโน่นนี่นั้นมารวมกันแต่ก็ดีมากเป็นประโยชน์มาก

[@ลวงวังไฮ]

พยายามอธิบายเท่าไร ก็เข้าใจยากอยู่ดี เอาง่ายๆ ว่า คนเรา ตายแล้วเกืดอีก เกิดแล้ก็ตายอีก มีมากคนที่สามารถระลึกชาติแล้วได้ นี้คือการยืนยันแล้วว่าตายแล้วเกิดอีก มากคนที่ทำสมาธิ มีจิตวิญญาณแก้กล้าสามารถระลึกชาต ได้หลายชาติ แต่พระพุทธเจ้าสามารถระลึกชาติได้ทุกชาติ จะยกเอาชาตินั้นนั้นมาพิจารณา มันจะเหมือนชาตินั้นพึ่งผ่านมาสามวัน ทุกคนก็เป็นเหมือนพระพุทธเจ้าคือตายแล้วเกิดอีก เมื่อทุกครั้งเราเกิดเราก็มีหนึ่งกาย เมื่อเราเกิดมาแล้ว 10,000000000000000000000000 ชาติ เราก็มี 10,0000000000000000 ……. กาย ทุกกายล้วนเป็นกายเรา และทุกกายนั้นก็ล้วนแตกต่าง นี้คือเราไม่มีตัวตน(เป็นของเราจริง เท่ากับมี แน่มีไม่จริง) 29:16 ใช่กายนี้คือกายเรา กายนีืจะเปลี่ยนและจะดับสูญหาย ทุกกายที่เรามีผ่านมาจึ่งไม่ใช่กายเราจริง ในอานาคต เราก็จะมีกายแต่กายนั้นก็ไม่ใช่ของเราอีกเช่นเคย แล้วเราจะต้องการมีกายไปทำไม ถ้าเราทำตามพระพุทธองค์ตรัส มรรคแปดองค์ เราจะพบจิตพุทธะเช่นพระพุทธเจ้า แล้วเราจะรู้ว่าความทุกข์มันเกิดเพราะเรามีจิตมีกาย จิตกายก็ต้องมีอาหาร มีคู่ มีหนาวร้อน มีโรคภัย มีกิเลส มีการต่อสู้แข่งขัน ล้วนแต่ทุกข์ที่เกิด และทุกข์ที่ดับไป มีจิตพุทธะเราจะเป็นเช่นพระพุทธเจ้า เห็นเช่นพระพุทธเจ้า เมื่อสิ้นกายสังขารสิ้นจิตสังขารทุกข์มันจะมาจากไหน ขันธ์ห้าคือตัวทุกข์

[@Area911]

จริงๆอาจมีแค่ตายแล้วเกิดเหมือนที่เราเห็นก็ได้ครับที่หมายถึงการเวียนวายตายเกิดเหมือนวัฏจักรชีวิตอ่ะ สืบทอดเชื้อสายต่อๆกันไปสะสมความดีสอนลูกหลานให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ทุกข์ไม่ร้อนใจ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เดือนร้อนใครแล้ว

[@Udom456-vl7fo]

ไม่มีความสงสัยเลยในตัวตน

[@สายฟ้า-thunder]

แต่ผมเห็นดวงจิตคนตอนมาเกิดครับ

[@DaNa-mv6uk]

ทำไมต้องพยามดิ้นรนมาเกิดด้วย มันมีดีอะไร อยู่นิ่งๆเป็นอะตอมในความว่างมันก็ดูสบายกว่านะ อะตอมขยับเมื่อไหร่เป็นทุกข์ทันที

[@ลวงวังไฮ]

สาธุ ทุกท่านที่มาคัมเมนต์ ออกความเห็น ล้วนแสดงความเห็นที่ดี สาธุ แต่ขอเพิ่มอีกนิดครับ คิดดีทำดีไม่พอนะครับ ต้องเข้าใจสัมมาทิฏฐื ก็มีหวัง จักเข้าถึงจิตพุทธะได้ ในชาติ ต่อๆ ไป เช่นพระพุทธองค์ได้อธิษฐานเป็นพระพุทธเจ้า จงกลายเป็นอานุสัยฝังจิตทุกชาติที่เกิด มีจิตฝักไฝ่ นับกัปนับกันป์ไม่ได้ ขอเพียงชาตินี้สร้างอานุสัย ศึกษาจนเข้าใจแล้วความเชื่อความศัทธา มันต้องเกิดตามมา เป็นต้นทุน เผื่อต่ิอยอดในชาติหน้า ๆ ๆ มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่รู้ธรมชาติ และที่ทำเพื่อธรรมชาติ รักษ์ธรรมชาติ และเป็นอิสระจากธรรมชาติ เป็นศาสนาที่พิสูจน์ได้(พระอรหันต์) พระพุทธเจ้าสอนคนอื่นให้ได้เป็นพระพุทธเจ้า เป็นอืสระภาพ ไม่ได้สอนให้แบ่งแยก เพื่อให้ได้ไปเป็นทาสของพระพุทธเจ้า

[@channujunphen6997]

ปัจเจกบุคคล​แท้ๆขอบคุณ​ครับ

[@บัญชานิพพาน]

ตัวตนที่คุณบอกคือสิ่งต่างๆที่มาประกอบจนเป็นเราใช้ไหม ทางวิทยาศาสตร์​คือสิ่งมีชีวิตที่มารวมตัวกันจนก่อเกิดเป็นรูปร่างอวัยวะและร่างกาย ส่วนธรรมมะคือร่างกาย จิตใจ ประกอบด้วย ความทรงจำความสุขความทุก อารมณ์ ร่างกาย

[@เอกชัยทับผดุง]

ขอบคุณครับ ถือว่าดี ที่ได้มาเจอคลิปนี้ ถึงแม้จะยังทำไม่ได้ แต่ก็เข้าใจครับ

[@ปฏิวัติภัทรธนไทย-ฦ4อ]

สอน และอธิบาย ได้แจ่มแจ้ง เลยครับ

[@pimployboonthong3902]

❤❤❤❤ ขอบคุณสาระดีดีค่ะ ฟังง่าย เข้าใจง่าย😊

[@perasaksangkaew1950]

อธิบายได้ดีมากครับ ฟังแล้วเข้าใจมากขึ้น (ทำต่อเรื่อยๆนะครับ)

[@npldpm9639]

เปรียบเทียบได้ดีครับ เวลาปฏิบัติ เป็นประสบการณ์ของใครของมันครับ

[@homelessman3748]

ธรรมะของพระพุทธเจ้า อาจไม่ได้ยากแก่ความเข้าใจ แต่มันน่าจะยากต่อการยอมรับ เสียมากกว่า เพราะธรรมะอันบริสุทธิ์ (ปราศจากการบิดเบือน) ของพระพุทธเจ้า ก็คือ ธรรมชาติ! นี่เอง ไม่ใช่ เหนือธรรมชาติ อย่างที่เหล่าสาวกทั้งหลายกระสัน อยากได้ อยากมี อยากเป็น นั่นแล😁

[@tpunyapunya7084]

อธิบายให้เข้าได้ดี👍

[@น้องพอใจเป็นคนตลก]

ขอบคุณสำหรับสาระดีๆครับ

[@lnmeo]

เป็นคลิปที่ดีครับ

[@TheLastOne_channel]

ความรู้ความเข้าใจเหล่านี้ต้องเกิดจากการปฏิบัติจนเกิดปัญญาในระดับพระอนาคามีผลเลยนะคะ จึงจะสามารถถ่ายทอดออกมาได้แบบนี้ สาธุค่ะ 🙏

[@poowanaichaingam8386]

ขอบคลิปนี้มากๆ ลึกซึ้งเลยครับพอได้ฟังแค่เพียงครั้งเดียว แต่จะฟังหลายๆรอบเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งทุกๆคำทุกประโยคทุกๆความหมายเลยครับ ขอบคุณที่ทำคลิปดีๆแบบนี้ออกมาให้พวกเราได้รับฟังครับ ขอบคุณครับ

[@ผ่านมาเล่า-ค2ฮ]

ผมศึกษาพระพุทธวจนมาพอมาเจอคลิปนี้รู้เลยว่า ช่องนี้รู้จริง

[@VR.46.392.]

(ความคิดความรู้สึกผมเองนะ)เป็นเพียงแค่สิ่งสมมติครับ แต่อย่าไปคิดสุดโต่งเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เราป่วยทางจิตใจจิตวิญญาณ จงใช้ชีวิตอยู่กับตัวตนของตัวเองให้มีความสุขให้ดีที่สุด ค้นหาจริตสิ่งที่เป็นตัวตนของเราให้เจอแล้วลงมือทำ...อย่างมีความสุขกับสิ่งนั้น...หมั่นเรียนรู้ชีวิตอยู่ตลอดเวลาอย่าปล่อยให้ตัวเองว่างเปล่าเด็ดขาด

[@icebear1744]

ความ​เชื่อ​หรือ​ความ​เลื่อมใส​ก็​เป็น​อันตราย​เป็น​บวกเป็น​ลบได้.. ทุก​ความ​เชื่อ​จึง​สิ้น​สุด​ที่​เหตุ​และ​ผล​เป็น​คำตอบ​สุดท้าย.. ระวัง​นะ​จะ​ทำให้​ถูก​ปกครอง​ง่าย... 😂😂😂😂

[@kriangboon]

คลิปนี้ก็ทำให้คิดว่าช่องนี้เหมือนอธิบายวิทยาศาสตร์หรือกำลังบรรยายปรัชญา ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว แต่ฟังทุกคลิปครับ😊😊

[@goodfishthailand.656]

😊❤ลึกซึ้งๆ ขอคาราวะ.

[@boycoh]

เป็นแนวทาง ขอบคุณครับ

[@thewakrit41]

อนุโมทนาบุญนะครับ สาธุ

[@SomboonSuthawa-zj8gc]

..ในมุมมองผม มนุษย์ภายใต้กฎเกณฑ์ของแสง มี 4 สิ่งสำคัญ เป็นโครงสร้างประกอบเป็น มนุษย์ คือ 1..กายหยาบ ตาเนื้อมองเห็น 2. ใจ มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ 3. จิต มองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ 4. วิญญาณ มองไม่เห็น รู้สึกได้ ..โดยมี สมองเป็นแหล่ง จ่ายพลังงานและขับเคลื่อน ตัวตนให้ทำอริบทต่างๆได้ แต่วิญญาณ,จิต,ใจ ก็สามารถแสดงพลังงานได้ ทั้งแบบอิสระ ,เชิงเดี่ยว,เชิงคุ่ ,หรือรูปแบบอื่นใดอันหลากหลาย หากได้รับการกระตุ้น จากเชื้อกำเนิด คือ พลังปัญญา ..แต่ 4 สิ่งสำคัญนี้ จะทับซ้อนกันอยู่ อย่างมีนัยสำคัญ ไล่จากใหญ่ไปเล็กตามลำดับ คือ ร่างกาบหยาบ, ใจ,จิต,วิญญาณ....

[@hakurograham9486]

แอด ผมชอบคลิปนี้เป็นบ้าเลยครับ ขอบคุณมากนะครับ

[@KhamtaKhata]

🎉🎉🎉ภาษาแอดชวนฝัน..❤❤❤

[@erawatdrumsing1169]

สรุปท้ายคลิปได้งดงามมากครับ 👍✨😊

[@beam1404]

ต้องเข้าใจเรื่องเวลาก่อนครับ เวลาแท้จริงแล้วมันไม่มี ปัจจุบันขณะมันนับเป็นปริมาณไม่ได้ มันไม่มีขนาด ในทางวิทยาศาสตร์ เราจะบอกว่าตัวตนของสิ่งใด ต้องมีค่าเวลาด้วย อย่างโลกเราเมื่อปีที่แล้วกับตอนนี้มันไม่ใช่ของเดิมนะ คนละโลกกัน แล้วตัวเราล่ะ เมื่อวินาทีที่แล้ว ตำแหน่งกาลอวกาศมันค่าหนึ่ง ตอนนี้ค่ามันเปลี่ยนไป เราเปลี่ยนไปแล้ว ภายในเสี้ยวของเสี้ยววินาที แล้วตัวเราที่บอกว่าคือตัวเรามันตัวเราตอนไหน ในเมื่อมันคงที่ไม่ได้ แล้วจะระบุได้ไงว่ามันคือตัวตน ถึงแม้เมื่อวินาทีที่แล้วกับตอนนี้หน้าตาเราจะเหมือนเดิม แต่ถ้าสรรพสิ่งในจักรวาลเปลี่ยน นั่นหมายถึงเราไม่ใช่คนเดิม สัมพันธภาพ ตำแหน่ง และเวลา สภาพจิตใจ ความคิด ฯ มันเปลี่ยนหมดทั่งจักรวาล ตัวตนมันถึงมีไม่ได้

[@Nobody11977]

ร่างกายนี้ เราไม่ได้เป็นเจ้าของ มันอาศัยหลายสิ่งหลายอย่างสร้างขึ้นมา เราจึงควบคุมมันให้เป็นไปตามใจทุกอย่างไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่เหตุปัจจัยของการรวมตัวกันเป็นร่างกายนี้หมดไป ร่างกายนี้ก็ต้องแตกดับ สิ่งต่างๆ ที่มารวมเป็นร่างกายนี้ ก็ต้องแยกกันไป แล้วก็มารวมกันใหม่เป็นคนใหม่ ชีวิตใหม่

[@กฤษณะเดชวงษ์ขุนเณร]

ที่คนเรา อธิบายตัวตนไม่ได้ก็เพราะ คนเรา โกหกตัวเอง ไม่อยากให้ใคร ใครมาว่ามาตำหนิ ตัวเองแล้วก็หลงในแสงสีกิเลสตัณหา จึงทำให้หลอกตัวเองมาตลอดเวลา ถ้าเข้าถึง พุทธะ เมื่อไหร่ นั่นแหละ จึงจะเห็นตัวตนที่แท้จริง😢😮😢

[@มโนสัญญาตัญหา]

เห็นอนัตตา คือ มันไร้อัตราตัวตนคนสัตว์ “เมื่อความคิดต่าง ๆ เกิดขึ้น สิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดก็ต้องเกิดขึ้น เมื่อความคิดต่าง ๆ ดับหายไป สิ่งต่าง ๆ ทั้งหมด ก็ต้องดับหายไป”

[@สายฟ้า-thunder]

แต่จิตไม่ดับตามครับ​@@มโนสัญญาตัญหา

[@สมชัย-ภ4อ]

รู้ได้ไง

[@l3ownum]

น่าจะคิดกลับนะครับ ว่า การเข้าถึงพุทธะแล้ว เจอตัวตนที่แท้จริงก็คือ การหลอกตัวเองคือ การแสวงหา ตนตน ที่ตั้งไว้ด้วยความพอใจตั้งแต่แรก

[@daizaaaa]

เพราะเรามีร่างเดียวเราจึงมี1เดียว รู้สึกตัวตนเองคนเดียว เพราะมีระบบเดียว เราแค่มีการต้องการสืบเผ่าพันธ์และเอาชีวิตรอด เราจึงรักตัวเอง และเราแค่ฉลาดเกินไปจึงสงสัยการมีตัวตนอยู่

[@นพคุณมหารัตนวงศ์-ภ2ด]

มิใช่ ตัวเรา-ของเรา เพราะพระเจ้าฯทรงสร้างมา อินทรา พระบิดา พระเมตตา❤

[@Sharingwisdom2]

ขอบคุณครับ

[@surin-tawan]

ฝันดี ทุกคน รอตั้งนาน

[@Beast666-d9p]

Thank you ❤

[@user-jitissara1974]

อธิบายไม่ได้ เพราะตัวตนไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงสมมุติ ที่มนุษย์หรือจิตสังขารสร้างขึ้นมา เพราะทุกสิ่งบนโลกสมมุตินี้ล้วนเป็นอนัตตาไม่มีอยู่จริง

[@tummano3500]

ไม่เคยฟังอะไรแนวนี้ เคยฟังแต่อาจารย์บางคนที่เหมือนจะมีความรู้ความเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับสมมุติ แต่เค้าก็ยังไม่ได้ละทิ้งสมมุติ ยังยึดยังถืออยู่ การที่ท่านพูดว่าไม่เบียดเบียนใคร คำนี้น่าจะบ่งบอกว่าท่านยึดมั่นในศีลซึ่งเป็นผลมาจากการภาวนา ผมคิดว่าท่านน่าจะมีดวงตาเห็นธรรมแล้วแน่ๆ

[@Freedom-yz6zl]

เออ มันเจ๋งว่ะ

[@chawaphongsuwanwaikhoon7477]

วิญญาณโดยความหมายตามรูปศัพท์ Consciousness คือความรู้แจ้งทางอารมณ์ประสาททั้ง ๕ และทางใจ คือ การเห็น การได้กลิ่น การได้ยิน การรู้รส การรู้สัมผัสทางกาย และการรู้อารมณ์ทางใจ แค่นี้เท่านั้น ไม่ใช่ภูตผี วิญญาณตามความหมายในภาษาไทย ควรเน้นยำ้

[@HAOMIME]

ความแก่ ความสุขทุกข์ และความคิดต่างๆเกิดขึ้นมาเองโดยที่เราไม่ได้สั่ง …ก็ยืนยันได้ว่าสิ่งต่างๆไม่ใช่เรา

[@wutbass]

ขอบคุณมากครับ❤

[@น็อนน๊อย-ซ1ข]

ขอผู้ที่จัดทำคลิปนี้และผู้สดับฟังโดยตั้งใจจงสำเร็จโสดาปฏิผลในทันทีที่ฟังคลิปจบด้วยเทอญ สาธุ นิพานะปัจจโยโหตุ

[@13263846]

เมื่อปีก่อนที่แล้ว เรายังไม่ได้รู้จักอะไรได้แบบในตอนนี้เลย ชัดเจนมากในการที่เราเกิดมาจากต้นทุนทางสภาพธรรมชาติที่เป็นร่างกายอย่างที่มันเป็นเปลี่ยนแปลงไปในแบบของมันความเป็นอยู่ที่ต่างกันมากยังไงก็ต้องมามองหาเหตุผลต่อกันให้ได้การที่ค่อยๆขยับปรับสู่ครรลองหนทางที่สอดคล้องถึงกัน ตั้งอยู่กับสิ่งที่มันมีมาแบบนั้น ตั้งอยู่กับผู้คนอื่นๆ สู่ตัวเราในข้อจำกัดที่มันต้องรู้จักเข้าใจและทำอะไรๆเป็นของตัวที่จะนำออกมาใช้มามีปฏิสัมพันธ์เติมเต็มต่อกันให้ได้ ไม่ว่าจะสรุปรู้จักเข้าใจในสิ่งใดได้มันจะไม่หยุดลงแท้แค่นั้นอย่างน้อยๆก็ต้องนึกคิดทบทวนตระหนักถึงอยู่แน่ๆต่อสภาพที่รับรู้ว่าเป็นตัวตนอยู่นี้หลับตาลงนอนก็ไม่รู้แล้วถึงโลกที่เป็นไปอยู่ของมันแต่ทำไมจึงเชื่อและวางใจว่ามันยังอยู่แบบนั้น?ไม่มีอะไรที่ยึดแล้วอะไรจะมาหลุด?มันยึดได้ยังไง!ก็ไร้ประโยชน์ เมื่อตอบไม่ได้!ปัจจุบัน ง่ายๆ ถ้าไม่ได้มีไม่ได้อยู่ ตามสภาพเช่นนั้น จะต้องทำอะไร จะต้องทำให้ได้อะไร อะไรผิดอะไรควรเพราะมันมีต้นแบบมีเหตุผล และมันควรเริ่มที่เราอยู่ในหนทางนี้ของมัน มันชัดมากว่า มีอะไรที่เราสร้างมันขึ้นมาเหรอ?เราเข้าใจควบคุมมันได้จริงๆเหรอ?ต่างก็ล้วนแต่ของคนอื่นเค้าทั้งนั้น แล้วเค้าล่ะ?!ไปเอามาจากไหน สร้างมาได้จากอะไรกัน?!ความจริงที่ มนุษย์สื่อสาร อยู่ร่วม พูดคุยแลกเปลี่ยน มันก็แค่ควรทำงานของมัน ปฏิสัมพันธ์สังคมตามข้อจำกัดที่เราเป็นมา เรื่องที่ง่ายๆเรียบๆที่ยังไม่ได้สมบูรณ์พร้อมอันใด ยังคงจัดการได้แค่ตามสภาพมั่นคงที่สุด ดีที่สุดตามสติปัญญาความรู้สึกของตนต่อผู้คนของเราความรักความเคารพความเชื่อมั่นที่มี ก่อนที่จะเป็นตัวเราอีกจุดช่วงขณะนั้นๆ ที่มันยังต้องดำรงอยู่ต่อไป รู้จักอะไรอยู่ ทำอะไรได้แค่ไหน สำคัญอย่างไรเชียว เข้าใจอะไรอยู่ ต้องกินต้องใช้ มันก็ยากมากๆๆๆแล้ว ที่จะมั่นคงราบลื่นลงตัวต่อกันได้ ก่อนที่จะไป สำนึก หยั่งลึก องค์ความรู้อื่นใด ที่บังคับให้ว่า จะมีประโยชน์อะไร ใครจะมารู้ เหมือนกันต่างกันยังไง จะใช่เหรอ อะไร อย่างไรก็แล้วแต่ 😅😅😊😊😂😂❤❤

[@nongtwasana29]

เราเห็นโลกของเราผ่านแค่ตาเราเองเท่านั้นทั้งชีวิตจนคุณตาย เราไม่สามารถเห็นผ่านตาคนอื่นได้ เมื่อเราตายมันก็จะจบลงไม่มีคุณไม่มีผมไม่มีโลกที่ผ่านสายตาเราที่เห็นมาตั้งแต่เกิดอีกแล้ว เราไม่รู้ว่าชีวิตจะเริ่มใหม่ไหม หรือจะจบลงที่ความว่างเปล่า ศาสนาคำสอนจึงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตวิญญาณเราด้วยคำสอนถึงโลกใบนี้ และโลกหน้าที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีจริงหรือไม่ ผมถามตัวเองเสมอว่าจริงๆ ผมอยู่ที่นี่ทำไม เพราะเราเห็นแค่โลกของเราผ่านตาเราเท่านั้น ร่างกายนี้แค่ยืมมา เราเกิดก็เหมือนเปิดไฟ เราตายแค่ปิดไฟ...แค่ปลงครับ...ตอนนี้ที่เรายังหายใจอยู่จึงทำให้ดีที่สุดเท่านั้น(ความคิดส่วนตัวนะครับ ผิดประการใดขออภัยด้วยครับ)

[@B13-z4c]

ผมก็เคยสงสัยในเรื่องแบบนี้ และสงสัยว่าจิตของเราจะอยู่ได้ตลอดไปไหม คิดไปคิดมาดันสับสนแล้วก็รู้สึกกลัวเฉยเลย

[@วิศรุต-ซ5ภ]

รูปและนาม ขาวกับดำ จิตกับกาย เธอกับฉัน สิ้งนั้นเกิดสิ้งนี้ย่อมเกิด สิ้งนั้นดับสิ่งนี้ย่อมดับ สิ้นเหตุผลก็ดับ

[@bigplus8621]

ว่าจะไม่ดูไม่คิดเรื่องพวกนี้อีกแล้วพอก่อนขอโฟกัสกับความเป็นจริงสิ่งที่จับต้อได้ดีกว่า ขอตัดสิ่งที่ชอบแต่มันไม่เกิดผลประโยชน์กับชีวิตประจำวันของเลยแม่แต่น้อย พอกันที ทุกสิ่งที่ชอบ 🫵

[@Man-e2q]

ดี

[@punpun6908]

ไม่ได้บอกว่าเชื่อเรื่องที่คลิปโน้มน้าวให้เชื่อนะ แต่หลายอย่างที่เขาพูดมันตรงกับที่เราคิดตั้งแต่เด็กๆที่ยากรู้คำตอบหลายอย่างแต่ไม่มีใครเข้าใจคำถามของเราคนอื่นออกแนวรำคาญเรา พอฟังคลิปนี้แล้วเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าเราไม่ได้คิดคนเดียว แม้เราไม่มีศาสนาแต่พุทธคือศาสนาที่ใครที่อยากจะมีศาสนาซักศาสนานึง นั่นควรเป็นพุทธ โลกคงจะสงบสุขกว่าตอนนี้

[@เป็น.อยู่.คือ]

แต่ผมกับชอบความคิดแอด

[@tianterry1337]

ความเห็นผิดว่ามีตัวตน(สักกายทิฏฐิ). เป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย. เป็น 1ใน3 สังโยชน์ ตัวที่ละวางยากที่สุด. ปุถุชน คนธรรมดาต้องก้าวผ่าน. เพื่อบรรลุเป็น. อธิยบุคคล. ขั้นโสดาบัน เพื่อพ้นประตูอบาย.......................................สักกายทิฏฐิ เป็นไฉน ปุถุชนในโลกนี้ ผู้ไร้การศึกษา ไม่ได้เห็นพระอริยเจ้า ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ได้ฝึกฝนในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ได้เห็นสัตบุรุษไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไม่ได้ฝึกฝนในธรรมของสัตบุรุษ ย่อมเห็นรูปเป็นตน หรือเห็นตนมีรูป เห็นรูปในตน เห็นตนในรูป ย่อมเห็นเวทนาเป็นตน หรือเห็นตนมีเวทนา เห็นเวทนาในตน เห็นตนในเวทนา ย่อมเห็นสัญญาเป็นตน หรือเห็นตนมีสัญญา เห็นสัญญาในตน เห็นตนในสัญญา ย่อมเห็นสังขารเป็นตน หรือเห็นตนมีสังขาร เห็นสังขารในตน เห็นตนในสังขาร ย่อมเห็นวิญญาณเป็นตน หรือเห็นตนมีวิญญาณ เห็นวิญญาณในตน เห็นตนในวิญญาณ นี้เรียกว่า สักกายทิฏฐิ

[@nataveerakan188]

เราหลงอยู่ในโลกเสมือนจริงเสมือนเราสวมแว่นVR... อันนี้ถูกต้องที่สุดท้ายที่สุดเมื่อเราตายไปสิ่งที่เราเคยมีเคยเป็นมันจะกลับไปสูความว่างเปล่าทั้งหมด..ทั้งหมดของชีวิตที่เราพยายามแสวงหา สร้างเวร สร้างกรรมเพื่อให้ได้มา เราก็ถูกหลอกนะสิ...เราจึงควรเลิกโง่กับโลกมายาเสียที...ควรดำรงอยู่เพื่สร้างปัญญาเพื่อความลุดพ้นจากความหลอกลวงสียที..เราสาละวนอยู่กับสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง

[@TanExH]

อยากให้แอดมินมาพูดคุยห้อง UsaChan ในติ๊กต๊อกหน่อยครับ อยากฟังความรู้

[@อุลตร้าแมนยิงแสงเลเซอร์]

อาจารย์แดงแกพูดเรื่องนี้นะ

[@musicseptember2136]

ฟังไปเรื่อยๆครับเลี้ยวมาถูกทางแล้ว❤

[@nonnon5978]

สิ่งมีชีวิต ก็เหมือนคอมพิวเตอร์หรือเครื่องจักรกล ต่างกันตรงที่สิ่งมีชีวิตซ่อมแซมตัวเองได้ กับ สิ่งมีชีวิตหยุดทำงานแล้วจะพังสลายไปเลย แต่คอมพิวเตอร์เครื่องจักรกลหยุดทำงานแล้วกลับมาทำงานใหม่ได้ 😅😅

[@TakonLiangkrut]

ตัวตนในอดีดไม่มีจบสิ้น ตัวตนในอนาคตไม่มีจบสิ้น ปัจจุบันไม่มีอยู่จริง มองคนจุดย่อมเห็นไม่เท่ากัน ความรู้ประสบการสมาธิที่แตกต่าง ก็เห็นความจริงที่แตกต่าง

[@sleepTurn]

มาแต่ช้าเลยนะ

[@JKความจริงภายใต้หน้ากาก-x4i]

เราก็ดวงจิตดวงหนึ่งในจักรวาลที่แสวงหาการเกิดอยู่ตลอดเวลา เป็นนักท่องเที่ยว เป็นได้ทุกอย่าง สวรรค์ นรก โลกมนุษย์ สัตว์ เปรต อสุรกาย ทุกคนเป็นทุกอย่างมาแล้วแทบทั้งหมด

[@oat-1911]

สิ่งที่แอดกำลังจะสื่อว่า ให้รุ้จักปล่อยวาง อย่าไปยึดติด ทุกสิ่ง ทุกอย่าง เกิดได้ตามธรรมชาติ ดั่งคำที่พระพุทธองค์เคยตรัส เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ผมเข้าใจผิดใช่มั้ยครับแอด

[@พุฒฬสตระกูลทอง]

ตัวตนเป็นการประชุมกันของธาตุทั้ง 4 ()สังขาร มีรูปที่ถูกรู้ กลับนามคือการรับรู้ ทั้งรูปและนามเป็นสิ่งสมมุติทางภาษา

[@พุฒฬสตระกูลทอง]

สภาวะของการไม่มีตัวตนปรากฎ มี 2 สภาวะที่แตกต่าง 1.สภาวะการหลับลึก 2.สภาวะนิพพาน ที่ต่างกันเพราะสภาวะที่ 2 ตัวรู้ยังมีทำงานอยู่

[@Iutt-yf9jl]

😂😂😂กินให้รู้ว่ากิน,นอนให้รู้ว่านอน,เดินให้รู้ว่าเดิน,หายใจเข้าออกให้รู้ว่าหายใจเข้าออก😂😂😂ไม่มีขายอยากได้ก็ต้องทำเอง...ง่ายๆ...ใครทำคนนั้นได้ อยากรู้ก็ลองทำดู😂😂😂ไม่เชื่อรึ... ..😊

[@ธนากรเศรษฐีสม-ฆ3ถ]

เราจิงๆคือสัตผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้นมีตัณหาเป็นเครื่องผูกท่องเที่ยวไปมาอยู่ที่สุดเบื่องต้นย่อมไม่ปรากฎ แล้วก็เข้ามายึดเอาขัน5ว่าเป็นตัวตนเพราะไม่รู้

[@tossakan5554]

ตอนเรียนชีวะวิทยา อาจารย์สอนเรื่องเซลล์ประกอบกันเป็นเนื้อเยื่อไปจนถึงร่างกาย เซลล์แต่ละเซลล์เปรียบเสมือน1หน่วยสิ่งมีชีวิต ตอนนั้นนั่งคิดเพลินๆ แล้วที่(กู)กำลังนั่วคิดอยู่ตอนนี้อยู่ส่วนไหนของเซลล์ รู้สึกใจหายแว้บบรรยายไม่ถูก

[@Rthp_Sww.2025]

ธรรมทั้งหลาย ประมวลลงใน " ปฏิจจสมุปบาท " แล้วครับ ถ้าไปบอกว่าพูดว่า..มีตัวตนหรือ..ไม่มีตัวตน จะทำให้เถียงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด !

[@ผ่านมาเล่า-ค2ฮ]

ในร่างกายเรามีมีจุลินทรีย์เป็นพันล้านตัวมากกว่าเซลล์ของเราอีก ฉันจึงใช้คำว่าเราได้ เพราะจริงๆตัวเราไม่ใช่ขันธ์ 5

[@aikissjapan]

แต่งหน้าสวยผิดคน ถามตนเองว่าอุ่ยใช่เราไหม? ตั้งแต่นั้มาถามตนเองตลอดว่าที่กำลัวจะทำใช่เจ้าไหมหากหลงผิดทำลงไปเมื่อรู้ตัวก็จะว่าตนเองว่าทำไมเมื่อกี้เจ้าเกือบเป็นมนุษย์บ้าไปแล้วดีนะสติยังเตือนทัน ถามตอบตนเองก่อนเสมอๆดูดีหน่อยไม่ปล่อยไก่หมอเล้า ดูคนอื่นๆเขาแสดงกันเรานำมาสอนตนเองได้ดีเช่นกัน แค่ดูเป็นอ่านออกคนด้วยกันคือครูดีๆนั่นเอง ตัวเราเองจะดีชั่วมีเวรมีกรรมหรือไม่เราคือผู้ก่อตั้งมาเองหยุดมันได้ ให้เรารู้ทันตัวเราเอง ทำโทษตนเองได้ สอนตนเองได้ ไม่ไปตามกิเลสที่เรามีให้มากเกินจริง มายาเพ้อเจ้อกิเลสคืองานใหญ่ที่มันสั่งให้มนุษย์เราลำบากมากๆ

[@ghjghhj4774]

ถ้าเป็นชาวพุทธ ที่แท้จริง ย่อมต้องตอบคำถาม 7 ข้อ ได้คือ 1. พระพุทธองค์ ทรงสอนอะไรมากที่สุด ?? อันเป็นความรู้และปัญญา ที่ไปถึงที่สุดแล้วของเอกภพ และทำไมจึงสามารถครอบคลุม เหนือโลกและ เอกภพได้ ??? 2. พุทธองค์ทรงประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ตรงกันได้อย่างไร ในวันวิสาขบูชา ??? 3. พุทธองค์ ทรงเพียรพยายาม หลายๆ แสนชาติ ก่อนตรัสรู้ หมายความว่าอะไร ??? 4. ทำไมคำสอนของพระพุทธองค์ จึงมิใช่ศาสนาแต่อย่างใด แต่เป็น ปัญญา อันไปถึงที่สุด แล้วของเอกภพ ??? 5. พุทธะ Buddha มีถึง 4 ความหมาย คือว่าอะไร ?? 6."" บุญ ""มาจากภาษาสันสกฤต ตามคำสอนของพระพุทธองค์ จริงๆ แล้ว แปลว่าอะไร ??? ซึ่งแตกต่างจากภาษาบาลี ที่มีความหมาย หลอกล่อใจ พุทธองค์ไม่เคยใช้ภาษาบาลี แต่ทรงใช้ ภาษา ปรากฤต Prakrit เป็นภาษาของชาว อารยัน และพระไตรปิฎกกลับถูกบันทึกปรุงแต่งโดยพวกชาวอินเดีย พราหมณ์ โดยใช้ภาษาบาลีทั้งนั้น 7. พุทธองค์ทรงหยิบใบไม้จากพื้นป่า และถามพวกพระสงฆ์ว่าใบไม้ในมือกับในป่า อันไหน มีมากกว่ากัน ,พุทธองค์ได้ทรงสอนอะไร ซึ่งเป็นความจริง อันไปถึงที่สุดของปัญญา สามประการ ??? ถ้าตอบคำถามทั้ง 7 ข้อมิได้ ,หรือตอบแบบ ลัทธิแขก คือมีอภินิหาร ปาฏิหาริย์ ความศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ เหนือธรรมชาติ ,และขัดกับธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ และ วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ย่อม ขัดกับ คำสอนของพระพุทธองค์ ทั้งหมด และไม่ใช่ชาวพุทธแท้แต่อย่างใด และ พระสงฆ์ ตามความหมายของพระพุทธองค์ หมายถึง ผู้บำเพ็ญตน สันโดษ มาจาก monk (mono ) ,ทรงสอนว่า ผู้บำเพ็ญตนสันโดษ คือ ผู้ที่ต้อง ไม่มีกิเลสตัณหา ราคะความอยาก อุปาทานใดใด มาเป็นเพื่อน อยู่ในใจ และต้องไม่อยู่ กับพวก ที่แสดงถึง กิเลสตัณหาราคะ ความอยากอุปาทานใดใด

[@rosarinsirisupthara8870]

ไร้สาระ งมงาย พอๆกับศาสนาพราหมณ์เลย

[@rit2025]

2. เกิด ตรัสรู้ ปรินิพพานวันเดียวกัน ไม่ได้เหรอครับ ทำไมไม่ได้ครับ

[@rit2025]

1. พระพุทธเจ้าสอนว่า จงทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ คือแก่นคำสอนทั้งหมด คุณมีปัญหากับข้อไหนครับ

[@ghjghhj4774]

@@rit2025 พุทธปัญญา ค่าสูงสุด เหนือเอกภพ ช่วยประสบ พบความจริง อันที่สุด แม้มายา มาครอบงำ มวลมนุษย์ ช่วยพ้นหลุด ความงมงาย ได้ทั้งปวง ช่วยพ้นบ่วง พันธนาการ ด้านนานา อนัตตา สุญญตา พากระจ่าง อนันตกาล ผลาญทุกสิ่ง ที่ขวางทาง ส่องสว่าง ทางปัญญา ที่สุดแล กระจ่างแด แลที่สุด ของสัจจา พุทธปัญญา หาได้เป็น ศาสนาไม่ เป็นที่สุด ของปัญญา อิสราใจ เกิดดับไป ในความว่าง สิ่งทั้งปวง From Anatta, Sunyata and Anantakarn. (พุทธปัญญา หาได้เป็นศาสนา แม้พุทธศาสนาจะมาบดบังบิดเบือน ก็ตาม ,ถ้าสิ่งใดขัดกับ อนัตตา สุญญตา ธรรมชาติบริสุทธิ์ วิวัฒนาการธรรมชาติบริสุทธิ์ และวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ย่อมมิใช่ คำสอนของพระพุทธองค์ ,พุทธอง์ ทรงเป็นแขกผิวขาว คือ อารยัน เช่นเดียวกับชาวยุโรปคือพวก Caucasians หมายถึงชาวผิวขาว มิใช่ผิวสีแบบแขกทางใต้คือ Dravidians ,และพุทธองค์มิเคยทรงใช้ ภาษาบาลี ทรงใช้ภาษาปรากฤต Prakrit เป็นภาษาของแขกขาว เชื้อสายอารยัน Aryan แปลว่า ผู้ที่อยู่บนที่สูง ,ผู้ที่เจริญแล้ว ,เมื่อสิ้น สมัยของพุทธองค์ พวกที่บันทึกรวบรวม พระไตรปิฎก คือพวก Dravidians ซึ่งเป็นพวกชาวอินเดีย ภาคกลาง และใต้ มีผิวคล้ำ ดำ ผิวสองสี ใช้ภาษาบาลีและภาษาฮินดี ทั้งหมด จึงพยายามได้ เปลี่ยนแปลงแก้ไขไปเกือบทั้งหมด ให้เป็นไปตาม ลัทธิแขก พราหมณ์ ฮินดู ใช้ภาษาบาลีบันทึก บิดเบือน เพื่อผลประโยชน์ ของการครอบงำอย่างแยบยล มีไสยศาสตร์ เทวนิยม ปนเปื้อน เต็มไปหมด เช่น บุญ ซึ่งพุทธองค์ทรงสอนว่า คือกิเลส มาครอบงำ ,การสวดมนต์ สวดคาถา เจิม ผ้ายันต์ จุดธูปเทียน อธิษฐาน ขอพร ,ขอสารพัด ,บนบานศาลกล่าว, กราบไหว้บูชาพวกวัตถุ รูปบูชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ,การรดน้ำมนต์ ,พวกสายสิญจน์ พระเครื่อง ของขลัง ความอภินิหาร,สิ่งวิเศษ ,ปาฏิหาริย์ อิทธิฤทธิ์ บุพเพสันนิวาส บุญวาสนา,การบวงสรวง,การสร้างเจดีย์ สถูป,วัตถุบูชา ,ศาลพระภูมิ,สวดพุทธานุภาพ,การเชื่อโชคชะตาราศี ,ชาติหน้า สวรรค์นรก ,การระลึกชาติได้, การจัดโต๊ะหมู่บูชา การดูฤกษ์ยาม ,การเชื่อพระเจ้า เทพเจ้า,เทวดานางฟ้า ,พวกพิธีกรรมต่างๆ ,ผีสางนางไม้ ,วิญญาณ เรื่องกรรม เวรกรรม ,กรรมเก่าข้ามภพข้ามชาติ ,การรดน้ำศพ การกรวดน้ำ การหลงใหลตกเป็นทาสของวัตถุและรูปลักษณ์ ,กิเลสตัณหาราคะ ,อุปาทาน ,สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ความเชื่องมงาย อวิชชา การปรุงแต่งใจ, การเอาใจเข้ายึดถือยึดมั่น เกาะเกี่ยวสารพันๆ,เชื่อสิ่งเหนือธรรมชาติ การหลอกให้บริจาค การหลงบริจาค, ล้วนแล้วขัด กับคำสอนของพระพุทธองค์ หรือพุทธปัญญา ทั้งสิ้น )

[@ghjghhj4774]

@@rit2025 ความศรัทธา พายึดถือ พายึดมั่น สื่อเช่นนั้น นั่นแหละคือ ศาสนา ศาสนาพุทธ สุดงมงาย ขัดพุทธปัญญา องค์พุทธา สอนใจอิสรา จากทั้งปวง อย่าติดบ่วง ภาพลวงตา มายาคติ อย่าอุตริ โลกมายา มาครอบไว้ อนัตตา สุญญตา มาสอนใจ เกิดดับไป ในความว่าง เปล่าทั้งปวง From Anatta, Sunyata and Anantakarn.

[@muttanayodarcha8209]

เสียงคลิปอู้อี้มากเลยค่ะ

[@นิลนิล-ฬ1พ]

เราคือตัวตนเราคีออัตตา

[@Prasa_Yiaedin]

ความผิดเพียนทางความคิดเกิดขึ้นมาจากพื้นฐานทางความคิดของมนุษย์เอง ภาษา มันไม่ได้ช่วยให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเข้าใจที่ตรงได้หรอกครับ ความเข้าใจที่ว่าผิดเพียน หรือที่เข้าใจว่าตรงนั้น เหล่านั้นเกิดขึ้นมาโดยพื้นฐานทางความคิดเหตุผลและการแปลความเอาตามพื้นฐานทางความคิดอารมณ์ความรู้สึกความยึดมั่นถือมั่นของแต่ละคนในสภาพที่มีมุมมองที่ต่างๆกันออกไป แม้แต่ตัวเจ้าของศาสนาเอง ( พระพุทธะเจ้า ) ก็มีที่พูดภาษาธรรมได้ละเอียดลึกซึ้งแล้วมีคนไม่เข้าใจเป็นจำนวนไม่น้อย และตามประวัติคนที่ท่านใช้เพียงคำพูดสอนแล้วสำเร็จได้ในสภาวะตามที่ท่านพูดบรรยายให้ฟังก็มี ซึ่งถ้าภาษาเป็นตัวการที่แท้จริงที่ทำให้เราเข้าใจผิด ทำไมพระพุทธเจ้าท่านถ่ายทอดธรรมของท่านออกมาเป็นภาษาแล้วมีคนเข้าใจถูกต้องตรงจริงได้จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์หละครับ ถ้าภาษามันไม่สามารถถ่ายทอดสภาวะที่ตรงจริงให้กับผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้จากการฟังสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ประวัติของผู้สำเร็จด้วยการฟังธรรมผ่านทางภาษาพูด ก็จะไม่มีประวัติตรงนี้ แต่จริงๆในพุทธประวัติ คุณไปดูสิ มีคนพวกที่สำเร็จได้ตรงจริงขึ้นมาจากการถ่ายทอดธรรมด้วยภาษา มีนะครับ ดังนั้นข้อนี้มันคือการบ่งบอกว่า ภาษาไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่พื้นฐานของการเข้าใจความจริงที่มีอยู่ในตัวตนของตนเองต่างหาก ถ้าพื้นฐานดี ต่อให้เราตกอยู่ท่ามกลางตัวแปรทางความคิดที่เต็มไปด้วยสิ่งที่โกหกหลอกลวงสักปานใดก็ตาม เราก็สามารถมองเห็นความถูกต้องตรงจริงได้

[@Prasa_Yiaedin]

สันดานมนุษย์ชอบโทษสิ่งอื่นอยู่แล้ว การโทษสิ่งอื่นๆจึงมีทั้ง โทษข้าวของเครื่องใช้ โทษคนอื่น โทษฟ้า โทษฝน โทษเวลา โทษโน่นนี่นั่นกันไป เรียกว่าสนุกสนานไปตามสันดานของการเห็นผิดเห็นถูกโทษนี่โทษนั่น แต่ลืมไปว่าตัวเองขาดมิติมุมมองที่เป็นความจริงมากที่สุดนั่นก็คือการโทษตัวเอง

[@yadapetaphan7895]

ไม่รู้มีใครเคยคิดไหม ว่า วันนึงที่เราหลับ แล้วพอตื่นขึ้นมาเรามาอยู่ที่ไหนสักแห่ง ที่เราไม่รู้จักไม่คุ้นเคย ตอนนี้ความคิดนี้มันเกิดขึ้นกับเราบ่อยมาก💀💀💀💀😱

[@user-wl4jw7224]

มีมุดปลอมมาน่ะ😂😂

[@บัญชานิพพาน]

แต่ผมว่าเรา... คือ... สติ ส่วนนั้นคือตัวตน

[@ppchanel4423]

เราแค่สงสัยใน เวลา แต่พระพุทธองค์สอน ให้อยู่กับปัจจุบัน แสดงความคิดเห็นก่อนฟัง

[@UncleAek]

👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻👍🏻

[@wasanayotakaree8537]

มีตัวตนในช่วงเวลาหนึ่ง แต่สุดท้ายคือว่างเปล่าไร้ตัวตนในที่สุด สรรพสัตว์เท่าเทียม เสมอกัน

[@วิสูตรเกตุแก้ว-ผ3ฉ]

เจตนาบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์

[@น็อนน๊อย-ซ1ข]

?????อธิบายเพิ่มเติมหน่อยที่คุณเม้นต์คืออะไร

[@HunmaBaki-ic5yz]

รู้จักค่อยมาพูดครับ คุณกินหมูไม่ได้แน่นอนแบบนี้

[@สาโรจน์เราวิลัย-ฬ8ฝ]

หากเรามีตัวตน แล้วคนอื่นๆล่ะ ที่เราพบเห็นพูดคุย ทั้งต่อหน้าและลับหลังน่ะ เขามีตัวตนจริงๆหรือไม่ จริงๆเขาอาจคือภาพลวงตา หรือมโนนึกไปเอง

[@shion2063]

บังคับไม่ได้ก็จริง ไม่คงที่ก็จริง แต่มันคือของเราครับ อุปมาอุปมัยเหมือนรถหรือบ้าน เราจ่ายตังซื้อ เราอยู่ เราขับ มันจะพังหรือระเบิดมันก็ของเรา ถ้ามันไม่ใช่ของเราจะของใครล่ะครับ หลายคนเพ้อเจ้อเรื่องนี้นะครับ ฉันใดฉันนั้น ร่างกายนี้ก็ของเรา จะมีใครเอาจิตมาเข้าร่างเราได้ไหม หรือพน.เราจะตื่นขึ้นในร่างของเพื่อนฉันได้ไหมก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ร่างนี้นี่แหละครับของเรา เราทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เราออกกำลังกาย เรามีกล้าม เราเสพยามากๆร่างกายก็โทรม เพราะงั้น ร่างกายนี่แหละ คือสิ่งที่รับผลกระทบจากการกระทำของเรา มีมั๊ย เราอ่านหนังสือ แล้วอีกคนมีความรู้แทน นั้นแหละครับพอเข้าใจใช่มั๊ย

[@shion2063]

จงเป็นคนที่ฟังหูไว้หูนะครับ อย่าฟังแล้วเชื่อ จงฟังแล้วคิดตามก่อนแล้วค่อยเชื่อ

[@icchyr5063]

ลองสั่งให้ตัวเองไม่แก่ ไม่เจ็บดูสิ ถ้าทำได้แปลว่าร่างกายเป็นของคุณ

[@shion2063]

@@icchyr5063 เรื่องนั้นมันเรื่องของเวลาครับ อย่างรถของคุณ ซักวันมันเก่ามันพัง ร่างกายเหมือนกัน ซักวันมันก็เสื่อมร่วงโรยไปเหมือนรถ รถคันนั้นคือรถของคุณ เช่นกัน ร่างกายก็ของคุณเอง แค่มันบังคับความแก่ชราไม่ได้ไม่ได้แปลว่าจะไม่ใช่ของเรา

[@พลังแห่งนักปราชญ์]

ตัวตนที่แท้จริงของเราคือวัยเด็ก เพราะตอนนั้นเราแทบจะไม่มีความคิดทางประสบการณ์ พอเราเริ่มโตเราถูกสาดด้วยความคิดต่างๆรอบๆข้าง สรุป ตัวตนที่แท้จริงคือการมองสิ่งรอบข้างโดยมีสติ

[@KNBloodBunny]

เข้าใจอะไรคนอื่น ตัวเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลย

[@NONAME-bo6cq]

สอบถามหน่อยครับ แฟนผมหยิบของไปไว้หลังตู้เย็น ในช่วงที่ทำกับข้าว ตอนนั้นผัดผักใส่หมู เหตุการนี้มันอยู่ในความทรงจำผม แต่แฟนถามผมว่าใครเอามาไว้หลังตู้เย็น ผมเลยบอกว่าเธอแหละเอามาไว้ แต่เธอไม่เชื่อเพราะเหตุการณ์นี้ต้องอยู่ในความทรงจำของเธอซิ ถ้าเธอเป็นคนทำจริง ผมเลยถามเขาว่าเชื่อตัวเองำด้แค่ไหน เขาบอกเต็มร้อย เธอมั่นใจมากๆ ผมเลยบอกว่าบางทีเราก็เชื่อตัวเองไม่ได้ทั้งหมด เธอเลยบอกว่าแล้วผมเชื่อเหตุการณ์ในความทรงจำผมได้ร้อยเปอเซนหรอ? คำนี้ผมอึ้งไปไม่ถูกเลย ผมก็ไม่ต่างจากเธอที่เชื่อภาพในความทรงจำนั้น คราวนี้เราจะเชื่อตัวเองได้แค่ไหน กับภาพจำลองในหัวที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ต่อหน้า

[@รัตนะวงค์นาโสก]

รู้ คือตัวตนของเราไหมครับ จิตว่างหรือว่า ว่างจากจิต

[@มนต์ชัยศรไชย]

ถามว่า 1 คำว่า ตัวตนในพุทธศาสนา คือการเกิดขึ้นของรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปหรือนาม เช่นการเกิดขึ้นของคน สัตว์ โลก ดวงอาทิตย์ ของแก๊ส รวมถึงสรรพสื่งต่างๆ ในพุทธศาสนาเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า " ตัวตน" ใช่ไม๊ 2 การเกิดขึ้นของสรรพสื่งต่างๆ เกิดจากการรวมตัวของสรรพธาตุต่างๆ หรือสรรพสื่งต่างๆ เกิดขึ้นเป็นสื่งหนึ่งสื่งใด เช่น การเกิดขึ้นของ คน สัตว์ เกิดจาก การรวมตัวของธาตุ4 ดิน น้ำ ไฟ ลม หรือการเกืดขึ้นของโลก มาจากการรวมตัวของสรรพํธาตุต่างๆ และเมื่อเราผ่าโลกออกมา จะเห็นได้ว่า มี ดิน หินชนิดต่างๆ เหล็ก ทองคำ เพชร พลอย สาระพัดสรรพธาตุต่างๆ ผสมรวมกันอยู่ในโลกใบนี้ โลกใบนี้ จึงหาตัวตนมี่แท้จริงไม่ได้ เพราะเกืดจากการรวมตัวของ สรรพธาตุต่างๆ ดังนั้น " โลกจึงไม่มีตัวตนที่แท้จริง ไม่ได้หมายความว่า " โลกใบนี้ไม่มีอยู่จริง ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่โลกใบนี้ เกิดขึ้นจรืง มีอยู่จริงๆ มีตีวตนจริงๆ ในหลักความหมายตัวตนในพุทธศาสนา ใช่หรือไม่ครับ 😅3 คิดเอาครับ ว่า " เรามีตัวตนหรือไม่ "

[@wowowow289]

ทุกสิ่งคือหนึ่งเดียว

[@MahesuanPuangmala]

ผี พราหมณ์-อินดู พุทธ ไม่ใช่คนละความเชื่อ ล้วนผสานเป็นความจริง บรรพชนเราค้นหาคำตอบให้แล้ว ขั้นต้น ขั้นกว่า ขั้นสุด ของคำถามจิตเป็นนายกายเป็นบ่าว สุดแต่จริตท่าน

[@familymannnn]

👏👏👏

[@aunaunhandleshoot9832]

Comments support.

[@stamp10a21]

ทางกายภาพมีตัวตน แต่ทางความรู้สึกนึกคิดไม่มีมันเปลี่ยนไปทุกหวินนาที

[@happylucky5076]

เรามีเพราะเรายึด เมื่อเราไม่ยึด เราก็ไม่มี