Рет қаралды 4,354
เรื่องจริงหรือตำนาน พระเจ้าฝาง-พระนางสามผิวและตำนานเจ้าแม่มะลิกา แห่งเวียงมะลิกา
“พระนางสามผิว” เป็นเรื่องราวที่อาจเป็นตำนานหรือประวัติศาสตร์ของเมืองฝาง ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เนื้อเรื่องเป็นเสมือนนิยายปรัมปราหรือตำนาน แต่การสร้างอนุสาวรีย์ของพระนาง และพระสวามีผู้สร้างเมืองฝาง ทั้งประชาชนกับทางราชการ ยังจัดงานรำลึกอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี ย่อมแสดงว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ไม่ใช่นิยายที่เลื่อนลอย
พุทธศักราช ๒๑๗๒-๒๑๘๐ พระเจ้าฝางอุดมสิน ทรงพระนามเดิมว่า “พระยาเชียงแสน” เป็นราชบุตรของเจ้าเมืองเชียงแสน ได้เสด็จมาทรงปกครองเป็นเจ้าเมืองฝาง ในปี พ.ศ. ๒๑๗๒ ศักราชได้ ๙๙๐ ตั๋ว เดือน ๘ เหนือ แรม ๑๓ ค่ำ พร้อมด้วยพระชายา ซึ่งมีพระนามว่า “พระนางสามผิว” เป็นพระราชบุตรีของ เจ้าเมืองล้านช้าง (เมืองเวียงจันทน์) ซึ่งมีพระสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศว่า พระองค์ทรงมีผิวพระวรกายถึงสามผิว กล่าวคือในตอนเช้าจะมีผิวสีชาวดุจปุยฝ้าย ในตอนบ่ายจะมีผิวสีแดงดั่งลูกตำลึงสุก และในตอนเย็นผิวพระวรกายจะเป็นสีชมพูเรื่อ ประหนึ่งดอกปุณฑริกา
ทั้งสองพระองค์ทรงปกครองเมืองฝางอยู่นั้น เมืองฝางอยู่ในฐานะเมืองขึ้นของพม่า ทำให้พระเจ้าฝางอุดมสิน ทรงมีพระราชดำริ ที่จะกอบกู้เอกราชเมืองฝางคืนจากพม่า โดยได้ซ่องสุมฝึกซ้อมกำลังพล ตระเตรียมอาวุธและเสบียงกรังไม่ยอมส่งส่วย ทั้งยังฝ่าฝืนและขัดคำสั่งของพม่า จนความทราบถึงเมืองพม่าว่าเมืองฝางคิดจะแข็งเมือง ไม่ยอมเป็นเมืองขึ้น“พระเจ้าภวะมังทาสุทโธธรรมราชา” ที่ครองเมืองอังวะ กษัตริย์พม่า จึงได้ยกทัพหลวงมาตีเมืองฝาง ในปีพุทธศักราช ๒๑๗๖ ศักราชได้ ๙๙๔ ตั๋ว
พระเจ้าฝางอุดมสิน ได้นำทัพเข้าต่อสู้ป้องกันเมืองอย่างแข็งขัน ทำให้พระเจ้าภวะมังทาสุทธโธธรรมราชา ไม่สามารถเข้าตีเมืองฝางได้ พระเจ้าภวะมังทาสุทธโธธรรมราชา จึงเปลี่ยนแผนการรบใหม่ โดยให้ทหารล้อมเมืองฝางไว้ พร้อมกับตั้งค่ายบัญชาการรบที่เวียงสุทโธ และระดมยิงระบู หรือปืนใหญ่ เข้าโจมตีเมืองฝาง ทำให้บ้านเมืองระส่ำระสาย ประชาชนเสียขวัญ ทหารและประชาชนบาดเจ็บล้มตายลงเป็นอันมาก พม่าได้ล้อมเมืองฝางไว้ เป็นเวลานานถึง ๓ ปี กับ ๖ เดือน ทำให้เสบียงอาหารในเมืองฝางที่เก็บสะสมไว้หมดลง ประชาชนอดอยาก
พระเจ้าฝางอุดมสินและพระนางสามผิว คิดว่าพระองค์ท่านเป็นต้นเหตุแห่งความเดือดร้อน ในการที่จะกอบกู้บ้านเมือง แต่กระทำการไม่สำเร็จ พระองค์จึงตัดสินพระทัยสละพระชนม์ชีพ เพื่อปกป้องชาวเมืองฝาง ให้รอดพ้นจากการเข่นฆ่าของทหารพม่า และความอดอยาก เดือดร้อน ดังนั้น ในปีพุทธศักราช ๒๑๘๐ ศักราชได้ ๙๙๘ ตัว เดือน ๖ เหนือ ขึ้น ๕ ค่ำ พระเจ้าฝางอุดมสินและพะนางสามผิว จึงสละพระชนม์ชีพ ด้วยการกระโดดลงบ่อซาววา และเป็นเวลาเดียวกันที่ทหารพม่าเข้าตีเมืองฝางได้สำเร็จ เมื่อพระเจ้าภวะมังทาสุทธโธธรรมราชา ทราบถึงวีรกรรมของทั้งสองพระองค์ท่าน พระเจ้าภวะมังทาสุทธโธธรรมราชา จึงมีคำสั่งห้ามทหารพม่า ไม่ให้ทำร้ายประชาชนเมืองฝาง จากนั้น พระองค์จึงได้ยกทัพกลับกรุงอังวะ ประเทศพม่า
เมื่อศึกสงครามสงบลงแล้ว ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเจ้าเมืองฝางเห็นว่า เจ้าเมืองและพระมเหสีทรงสละพระชนม์ชีพ เพื่อรักษาเมืองฝางและชีวิตของชาวเมืองไว้ จึงได้สร้างอนุสาวรีย์ทั้งสองพระองค์ ไว้ที่บ่อน้ำซาววา ซึ่งอยู่หน้าวัดพระบาทอุดม พากันกราบไหว้ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ปกบ้านคุ้มเมืองให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขตราบจนทุกวันนี้
#พระนางสามผิว #ตำนานพื้นบ้าน