Рет қаралды 114,355
สวัสดีครับยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ช่อง ZimZim DIY
หลายๆครั้งเราเคยได้ยินว่า อุปกรณ์ที่เป็นพวก ขดลวด รีเลย์ motor หรือทำมาจาก ตัวเหนี่ยวนำ จะต้องมีไดโอดต่อคร่อม เสมอ เพื่อลด การสไปร์ท ของมัน
ที่จริง แล้ว เราควรที่จะต้องใส่มันในวงจรหรือเปล่า เดี๋ยวเราไปดูกันครับ
แต่ก่อนอื่น เรามาดูวงจรง่ายๆ วงจรนี้กันก่อนครับ ผมจะใช้แหล่งจ่าย จาก Powersupply DC 4V และ ผมจะใช้ MOSFET N chanel 1 ตัว
ขา D ผมต่อกับโหลด ที่เป็นตัวต้านทาน 20ohm
ต่อไปผมก็จะต่อ Output จากเครื่อง MoKugo ต่อไปที่ขา Gate และ Ground ทิ้งไว้อย่างงั้นก่อน
วงจรนี้ หน้าที่ของมอสเฟตก็คือ ไว้คอยเชื่อมต่อกระแส ให้มันครบวงจร ให้มันครบลูป
แล้วถ้าหากผมจ่าย แรงดันไฟกระแสตรง ไบอัส ที่ขา Gate ประมาณ 7V
มอสเฟตมันก็จะเหมือนเป็นการต่อติด และนำกระแสได้
เมื่อมอสเฟตทำงาน ความต้านทานของมัน ก็จะน้อยมากๆ
ก็เหมือนกับว่า เรามีสายไฟต่อตรง ลงไปที่กราวด์ของระบบเลย
ถ้าเราใช้มัลติมิเตอร์ วัดแรงดัน ก่อนเข้าขา D ตรงนี้ แล้วมาเทียบกับกราวด์ แรงดันไฟฟ้าที่ได้ ก็เกือบจะเป็น 0 V อยู่มะร่อมมะล่อแล้วครับ
และนี่ก็คือการทำงาน ที่ปกติของมัน
ทีนี้เอาใหม่ครับ ถ้าหาก ขาเกตของมอสเฟต ไม่ได้มีแรงดันมาไบอัส มันจะเกิดอะไรชึ้น.....
เมื่อเราตัดการทำงานของมอสเฟต โดยที่เราไม่ได้จ่ายแรงดันไป
วงจรตรงนี้ ก็จะเสมือนถูกตัดออกจากกัน และเจ้าตัวมอสเฟตเอง ก็จะมีค่าความต้านทาน ที่สูงมากๆ
จนตัวมันเกือบเป็นค่าอนันต์ หรือวัดค่าไม่ได้
เมื่อไม่มีกระแสไหล จึงไม่มีแรงดันตกคร่อมที่ตัวต้านทาน
เมื่อไม่มีแรงดันตกคร่อม ที่ตัวต้านทาน
ถ้าหากเราวัด แรงดันดูอีกที เราก็จะพบว่า แรงดันของแล่งจ่ายตรงนี้ จะเท่ากับขา D ตรงนี้ เป๊ะเลยครับ
เอาใหม่ครับ ทีนี้ ถ้าหากผม เปลี่ยน รูปคลื่นใหม่ เป็น รูปคลื่นแบบ Square wave VPP 7 โวลต์
ความถี่ 400hZ Dutycycle 50%
เดี๋ยวมาดูกันว่าจะเป็นยังไง
แต่ก่อนอื่นผมต้องต่อโพรบ 2 ตัว เพื่อ จับวัดดูรูปคลื่น
ระหว่างขา Gate กับ กราวด์ ตัวหนึ่ง
และ ระหว่างขา D กับกราวด์ อีกตัวหนึ่ง
ถ้ามาดูที่สโคป เพื่อนๆก็จะเห็น รูปคลื่น Output ที่ขา D ตรงนี้ มันจะมีรูปคลื่นเดียวกันกับ Input ที่เราป้อน เลยใช่ไหมครับ
แบบนี้มันก็คือปกติ เป็นวงจรที่ขยายสัญญาณทั่วไป นั้นก็คือ Output มันจะมีการเปลี่ยนแปลง ตาม รูปคลื่น input ที่มันได้รับ
ทีนี้เอาใหม่ครับ ผมจะเปลี่ยนโหลดตัวนั้น จากตัวต้านทาน เป็น มอเตอร์ กัน
และนี่ครับ คือสิ่งที่ เครื่อง Mokugo มันวัดได้
เพื่อนสังเกตุว่า รูปคลื่น Output จะเปลี่ยนแปลงไป และมีสไปร์ทเกิดขึ้น ถ้าสังเกตุจุดตรงนี้ ผมจะลองวัดคร่าวๆให้ดูนะครับ
มัน มีแรงดันไฟฟ้า ตะวัด พุ่งสูงขึ้นไป กว่า 7V เลยทีเดียว อันนี้คือแรงดันเท่าที่ผมสังเกตุได้
แล้วมันเกิดเหตุการนี้ได้ยังไงครับ อย่างแรกเลยก็คือ อย่างที่ผมเลยบอกไป มอเตอร์มันเปรียบเสมือนตัวเหนี่ยวนำชนิดหนึ่ง
เมือ มอสเฟตนำกระแส ในช่วงแรก กระแสไฟจะไหลผ่านมอเตอร์ และก็ ไหลลงไป ผ่านมอสเฟต ไปบรรจบครบวงจร ที่ Gnd และทุกอย่างดูโอเครหมด
แต่เนื่องจาก ตอนที่ มอเตอร์มันทำงาน มันมีการกักเก็บพลังงานไว้บางส่วน
เมื่อมี จังหวะรูปคลื่น มี จังหวะความถี่ เข้ามาเกี่ยวข้องหนึ่ง มอสเฟส มันก็จะ หยุด บ้าง ต่อบ้าง ตาม แรงดัน Input ที่ได้รับ
แต่สำหรับตัวเหนี่ยวนำแล้ว มันไม่สามารถหยุดการทำงานได้ทันที มันไม่ถัดแบบนั้นครับ มันจะต้องมีกระบวนการ แปลง สนามแม่เหล็กให้เป็นกระแสไฟฟ้าซะก่อน
กระบวนการเหล่านี้ นี้เองครับ ที่มันจะต้องใช้ระยะเวลา เพื่อให้พลังงานทั้งหมดของมันหายไป หรือ จนกว่ากระแสทั้งหมดที่มันคลายออกมาจะหยุดไหล
แต่สังเกตุไหมครับว่า กระแสเมื่อมันเดินมาถึงตรงนี้แล้ว มันมาไม่ทันชานชลาครับ ก็จะ = ว่ามันมาถึงทางตันครับ
เมื่อมันไม่มี เส้นทางไหนเลยที่มัน สามารถ จะไหลผ่านไปได้
แรงดันไฟฟ้าตรงนี้ มันก็จะค่อยเพิ่มขึ้นๆมาเรื่อยๆ จนกว่า พลังงานที่เก็บไว้ของมันจะหมด
เพราะฉะนั้น เพื่อนๆลองคิดดู สิครับ ว่า กว่าพลังงานพวกนี้กว่าจะหมด เราจะได้แรงดันไฟตรงนี้เท่าไหร่
มอเตอร์ ตัวใหญ่ๆบางประเภท อาจจะสร้างแรงดันได้มากกว่าปกติ 4-5 เท่า เลยทีเดียว
และเมื่อมีแรงดันไฟ มาออตรงนี้มัน ในความถี่สูงๆ ก็จะเกิดการกระชากของไฟ เกิดขึ้นได้ อุปกรณ์ทั้งหมด ที่อยู่ที่ติดกับตัวมัน ที่ใช้ลายทองแดงเดียวกัน
ก็จะเสี่ยงต่อ การเสียหาย ช๊อต หรือไหม้ได้
ถ้าใช้เป็นมอสเฟต ที่สามารถทนแรงดันได้สูง ก็ยินดีกับเพื่อนๆด้วยนะครับ
อย่างเช่น มอสเฟต เบอร์
IRFZ44N ตัวนี้ มันสามารถทนแรงดันได้สูงถึง 60V ก็ถือว่ายังห่างไหลความอันตราย
พลังงานจากตัวเหนี่ยวนำ ไม่เพียงที่จะทำให้มันไหม้ได้ แต่ก็อาจจะทำให้มันเกิดความร้อนสะสมขึ้นได้ อย่างนี้คงไม่ดีแน่ครับ
แล้วเราจะแก้ไขปัญหาตรงนี้ ได้อย่างไรกัน
ผมจะเพิ่ม ไดโอดไป1ตัว ขนานกับ โหลด แบบนี้ครับ
ทีนี้ถ้ามอสเฟต เล่นตลก หยุดการทำงานบ่อยๆ มันก็จะมีเส้นทางใหม่ให้กระแส ไหลผ่าน ย้อนกลับไปได้ครับ
พลังงาน
ส่วนหนึ่งจะ ไหลย้อนไปที่แหล่งจ่าย และ อีกส่วนจะไหลวนกลับเข้าไปใหม่ ในมอเตอร์
ก็สรุปได้ว่าเป็นวงจร ง่ายๆที่ใส่เพียงไดโอดเพิ่มเข้าไป แล้วช่วย ให้วงจร ดูดีขึ้น
เมื่อเรามาเช็คอีกครั้งหนึ่ง สไปร์ทเหล่านั้น ก็จะลดลงไปบ้างแล้วละครับ
แต่บางที มอเตอร์ ตัวใหญ่ๆ ก็อาจจะสร้างกระแสไฟที่สูงมากจนเกินไป ไหลย้อนกลับไปยังแหล่งจ่าย
เพราะฉะนั้น เราอาจจะต้องมี คาปาซิเตอร์ ช่วยซับกระแสไว้ ส่วนหนึ่ง
หรือ จะออกแบบ ระบบป้องกัน แหล่งจ่าย ยังไงก็แล้วแต่ เพื่อนๆ
แต่ข้อควรระวังก็คือ การต่อ ไดโอดผิด
ถ้าต่อไดโอดผิด ไดโอด ก็จะร้อนและไหม้ในทันทีครับ
และไดโอดที่ใช้ถ้าความถี่สูงเกิน 1kHz ขึ้นไป ควรที่จะเปลี่ยนไปใช้เป็นพวก schotky ไดโอด แทน น่าจะดีกว่าครับ
ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่า schotkyไดโอดมันคืออะไรผมได้ทำคลิปอธิบายไปแล้ว ยังไงเข้าไปรับชมย้อนหลังได้
สำหรับคลิปนี้ผมขออธิบายไว้เท่านี้ก่อน
ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่ติดตามรับชมครับ