ทำไงดี? ปรับตัวเข้ากับที่ทำงานใหม่ไม่ได้

ทำไงดี? ปรับตัวเข้ากับที่ทำงานใหม่ไม่ได้ | Life CRY SIS EP49

Рет қаралды 13,192

Күн бұрын

Пікірлер: 21

@littlemrighthere9093 2 жыл бұрын

ดีใจที่Life Cry sisออกมาพูดเรื่องนี้ สำหรับเรา จะรู้สึกกังวลไปก่อนเสมอในทุกๆการเริ่มต้นใหม่ค่ะ รวมไปถึงทุกการเปลี่ยนผ่าน เช่นจากการเรียนแล้วไปทำงานด้วย เราก็เห็นด้วยค่ะว่ามันคือ "การกลัวไปก่อน" กลัวไปหมดเลยค่ะ ทั้งกลัวการผิดหวัง กลัวการเฟลกับตัวเอง เรารู้สึกว่าเพราะ การที่เรากำลังจะไปในสถานที่ "ใหม่" ที่เราไม่รู้เลยว่าจะต้องไปเจอกับอะไรบ้าง เลยได้มุมมองจากรายการแบบนี้เลย อันแรกเลย เราคิดว่าอย่าคาดหวังในตัวองค์กร อาจเพราะทุกๆความคาดหวัง มักจะมีความผิดหวังมาด้วยเสมอ บางครั้งเราเคยฟังว่ามันแย่ แต่ความจริงมันเป็นเพราะคนที่เล่าให้ฟังเขาเจอเรื่องแย่ๆ แต่เรื่องแย่ๆนั้นอาจไม่เกิดขึ้นกับเราก็ได้ เรา “ค่อยๆ” จะเรียนรู้และปรับตัวได้ ถ้าวันแรกมันแย่มันไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมดขององค์กรนั้น เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น เพราะถ้าเราไม่พร้อมแต่เราฝืนเข้าสังคมเกินไป มันจะอึดอัด อีกหนึ่งที่เราคิดว่าใช้ได้ในกับคสพ.อื่นๆที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมงานได้ด้วย คือใช้วิธี small talk หรือที่พี่ๆเรียกว่า "ประตูสู่detox" ค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับหลายๆคนในที่ทำงาน ค่อยๆจูนกัน เช่น ลองบ่นเรื่องทั่วไปให้คนข้างๆ เรื่องรถติด น้ำไม่ไหล ไฟดับ ฯลฯ, ส่งคำถามปลายเปิดที่ไม่ใช่คำตอบแบบใช่หรือไม่ อย่างวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเป็น yes/no questions อาจสร้างความอึดอัดใจ เพราะบางคนอาจคิดเห็นว่าคำถามแค่ต้องการใช่หรือไม่ใช่ก็ตอบไปแค่นั้น เราเป็นคนพูดไม่เก่งอยู่แล้ว รู้สึกอยากปรับไปใช้เลยค่ะ เราเห็นด้วยกับการลองหา best friend/buddy ในที่ทำงาน - ถ้ารู้สึกคลิกกับใคร อาจลองจีบๆเป็นเพื่อน แต่สำหรับตัวเองคิดว่าถ้าหาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร y-y แต่จะลองพยายามดูก่อนเลยนะคะ อันที่เราชอบมากๆๆ คืออันนี้เลย การทำงานเป็นอีกหนึ่งบทบาท แต่ไม่ใช่ตัวตนของเรา เราชอบความคิดที่ว่า “การทำงานเหมือนกับเราใส่หมวกใบหนึ่ง ถ้าเลิกงานแล้วเราสามารถถอดหมวกใบนั้นออกแล้วใช้ชีวิตต่อได้ เราไม่จำเป็นต้องอยู่ในพาร์ทการทำงานตลอดเวลา ให้เวลาพักกับตัวเอง” (แนวๆ alter ego) การแยกพื้นที่ทำงาน และพื้นที่พักผ่อนปลอดภัยสำคัญมากๆ ร่างกายจะไม่เกร็งเกินไป สุขภาพจิต สุขภาพกายก็ดีไปด้วย เพราะเคยไม่แยกค่ะ พังเลย555555 y-y ส่วนเรื่องที่เรารู้สึกว่า new information! มากๆ คือเรื่อง self-fulfilling prophecy ค่ะ แบบเวลาที่เราคิดว่าใครบางคนคิดกับเรายังไง โดยที่ไม่ได้ถามอีกฝั่ง ไม่ได้รู้จริงๆว่าอีกฝ่ายคิดกับเรายังไง เราก็จะทำตัวสอดคล้องกับสิ่งที่เราคิดเอาเองว่าเขาคิดกับเรายังไง เช่น คิดว่าเขาไม่ชอบ ก็กลายเป็นว่าเราจะไม่ชอบเขาแทน ข้อนี้จะสนับสนุนเหตุผลที่เราควรจะเปิดหู เปิดตา เปิดสมอง เปิดใจกับที่ทำงานใหม่ๆ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ บางครั้งในสังคมเดิมที่เราเคยอยู่ การพูดลงท้ายว่า “ค่ะ” เป็นเรื่องจำเป็น แต่ในที่ทำงานใหม่ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ แล้วถ้าเพื่อนในที่ทำงานใหม่ไม่ได้พูดค่ะกับเรา เราอาจคิดว่าเราไม่ชอบเราหรือเปล่า ทำให้เราทำเหมือนไม่ชอบเขากลับด้วยจริงๆ เราเลยคิดว่าเคยเป็นเลยค่ะ กับเพื่อนร่วมงาน เคยคิดว่าทำไมเขาคุยน้อยกับเรา เขาไม่ชอบอะไรกับเราหรือเปล่า ก็เลยไม่ค่อยพูดกับเขาเท่าไหร่เลย y-y อยากเป็นกำลังใจให้คนที่ผ่านมาอ่านคอมเม้นนี้นะคะ เป็นมุมมองที่ได้จาก ep.นี้ เลยคือ สังคมในที่ทำงานมาจากหลายๆคน มุมมองการมองก็กว้างจริงๆ คนที่ไม่ชอบเรา เพราะประสบการณ์ชีวิตมันต่างกัน มุมที่มองจึงเป็นคนละมุม คนที่มองจากคนละมุมก็รู้สึกว่าฝ่ายตัวเองถูกต้องที่สุด ดังนั้นเจอคนนิสัยไม่ดี คุยเท่าที่จำเป็น อย่าลืมที่จะคีพความมืออาชีพเอาไว้ ถ้ามันแย่ใหญ่มากๆ คิดซะว่าอย่าเอาพลังงานไปแลกกับคนแบบนั้นถ้าไม่ไหว ปล่อยวางกัน เพราะเรื่องที่ลำบาก สิ่งนี้มันไม่ตลอดไป :- ) ขอบคุณคุณมะเฟือง คุณใบเตย ขอบคุณทีมงาน “ทุกๆคน” ขอบคุณมีรายการนี้และทำให้เรารู้ว่าไม่ได้มีแค่เราที่เจอปัญหา ขอบคุณมากๆ ค่ะ

@pannitaview7546 Жыл бұрын

Love this comment

@pnxwx_ 8 ай бұрын

ขอบคุณค่ะ

@yokonajung8724 3 ай бұрын

ขอบคุณคลิปนี้มากเลย ดีใจที่มีคุณเฟือง เข้าใจเราหมดเลยอ่ะ ฮือๆๆ มาช่วยชีวิตเราไว้พอดี ไม่มีใครที่เข้าใจเรื่องนี้ลึกซึ้งเเบบนี้ที่เราพอจะคุยได้เลย เเต่พวกพี่ๆคือพูดครบทุกอย่าง ตรงเป๊ะทุกเรื่องที่เราคาใจ เจ็บปวดใจ มาเยียวยาไว้ได้ทันพอดี ให้มีกำลังใจจะลองสู้อีกครั้ง อย่างน้อยเราไม่ได้เเปลกไม่ได้เป็นคนเดียว

@paris9289 2 жыл бұрын

😚😚ขอบคุณที่ทำคลิปพูดคุยสนุกๆ ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น มีประโยชน์มากค่ะ ถึงเราจะทำงานที่ใหม่มา 1 ปีได้ แต่ยังรู็สึกไม่ belong ค่ะ เราไม่ใช่คนสร้างและพัฒนาคสพ. เก่งค่ะ แต่ที่อยากให้ชี้ทางเพิ่มคือ การเปิดใจ คืออะไร ทำยังไงคะ เรื่องนี้จะประยุกต์ได้ในแง่ เข้าสังคมใหม่ๆและความรักด้วยค่ะ

@Happyfai3701 Жыл бұрын

กำลังเจอปัญหานี้อยู่เลยค่ะ เราเป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามา แล้วทุกคนที่ทำงานเขาสนิทกันหมดเลยรู้สึกเหมือนมีกำแพงหนา ๆ กั้นอยู่ตลอดเลยค่ะ ช่วงแรก ๆ เขาก็พอจะชวนคุยด้วย แต่เวลาที่ลองออกความคิดเห็นก็จะมีคนอื่นแทรกขึ้นมาร่วมวงสนทนาด้วยตลอด เลยกลายเป็นเราแทบไม่ได้พูดอะไรเลย ส่วนตัวไม่ใช่คนคุยเก่งอยู่แล้วค่ะ เจอแต่คนที่พูดเก่งก็เลยปิ้วเลย 😢 ผ่านไปปีกว่าตอนนีโดดเดี่ยวแทบสมบูรณ์ค่ะ (งานเราติดต่อกับภายนอกมากกว่า ไม่ได้ประสานงานอะไรกับคนในออฟฟิศค่ะ)

@YibYibina Жыл бұрын

เจอมาเหมือนกันค่ะ แบบนี้เรียกว่า เราถูกกดความสามารถ ข่มความสามารถ

@chonnikarnchangkwein3902 26 күн бұрын

สู้ค่ะ พูดแทรกกลับอย่า ยอม

@giftsrisukthaksin1867 4 ай бұрын

ขอบคุณมากเลยนะคะ นำมาปรับใช้ได้จริง และดีมากๆเลยคะ 🙏

@Chanisawiriyakobbun9861 Жыл бұрын

ชีวิตเรา เราเลือกมุมมองการใช้ชีวิตเอง แต่ถ้าเกิดไม่ดี ลองปรับมุมมองหรือหาโอกาสใหม่ค่ะ

@sirinapromsan5586 2 жыл бұрын

ep. นี้ ดีมากๆๆ เลยค่ะ. ขอบคุณสำหรับเนื้อหา ดีๆ แบบนี้ นะคะ..ทำให้มองหาทางออกได้ค่ะ😊😊

@bumbalmm8442 2 жыл бұрын

ขอบคุณมากๆเลยครับ เนื้อหาดีมากๆ ส่วนตัวมีปัญหาเข้ากับน้องๆที่ทำงานใหม่ไม่ค่อยได้เหมือนกัน เพราะเป็นIntrovert ที่เพิ่งได้เข้าออฟฟิศหลังจากWFHเป็นเวลานาน น้องๆที่ทำงานมีGeneration Gap ที่ห่างประมาณ5-6ปี และเป็นผู้หญิงซะเยอะเลยครับ (เหมือนศูนย์รวมความเข้าหายากไปในหนึ่งเดียวเลย 555) จะค่อยๆเอาคำแนะนำในคลิปไปปรับใช้นะครับ

@YibYibina Жыл бұрын

ออฟฟิศคล้ายๆเป็นจุดศูนย์รวมของคนที่มี....มารวมกันซะ อีโก้ของแต่ละคนสูงมาก ไม่มีใครยอมโง่ ไม่มีใครยอมใคร พูดต้องเก่งต้องเสียงดัง บางคนข่มคนที่อ่อนกว่าตลอด

@YibYibina Жыл бұрын

เจอการบูลลี่และท็อกสิกจากที่ทำงานบ่อยจนขาดความมั่นใจ มาทำงานจะเข้าปีที่2แล้ว ถึงปัจจุบันนี้ก็ยังปรับเข้ากับที่ทำงานยังไม่ได้เลย ขืนอยู่กับเขานานๆไปฉันจะเป็นจิตไหมเนี่ย?????