Рет қаралды 39,863
หลวงพ่อเงิน ขี้ตายุคต้น เนื้อสำริดทองผสม
วิธีหนีพระเก๊ ความลับที่คนขายไม่สอน #พระเครื่อง #วัตถุมงคล
พระเครื่องและวัตถุมงคลของหลวงพ่อเงิน เป็นหัวข้อที่มีพี่ๆ เพื่อนๆ ถามกันมาบ่อยโดยเฉพาะพระรูปหล่อ และมักมีข้อสงสัยเวลาเห็นของที่นักสะสมรุ่นเก่าๆ หรือคนในพื้นที่เก็บกัน เมื่อเทียบกับพระรูปหล่อที่คนส่วนมากนำมาให้ดูกัน ทั้งธรรมชาติ พิมพ์ทรง เนื้อหา มวลสาร และความเป็นเนื้อสำริด ก็จะเห็นความต่างกันค่อนข้างเยอะ หลายคนน่าจะเคยได้ยินว่าพระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน ต้องเป็นเนื้อสำริดทองผสม แต่เดี๋ยวนี้ที่เห็นเล่นกัน ทำไมมีแต่เนื้อทองเหลือง ถ้าจะหาพระหลวงพ่อเงินแท้ทันยุคไว้อาราธนาใช้ จะเลือกแบบไหนดี อันนี้พี่ๆ เพื่อนๆ ลองฟังคลิปของ ๔ มีนา แล้วน่าจะได้คำตอบในใจครับ
สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ คลิปนี้เรามาเช็คพระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา เนื้อสำริดผสมแร่ หล่อโบราณ ที่ ๔ มีนา จัดว่าเป็นพระที่สร้างในยุคต้นๆ ของการสร้าง สิ่งที่เราจะใช้เช็คพระรูปหล่อพิมพ์ขี้ตา มี จุดหลักๆ คือ ความเป็นเนื้อโลหะผสมหรือสำริด และธรรมชาติที่เกิดจากการหล่อโบราณ ตามประวัติหลวงพ่อเงินท่านเกิดปีในช่วงประมาณ พ.ศ.๒๓๕๐ และมรณภาพในปี พ.ศ.๒๔๖๔ ดังนั้นวัตถุมงคลทุกชิ้นที่ทันหลวงพ่อเงิน ต้องผ่านอายุมาแล้วอย่างน้อย ๑๐๐ ปี และถ้าเป็นยุคต้นๆ อาจจะลึกได้ถึง ๑๖๐ ปี
เรามาเริ่มต้นเช็คพระองค์นี้กันครับ
พุทธศิลป์
เป็นพระรูปหล่อลอยองค์ เศียรกลมใหญ่ มีรายละเอียดบนใบหน้า จมูกใหญ่ ปากยิ้ม ทรงพระสังกัจจายน์ มีเส้นแตกที่ช่วงหน้าอกด้านบน โค้งเหมือนสายสร้อย สังฆาฏิหนา ริ้วจีวรใหญ่ชัด มือทั้งสองข้างอยู่ที่กลางลำตัวบริเวณท้อง ประทับในท่าสมาธิราบ ขาข้างขวาทับขาข้างซ้าย บนฐานเขียงหนาใหญ่ ด้านหลังมีสังฆาฏิใหญ่ และเห็นรอยริ้วจีวร ใต้ฐานมีร่องรอยของการเทโลหะ
เนื้อพระ
เป็นเนื้อสำริดทองผสม ส่วนผสมหลักจะมีทองคำ ทองแดง และสังกะสี รวมถึงแร่แฝงต่างๆ ที่ปนมาได้ตามธรรมชาติ การใช้ทองแดงผสมสังกะสี จะได้โลหะที่มีความทนทานกว่าทองแดง และยังมีสีเหลืองคล้ายทอง ที่เรียกกันว่าทองเหลือง ดังนั้นทองเหลืองเป็นโลหะผสม ไม่ใช่โลหะหลักตามธรรมชาติ
พระรูปหล่อทันยุคหลวงพ่อเงินก็เช่นกันครับ เนื้อทองเหลือง ซื้อได้ขายได้ก็ขายไป แต่ถ้าจะหาไว้บูชาใช้พุทธคุณ หาเนื้อสำริด และมีธรรมชาติของหล่อโบราณนะครับ
ธรรมชาติพระหล่อโบราณ
เรามาดูธรรมชาติพระที่สร้างด้วยวิธีหล่อโบราณกันก่อนนะครับ สิ่งแรกคือเราจะดูพุทธศิลป์ ดูว่าเป็นพระรูปหล่อพิมพ์ขี้ตา ตำหนิพิมพ์ไม่ใช่เรื่องสำคัญ โดยเฉพาะพระรูปหล่อพิมพ์ขี้ตาที่เป็นการสร้างแบบหล่อเบ้าทีละองค์ รายละเอียดในองค์พระแต่ละองค์ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันไปทั้งหมด แต่พุทธศิลป์จะเป็นไปในทางเดียวกัน
ถ้าฉีดพิมพ์ หล่อเหวี่ยงแบบสมัยใหม่ก็จะได้พระทุกองค์เหมือนกันตามต้นแบบ ตำหนิเป๊ะ เนื้อพระจะเป็นทองเหลืองเนื้อเดียวไม่มีกระแสโลหะ แล้วก็นำไปแต่งผิว ซึ่งถ้าเป็นพระรูปหล่อทันยุคหลวงพ่อเงิน หล่อเหวี่ยงคือเก๊แน่นอนครับ ดูแค่รูปลักษณ์ภายนอกแต่งเก่าๆ เลือนๆ ไม่พอนะครับ ต้องดูธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการหล่อโบราณ ตามการผ่านอายุมาเป็นร้อยขึ้นไป
เรามาเช็คเนื้อพระกัน
พื้นฐานอย่างแรกของพระเก่า ก็ต้องเห็นความแห้งที่เกิดจากการผ่านอายุ ผ่านอากาศ สัมผัสความร้อน ความเย็น เกิดความชื้นที่ระเหยไปแล้วทิ้งคราบสะสมตัวเป็นร้อยปี ขึ้นเป็นผดหรือคราบแห้งๆ บางๆ ถ้าเป็นพระผ่านการใช้ ให้หาความแห้งในร่องหรือตามซอกให้เจอนะครับ ส่วนพระล้าง ให้ดูความเหี่ยวและกระแสโลหะแทน
เนื้อเหี่ยว
ด้วยธรรมชาติของพระหล่อโบราณ ความเหี่ยวกร่อนที่เกิดขึ้นกับโลหะผ่านอายุ และออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากโลหะหลายชนิดที่อยู่ในเนื้อพระ ส่วนผสมของโลหะแต่ละชนิดในองค์พระแต่ละจุดก็เกิดออกไซด์ไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน ทำให้เนื้อพระเก่าจะไม่เรียบตึงเหมือนพระหล่อเหวี่ยงแบบพระใหม่
กระแสโลหะ
กระแสโลหะเป็นจุดสำคัญในการดูพระเนื้อสำริดที่เกิดจากการผสมโลหะต่างชนิดเข้าด้วยกัน ช่วงสิบปีมานี้ การดูกระแสโลหะยากขึ้น เนื้อทองเหลืองแต่งผิวแต่งสีทำได้ดีขึ้นมาก มีสีที่หลากหลายในเนื้อพระแต่ละจุด จนบางครั้ง แค่ดูผ่านๆ ถ้าไม่ดูความหลากหลายที่เกิดจากธรรมชาติ โดนได้เลยครับ
ออกไซด์
เมื่อธรรมชาติของโลหะทุกชนิดจะต้องเกิดออกไซด์เมื่อถูกอากาศ มากน้อย ช้าเร็ว ก็จะมีธรรมชาติที่เกิดขึ้นต่างกันตามชนิดของโลหะ ออกไซด์ที่เราจะเช็คกันในพระรูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา ยุคต้น เราจะดูออกไซด์ของทองคำ ทองแดง สังกะสี และแร่งแฝง
ความลับเหล่านี้นักสะสมพระเครื่องและคนรุ่นเก่าๆ ในพื้นที่เค้ารู้กัน หนังสือขายพระจากกลุ่มคนเดิมๆ ไม่เคยบอก คนขายพระก็ไม่เคยรู้ หรือรู้ก็ไม่พูด ไม่เล่าให้เราฟัง เพราะของที่มีจะขายไม่ได้ ที่ขายไปแล้วก็จะโดนคืนกันหมด เพราะขายพระผิดธรรมชาติ ผิดอายุกันมานาน
การดูพระเก่า เราจะไม่ดูว่าจะต้องมี หรือไม่มีอะไรเท่านั้น พระเครื่องหลวงพ่อเงินแต่ละพิมพ์ ก็ไม่ได้มีการสร้างครั้งเดียว วาระเดียว ส่วนผสม มวลสารแต่ละครั้งก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน มาตรฐานวัด ไม่ใช่มาตรฐานโรงงานนะครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นพระเครื่องหลวงพ่อเงินยุคหลังๆ ที่ใช้โรงหล่อพระสร้างตามเรื่องที่เค้าเล่ามาก็ตาม ก็ยังต้องดูธรรมชาติ ดูกระแสโลหะ ดูออกไซด์เหมือนกัน ใช้การท่องเนื้อ จำพิมพ์ไม่ได้ หรือเทียบตำหนิไม่ได้ เลิกเทียบพระของเรากับพระของคนดังๆ ไม่ได้ช่วยอะไรครับ สมัยก่อน ๔ มีนาก็เคยทำ แล้วก็ทิ้งพระดีๆ ลงกระป๋องไปเยอะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูว่าสิ่งที่มีอยู่เดี๋ยวนี้และตอนนี้ เข้าใจว่ามีธรรมชาติเป็นอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงให้เราเห็น เป็นไปตามอายุของพระเครื่องหรือไม่ นี่คือหัวใจของการดูพระเก่าและวัตถุโบราณ วิทยาศาสตร์ช่วยได้ แต่ความรู้ในการดูและการวิเคราะห์ธรรมชาติ เป็นหัวใจสำคัญในการดูของเก่า พระเก่าไม่ได้แท้เพราะว่ามีหรือไม่มีอะไร แค่นั้นไม่พอ เพราะทุกวันนี้พระปลอมเค้าใส่ได้ทุกอย่าง ตรวจแล้วก็เจอทุกอย่างที่เราต้องการให้มี ไม่พอจริงๆ และใครที่เชื่อว่าพระปลอมเค้าไม่มีทางใส่ทองคำแท้ๆ เข้าไปผสม คุณกำลังดูถูกตลาดพระปลอมนะครับ