Рет қаралды 1,950
1 ยอห์น 4:17-21
4:17 ในสิ่งนี้แหละความรักของพวกเราก็ถูกทำให้สมบูรณ์ เพื่อพวกเราจะได้มีใจกล้าในวันแห่งการพิพากษา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นอย่างไร พวกเราก็เป็นอย่างนั้นในโลกนี้
*** คำว่า “ในสิ่งนี้แหละความรักของพวกเราก็ถูกทำให้สมบูรณ์ “ ในสิ่งนี้ คือการดำเนินชีวิตที่สนิทในพระเยซูและพระเยซูสนิทในเรา “ความรักของพวกเราก็ถูกทำให้สมบูรณ์” เพราะว่าพระองค์เป็นความรักและความรักของพระองค์ก็เต็มล้นในเรา เราจึงรักพระเจ้าสุดจิตสุดใจและรักเพื่อนบ้าน รักศัตรู รักทุกคนได้โดยไม่มีเงื่อนไข
*** เมื่อเรามีชีวิตอยู่โดยเอารักเป็นหลัก เป็นที่หนึ่ง เป็นศูนย์กลาง เราจึงไม่กลัวจะถูกปฎิเสธเมื่อพระเยซูกลับมาพิพากษาผู้เชื่อทั้งหลาย
4:18 ไม่มีความกลัวในความรัก แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขจัดความกลัวออกไปเสีย เพราะว่าความกลัวมีความทุกข์ทรมาน ผู้ที่กลัวก็ยังไม่ถูกทำให้สมบูรณ์ในความรัก
*** เรารู้ดีว่า คริสเตียนศาสนามีแต่ความกลัว เนื่องจากว่าเขายังสับสนเรื่องจะรอดหรือไม่รอด เขายังทำบาปมากมายพระเจ้าจะยกโทษหรือไม่ยกโทษ เขาไม่ได้รักพระเจ้าสุดจิตสุดใจและไม่รักใครด้วยอากาเปเลยเพราะว่าเขาไม่มี ผู้เชื่อทุกวันนี้จึงอยู่ด้วยความกลัว และทนทุกข์ทรมานเพราะว่าพวกเขาไม่พบทางออกของชีวิต
4:19 พวกเรารักพระองค์ ก็เพราะพระองค์ได้ทรงรักพวกเราก่อน
*** ความรักที่เรามีต่อพระเจ้าทุกวันนี้ ได้มาจากความรักที่พระองค์ประทานให้เราในเรา เมื่อพระคริสต์ทรงสถิตอยู่ภายในเรา พระองค์เป็นความรัก พระองค์รักเราในเรา และให้ความรักนี้เกิดผลและทำกิจภายในเรา สุดท้ายสิ่งที่เราได้รับก็คือความรัก และความรักก็เต็มล้นในเรา เราจึง รัก (อากาเป) พระเจ้าและทุกคนได้
4:20 ถ้าผู้ใดกล่าวว่า “ข้าพเจ้ารักพระเจ้า” และยังเกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นก็เป็นคนพูดมุสา เพราะว่าผู้ที่ไม่รักพี่น้องของตนที่เขาแลเห็นแล้ว เขาจะรักพระเจ้าที่เขาไม่เคยเห็นอย่างไรได้
*** ผู้เชื่อที่กล่าวว่า ข้าพเจ้ารักพระเจ้า แต่ยังเกลียดชังพี่น้อง คือผู้เชื่อที่ไม่ได้สนิทในพระเยซูจริง ๆ เขายังไม่มาถึงพระคำล้ำลึก ยังไม่พบความสว่างของพระเยซู (ยอห์น 2.9) ถ้าหากเขาสนิทในพระเยซูและพระเยซูสนิทในเขา เขาก็จะต่ำถ่อมยอมเสียเปรียบและรักทุกคนได้ และยิ่งไปก่วานั้นเขาจะรักพระเจ้าที่ตามองไม่เห็นได้
4:21 และพระบัญญัตินี้พวกเราได้มาจากพระองค์ คือให้คนที่รักพระเจ้านั้นรักพี่น้องของตนด้วย
*** “พระบัญญัตินี้ “ ในที่นี้คือพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู (ยอห์น 13.34 / 1 ยน 2.7-11)